จับตาให้ดี : 7 แข้งหน้าใหม่ในเวทีแชมเปี้ยนลีกฤดูกาลนี้

 

ในที่สุดสัปดาห์ที่คอลูกหนังรอคอยก็มาถึงซักที ศึกชิงแชมป์สโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กลับมาเปิดฉากกันอีกครั้ง หลังจากหายไปนานเกือบ 2 เดือน

 

โดยการแข่งขันในรอบนี้เป็นรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมต่างๆก็ได้เสริมทัพในตลาดนักเตะเดือนที่ผ่านมากับพอสมควร และด้วยกฏของทัวร์นาเม้นต์นี้ สโมสรสามารถเปลี่ยนรายชื่อผู้เล่น 25 คนที่โม่แข้งในรายการนี้ได้ ทำให้ทีมสามารถเพิ่มนักเตะที่หายจากอาการบาดเจ็บกลับมา รวมไปถึงนักเตะป้ายแดงที่ทีมเพิ่งคว้าตัวมาด้วย

 

และนี่คือ 7 แข้งหน้าใหม่ในเวทีแชมเปี้ยนลีกฤดูกาลนี้ที่แฟนลูกหนังหลายคนตั้งตารออยากเห็นฝีเท้าของพวกเขากับต้นสังกัดในเร็วๆนี้แล้วล่ะ แต่จะมีใครกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

 

 

อัลบาโร่ โมราต้า (แอตฯมาดริด)

 

 

แฟนเชลซีต่างหวังให้กองหน้าชาวสเปนกลับมามั่นใจเหมือนช่วงแรกๆที่ย้ายสวมเครื่องแบบสิงห์บลู แต่อัลบาโร่ โมราต้า ยิงในลีกไปแค่ 5 ประตูจากการลงสนาม 16 นัดเท่านั้น ก่อนตัวเขาจะย้ายกลับบ้านเกิดไปเล่นให้ยักษ์ใหญ่ในลาลีก้าอย่าง แอตเลติโก้ มาดริด

 

โมราต้าย้ายไปอยู่กับทีมตราหมีจนจบฤดูกาลนี้ ดังนั้นเขาจึงมีเวลาอยู่พอสมควรในการกลับในลู่ทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง เหมือนสมัยที่ค้าแข้งกับเรอัล มาดริด หรือ ยูเวนตุส นั่นก็คือต้องกลับมายิงประตูให้ได้ โดยเฉพาะในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

 

แต่นี่ก็ถือเป็นงานหนักสำหรับแอตเลติโก มาดริด เช่นกันในการดึงโมราต้าคนเก่าให้กลับมาอีกครั้ง และถ้าหัวหอกชาวสเปนสามารถเอาชนะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้และเพื่อนพ้องของเขาในทีมยูเวนตุส ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ ความล้มเหลวในช่วงครึ่งฤดูกาลของเขาคงคอยเลือนหายไปตามกาลเวลา ยกเว้นแต่ว่าคุณเป็นแฟนเชลซีซะเอง

 

 

เควิน ปริ้นซ์ บัวเต็ง (บาร์เซโลน่า)

 

 

หนึ่งในการย้ายตัวที่ช็อคที่สุดในตลาดนักเตะเดือนมกราคมปีนี้ อดีตนักเตะ สเปอร์ และ พอร์ทสมัธได้โบกมือลาอิตาลีชั่วคราวเพื่อย้ายมาเล่นให้กับทีมในแคว้นกาลาตันอย่างบาร์เซโลน่า

 

ไม่มีใครสงสัยว่าบัวเต็งย้ายมาที่นี่ทำไม แต่คนที่ถูกตั้งคำถามน่าเป็นบาร์ซ่าเองมากกว่า เพราะแข้งวัย 31 ปีทำประตูในเซเรียอาแค่ 4 ลูกเท่านั้นในปีนี้

 

ความแข็งแกร่งของเจ้าบุญทุ่มทำให้พวกเขามีโอกาสอย่างมากที่จะคว้าแชมป์ในรายการนี้อีกครั้ง ไม่แปลกที่บัวเต็งจะคว้าโอกาสนั้นแบบไม่ต้องคิดซ้ำหลายรอบ และถ้าเขาคว้าแชมป์รายการนี้กับบาร์ซ่ามาได้จริงๆล่ะก็ เรื่องนี้คงเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลไปอีกนานแสนนานเลย

 

 

อเล็กซ์ อ็อกเล็ด แชมเบอร์เลน (ลิเวอร์พูล)

 

 

ในปีที่แล้ว ดิ อ็อกซ์ โชว์ฟอร์มกับลิเวอร์พูล ต้นสังกัดใหม่ได้อย่างโดดเด่นในช่วงหลังปีใหม่เป็นต้นไป แถมพาทีมเข้ารอบลึกในเวทียุโรปด้วย แต่โชคร้ายที่เขาเกิดบาดเจ็บหนักซะก่อน ทำให้พลาดโอกาสลงเล่นในนัดชิงยูซีแอล, ฟุตบอลโลกที่รัสเซีย รวมไปถึงเกมในฤดูกาลนี้ด้วย

 

อย่างไรก็ตาม เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่หงส์แดงก็ใส่ชื่อกองกลางสารพัดประโยชน์คนนี้ไว้ในรายชื่อ 25 คนในศึกแชมเปี้ยนลีกรอบต่อไปด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า แชมเบอร์เลนอาจจะหายกลับมาช่วยทีมได้ในอนาคตอันใกล้นี้

 

แม้ว่าจะมีคำถามตามมาว่า อาการบาดเจ็บจะมีผลต่อฟอร์มการเล่นหรือเปล่า รวมไปถึงการล้างสนามไปนานเกือบปีด้วย แต่เดอะ ค็อป เชื่อมั่นอยู่แล้วว่า แชมเบอร์เลนจะยังเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะลงเป็นตัวจริงหรือตัวสำรองก็ตาม และไม่แน่เราอาจจะได้เห็นอดีตแข้งอาร์เซน่อลลงเล่นกับบาเยิร์น มิวนิคในเกมวันอังคารหน้าก็เป็นได้

 

 

แร็บบี้ มาทอนโด้ (ชาลเก้)

 

 

แข้งดาวรุ่งชาวเวลส์ย้ายมาอยู่กับชาลเก้ในเดือนที่ผ่านมาและอาจจะทำผลงานได้เข้าตาก็เป็นได้เมื่อเจอกับทีมเก่าอย่างแมนซิตี้ ในยูซีแอลรอบ 16 ทีมสุดท้าย

 

มาทอนโด้เป็นนักเตะจากสหราชอาณาจักรรายล่าสุดที่ย้ายมาค้าแข้งในบุนเดสลีก้า ต่อจากจาดอน ซานโช่ และ รีซ เนลสัน โดยย้ายมาร่วมทัพราชันสีน้ำเงินด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ และได้ประเดิมสนามไปแล้วในเกมที่ชาลเก้อัดฟอร์ทูน่าไป 4-1 ในบอลถ้วย

 

โดมินิโก้ เทเดสโก้ กุนซือของทีม อธิบายความสามารถของแข่งหนุ่มรายนี้ว่าเป็นนักเตะที่รวดเร็วมากๆ และเทคนิคก็ยอดเยี่ยมเกินวัย และด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีกับชุดใหญ่ของซิตี้อยู่บ่อยครั้ง เชื่อว่ามาทอนโด้จะมีโอกาสโชว์ฝีเท้าในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมอย่างแน่นอน

 

 

อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ (บาเยิร์น มิวนิค)

 

 

การแฟนบอลจะได้เห็นนักฟุตบอลจากแคนาดามาเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกถือเป็นเรื่องที่หายากมากๆ มิลาน โบยาน และ อติบ้า ฮัทชินสัน คือแข้งแคนาดา 2 คนเท่านั้นที่ได้ลงเล่นในยูซีแอลฤดูกาลนี้ แต่ทว่าต้นสังกัดของพวกเขาอย่าง เร้ดสตาร์ เบลเกรด และ เบซิคตัส ได้ตกรอบแบ่งกลุ่มไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

นี่จึงเป็นเรื่องดีที่บาเยิร์นคว้าตัว แข้งดาวรุ่งแคนาดาอย่าง อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ มาร่วมทีมและใส่ชื่อลงในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกด้วย

 

เสือใต้ได้จ่ายเงินกว่า 17 ล้านปอนด์ให้ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ สโมสรจากเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ เพื่อกระชากตัวแข้งวัย 18 ปีมาร่วมทีมในตลาดนักเตะรอบที่ผ่านมา และเนื่องด้วย โธมัส มูลเลอร์ นักเตะตัวเก่งติดโทษแบนไม่สามารถลงเล่นให้ทีมได้ในเกมรอบ 16 ทีมที่เจอกับลิเวอร์พูล 2 นัด ทำให้เดวี่ส์มีโอกาสไม่น้อยที่จะได้โชว์ฝีเท้าในเวทีนี้

 

 

เลอันโดร ปาเรเดส (เปแอชเช)

 

 

กองกลางจอมแกร่งชาวอาร์เจนติน่าทำผลงานได้อย่างประทับใจในสีเสื้อ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กฤดูกาลนี้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ทีมเศรษฐีน้ำมันอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทุ่มเงินว่า 40 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมในตลาดนักเตะหน้าหนาวที่ผ่านมา

 

มิดฟิลด์วัย 24 คืออีกคนที่ได้ย้ายจากยูโรป้า ลีก และมาโชว์ฝีเท้าในเวทีที่ใหญ่กว่าอย่างแชมเปี้ยนส์ลีก และด้วยทักษะเกมรับที่เขาน่าจะช่วยให้ทีมเมืองหลวงฝรั่งเศสคว้าแชมป์ยุโรปมาได้สมใจอยากซักที

 

และทีมที่เขาจะได้พบก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากประเทศอังกฤษ ถ้าหากปาเรเดสสามารถโชว์ผลงานได้เหมือนที่ค้าแข้งในรัสเซีย อาจจะทำให้ใครหลายๆคนยกย่องในฝีเท้าของแข้งอาร์เจนไตน์มากกว่าเดิมแน่นอน

 

 

เปเป้ (ปอร์โต้)

 

 

อดีตปราการหลังจอมโหดจากเรอัล มาดริด มีชื่อเสีย(ง)มากๆ และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมของเขาคว้าชัยชนะมาครองได้ ซึ่งในยุคนั้น เปเป้ก็ทำผลงานในสีเสื้อโลส บลังโกสได้อย่างดีเยี่ยมหลังคว้าแชมป์ลาลีก้า 3 สมัย และ แชมป์ยุโรปอีก 3 สมัย

 

ปัจจุบันเปเป้มีอายุ 35 ปีแล้ว ซึ่งนี่ถือเป็นช่วงบั้นปลายของอาชีพค้าแข้งแล้ว แต่ตัวเลขเหล่านี้คงไม่สามารถหยุดเขาไม่ให้ลงเล่นในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกได้แน่นอน หลังปอร์โต้ ต้นสังกัดเก่าตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมแบบฟรีๆในเดือนที่แล้ว

 

หลังจากมีชื่อในศึกยูซีแอล ขุมกำลังของปอร์โต้ก็ดูแข็งแกร่งมากขึ้นและพร้อมเผชิญหน้ากับ โรม่า ยอดทีมจากอิตาลี ในรอบ 16 สุดท้าย แน่นอนว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีโอกาสไม่น้อยที่พวกเขาจะสามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้