หลังจากหงอยเหงามาเป็นเวลากว่า 100 วันจากพิษเชื้อโคโรน่าไวรัส ในที่สุดวันนี้พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ถึงเวลา “รีสตาร์ต” กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งในเกมที่เหลือของฤดูกาลนี้
โดย 2 คู่แรกที่จะประเดิมสนามในวันนี้ (17 มิถุนายน) ถือว่าน่าสนใจทั้ง 2 คู่ แอสตัน วิลล่า ที่กำลังหนีตายจะปะฉะดะกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ลุ้นพื้นที่ยุโรป ขณะที่อีกคู่เป็นเกม 5 ดาว แมนฯ ซิตี้ จะเปิดบ้านพบ อาร์เซนอล
เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนรับชมโค้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก ตอนนี้เหลือประเด็นอะไรบ้างที่น่าสนใจ หลังการลุ้นแชมป์ในซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล นอนมาตั้งแต่ระยะ 100 เมตร
วันนี้ทีมงาน ยูฟ่าอารีน่า รวบรวม 7 เรื่องราวที่จะเป็นไกด์ไลน์ให้คุณผู้ชมรู้ว่าลีกสูงสุดของอังกฤษ ยังมีอะไรให้สนุกอีกเยอะเลย
1.ลิเวอร์พูล กับสถิติแต้มสูงสุด
ด้วยคะแนนที่ห่างมากถึง 25 แต้ม กับเกมที่เหลืออีกประมาณ 9-10 นัด มีแต่ “ปาฏิหาริย์” เท่านั้นที่จะช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ พลิกโชคชะตากลับมาป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ได้
ดังนั้นเรื่องแชมป์ตัดไปได้เลยที่ต้องลุ้นคือ ลิเวอร์พูล จะจบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์สถิติแต้มสูงสุดได้หรือมั้ยมากกว่า เพราะจากที่ เรือใบสีฟ้า ทำไว้เมื่อ 2 ปีก่อนที่ 100 คะแนน ตอนนี้ “หงส์แดง” ห่างอยู่ 18 แต้ม
เท่ากับว่าลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หากชนะ 6 เสมอ 1 จะแต้มเท่า แต่ถ้าได้มากกว่านั้นหรือชนะ 7 เกมพวกเขาจะสร้างสถิติใหม่ทันที โดยแต้มสุงสุดในกรณีที่ ลิเวอร์พูล ชนะ 9 นัดรวดจะอยู่ที่ 108 คะแนน
2.พื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก
จากกรณีที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะโดนแบนในเวทียุโรป (รออุทรณ์กันอยู่) ทำให้โอกาสที่ทีมอันดับ 5 จะได้ส้มหล่นไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดููกาลหน้ามันก็ยังเปิดกว้างและหวังได้อยู่
ตอนนี้ เชลซี อันดับ 4 นำ แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 5 อยู่ 3 คะแนน ขณะที่ อาร์ซนอล อันดับ 9 ตอนนี้ห่างอยู่ 8 คะแนนแต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด เท่ากับว่าการลุ้นตั๋วยูซีแอลมีมากถึง 6-7 ทีม (อาจต้องนับ เลสเตอร์ หากเกิดสะดุดแพ้รัวๆ)
วูล์ฟแฮมป์ตัน, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ รวมถึง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พวกนี้ได้ลุ้นกันหมด โดยเฉพาะทีม “ดาบคู่” หากเก็บเกมตกค้างกับ แอสตัน วิลล่า ได้ พวกเขาจะมีเพิ่มเป็น 46 แต้มแซง ผีแดง ขึ้นที่ 5 และจี้สิงห์บลูส์ แค่ 2 แต้มได้เหมือนกัน
3.พื้นที่ยูโรป้าลีก
พูดกันตามตรง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือตัวแปรสำคัญเลยในการลุ้นพื้นที่ยุโรปของทีมต่างๆ เพราะนอกจากจะต้องลุ้นว่า เรือใบสีฟ้า จะอุทรณ์ได้มากน้อยแค่ไหน พวกเขายังคว้าแชมป์ ลีก คัพ ไปครองอีก เท่ากับหากเป็นสถานการณ์ปกติอันดับ 6 ของซีซั่นนี้จะได้ไป ยูโรป้าลีก ไปโดยปริยาย
แต่หาก ซิตี้ โดนแบน ก็จะทำให้อันดับ 7 ได้ลุ้นด้วย ที่สำคัญ แมนฯ ซิตี้ เองก็อยู่ในเส้นทางรอบ 8 ทีมสุดท้ายของเอฟเอ คัพ ด้วย หากลูกทีมของ เป๊ป กวาร์โอล่า เกิดได้ดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยในประเทศ งานนี้อันดับ 8 ก็จะเป็นอีกหนึ่งโควต้าที่เกิดขึ้นมา
บอกเลย 9 เกมที่เหลือยังลุ้นกันสนุก มีแต้มให้เก็บกันกระจาย พวก เบิร์นลี่ย์, เอฟเวอร์ตัน หรือ คริสตัล พาเลซ หากเตรียมตัวมาดีๆ มีฟอร์มแจ่มๆ ก็ลุ้นไปเวทียุโรปได้เหมือนกัน
4.การต่อสู้เพื่ออยู่รอด
ในระบบฟุตบอลลีกสิ่งที่มาเป็นคู่ขนานกับการลุ้นแชมป์ นั้นก็คือการตกชั้นซึ่งดีกรีความสนุกในการลุ้นช่วงโค้งสุดท้ายบอกเลยมันส์ไม่แพ้กันเลย บางทีแชมป์รู้ผลไปล่วงหน้า 2-3 นัด แต่การหนีตายส่วนใหญ่มักถึงเกมสุดท้าย
อย่างในซีซั่นนี้ถ้าตามทฤษฎีพวก เบิร์นลี่ย์ หรือ คริสตัล พาเลซ ที่เราว่ามีลุ้นพื้นที่ยูโรป้าลีก เอาจริงๆ ก็ยังไม่ได้การันตีรอดตกชั้นแบบ 100% เกิด 9 เกมที่เหลือออกทะเลแพ้รัวๆ ก็ต้องมาดิ้นเอาเฮือกสุดท้ายได้เหมือนกัน
แต่ถ้าให้เห็นภาพชัดเจนตอนนี้ นอริช จัดว่าหนักห่างจากโซนปลอดภัยถึง 6 คะแนน ทว่าตั้งแต่อันดับ 16-19 เวสต์แฮม, วัตฟอร์ด, บอร์นมัธ และ แอสตัน วิลล่า ห่างกันเพียง 2 แต้มเท่านั้น พูดง่ายๆ ชนะนัดเดียวแรงกิ้งเปลี่ยนได้ทันที
5.ดาวซัลโวสูงสุด
ซีซั่นที่แล้วถือว่าลุ้นกันสนุกทีเดียวสำหรับดาวซัลโว ก่อนสุดท้ายเป็น 3 สุดยอดจากกาฬทวีปทั้ง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ที่ครองร่วมกันที่ 21 ประตู
ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน เจมี่ วาร์ดี้ จากเลสเตอร์ นำอยู่ที่ 19 ประตู แต่ โอบามเย็อง แชมป์เก่าก็ตามมาติดๆ ห่างแค่ 2 ลูก ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ กับ ซาลาห์ ก็ซัดไปแล้วถึง 16 ประตู พวกนี้ลุ้นกันยาวๆ
จริงๆ ต้องนับ แดนนี่ อิงส์ ที่ยิงไป 15 ประตู รวมถึง ซาดิโอ มาเน่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด (14 ประตู) ด้วยที่น่าจะยังลุ้นได้ บอกเลยตรงนี้เดายากมากว่าจะจบยังไง ขึ้นอยู่กับว่าใครจะฟอร์มฮอตใน 9 เกมสุดท้ายได้มากกว่ากัน
6.สถิติแอสซิสต์ อองรี โดนท้าทาย
นับตั้งแต่ เธียร์รี่ อองรี ทำสถิติแอสซิสต์สูงสุดต่อฤดูกาลไว้ที่ 20 ประตูในฤดูกาล 2002-03 นับจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีนักเตะคนใดที่จะสามารถโค่นสถิตินี้ได้ ที่เข้าใกล้สูงสุดก็คือ เมซุต โอซิล ที่ทำไป 19 แอสซิสต์ในฤดูกาล 2015-16
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ เควิน เดอ บรอยน์ กำลังท้าทายตำนานดาวยิงของ ปืนใหญ่ หลังเจ้าตัวทำไปแล้วถึง 16 แอสซิสต์แหละเหลือเกมอีกถึง 10 นัด งานนี้ขอแค่ 4 เพื่อเทียบชั้น หรือมากกว่านั้นก็จะกลายเป็นสถิติใหม่ทันที
คุณคิดว่าเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยี่ยม จะทำได้หรือไม่ และจบซีซั่นนี้กี่แอสซิสต์ดี ?
7.ถุงมือทองคำ
อีกหนึ่งสีสันที่ดูแล้วน่าจะลุ้นกันสนุกเลยสำหรับการเก็บสถิติคลีนชีตของเหล่าผู้รักษาประตูสุดเหนียว ที่ในฤดูกาลนี้มีถึง 7 คนที่ยังได้ลุ้นอยู่ โดยผู้นำทำไว้ 11 เกมก็คือ นิค โป๊ป จากเบิร์นลี่ย์
ทว่าผู้ตามทั้ง ดีน เฮนเดอร์สัน (เชฟฯ ยูไนเต็ด), อลีสซอน เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล) และ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (เลสเตอร์) ที่ทำไปคนละ 10 นัด รวมถึง มาร์ติน ดูบราฟก้า (นิวคาสเซิล), เบน ฟอสเตอร์ (วัตฟอร์ด), บิเซนเต้ กวยต้า (คริสตัล พาเลซ) และ เอแดร์ซอน (9) พวกนี้พร้อมเสียบได้ทุึกเวลา
งานนี้บอกเลยสนุกแน่ และไม่น่ากร่อยเหมือนซีซั่นก่อนที่ อลีสซอน นอนมาตั้งไก่โห่เบ็ดเสร็จเก็บไป 21 คลีนชีตแบบไร้คู่แข่ง