ผลเสมอคาบ้านต่อ เวียดนาม ในการคุมทีมนัดแรกของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือจากแดนซามูไร พูดตามจริงคงต้องบอกว่า “ไม่น่าประทับใจ” นักสำหรับแฟนบอลชาวไทย
อย่างไรก็ตามเกมนัดที่สองแม้จะอึดอัดไปบ้างใน 45 นาทีแรก แต่สุดท้ายขุนพล “ช้างศึก” ก็ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จหลังบุกไปสอย อินโดนีเซีย แบบสกอร์ขาดลอย 3-0
ตลอด 90 นาทีมีหลายเรื่องที่ถูกแฟนบอลพูดถึง ซึ่งทีมงาน UFA ARENA ขอสรุปเป็น 5 ข้อให้เข้าใจง่ายดังนี้
“เอกนิษฐ์” ยังต้องเสริมกระดูก
จากผลงานที่ยอดเยี่ยมใน โตโยต้า ไทยลีก 2019 ไม่แปลกใจแต่อย่างใดที่แฟนบอลชาวไทย อยากจะเห็น เอกนิษฐ์ ปัญญา ก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในยุคของ อากิระ นิชิโนะ
แม้เกมแรกที่เสมอกับ เวียดนาม จะไม่มีแม้แต่นาทีเดียว แต่เกมที่เสนายัน “เจ้าบุ๊ค” ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรก แต่น่าเสียดายไม่น้อยที่ฟอร์มโดยรวมยังไม่ค่อนเข้าตานัก
แฟนบอลหลายๆ คนเห็นพ้องต้องกันว่า เอกนิษฐ์ ดูตื่นสนามในระดับชาติ การเลี้ยง การจ่าย การยิงดูไม่มั่นใจเหมือนเล่นให้สโมสร ช่วงพักครึ่งมีคอมเมนต์อยากให้เปลี่ยน บดินทร์ ผาลา ลงแทนด้วยซ้ำ
แต่ต้องไม่ลืมว่าเพลย์เมกเกอร์จาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เพิ่งอายุ 19 ปี การเล่นไม่ออกในเกมแรกไม่ใช่ผลประเมินถึงคุณภาพของเจ้าหนูรายนี้ หากเจ้าตัวยังเล่นได้ดีกีบสโมสร ก็ควรมีชื่อทีมชาติต่อไป
เชื่อว่าหากสะสมประสบการณ์มากกว่านี้ ได้โอกาสลงเล่นกับรุ่นพี่บ่อยๆ เอกนิษฐ์ จะฉายแสงได้อย่างแน่นอน
“ชนาธิป” เงียบอีกเกม
จบเกมเสมอ เวียดนาม ชื่อของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ อยู่ในท็อปบอร์ดวงสนทนาของแฟนบอลไม่น้อย ที่รู้สึกผิดหวังว่าดาวเตะหมายเลข 1 ของทีมชาติไทยเล่นไม่ออกอย่างที่ควรจะเป็น
ด้วยโค้ชใหม่ แท็กติกใหม่ การถูกประกบติดตลอด มันเป็นโจทย์ที่ยากของ “เมสซี่เจ” ที่หลายๆ ชาติ โดยเฉพาะทีมในอาเซียนรู้ดีว่าไม่ควรให้อิสระให้กับดาวเตะเจ้าของความสูง 158 เซนติเมตร
อย่างไรก็ตามแม้ทีมชาติไทย จะคืนฟอร์มเก่งบุกไปถล่ม อินโดนีเซีย 3-0 แต่ภาพรวมของ ชนาธิป ก็ยังดูไม่ค่อยดีนัก วันนี้การเล่นดูติดๆ ขัดๆ ไปหมด เลี้ยงกินตัวก็ไม่ได้ จ่ายบอลก็ดูขาดความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีม
“เมสซี่เจ” ดูเล่นสบายขึ้นหลังทีมทำสกอร์ห่าง และช่วงท้ายเกมก็มีบอลทะลุช่องสวยๆ ให้ ศุภโชค อยู่เหมือนกัน ตรงนี้เป็นโจทย์ให้ อากิระ นิชิโนะ เลยว่าจะดึงศึกยภาพของเขาอย่างไร ถึงจะได้ฟอร์มเดียวเหมือนที่เล่นให้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่
“สุภโชค” ไม่ฝ่อ
“เช็ก” คือนักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดหลังจบฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช็อตสุดท้ายที่ตัดสินใจเลือกยิงเอง แทนที่จะจ่ายให้ ชนาธิป ที่ยืนว่างอยู่
อย่างว่าแต่นักเตะดาวรุ่งเลย เป็นนักเตะทั่วไปเจอกระแสวิจารณ์แง่ลบรุนแรงแบบนี้ หลายคนถึงกับไปไม่เป็น ผลงานในสนามเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เพราะ “ความกลัว” จะบีบบังคับทำให้ไม่กล้าเล่น กล้าลุย
แต่กับ สุภโชค สารชาติ มันไม่มีผลแต่อย่างใด ลูกประตูขึ้นนำ 1-0 เจ้าตัวตัดสินใจเฉียบขาด และยิงได้อย่างเฉียบคม อันนี้ยังไม่รวมภาพรวมตลอดทั้งเกมที่เล่นได้อย่างโดดเด่น เหมาคนเดียว 2 ประตูกับอีก 1 เรียกจุดโทษ
จาก “ซีโร่” ที่โดนด่ายับในวันนั้น วันนี้ “เจ้าเช็ก” กลายเป็น “ฮีโร่” ที่พิชิตใจคนไทยทั้งชาติว่าเขาดีพอที่จะเป็นตัวหลักของ “ช้างศึก” ชุดนี้แล้ว
“สารัช-พิธิวัตต์” อย่างเนียน
แม้จะไม่เจอกับสภาพสนามที่เปียกแฉะ แต่ต้องยอมรับว่า 45 นาทีแรกของทีมชาติไทย ในเกมกับ อินโดนีเซีย ไม่ได้ต่างอะไรเลยกับเกมที่เสมอกับ เวียดนาม ในนัดแรก
ภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ ดูการเซ็ตเกมรุกของทีมชาติไทย จะค่อนข้างระมัดระวัง เน้นเอาแน่นอนไม่เสียง่าย แต่ก็ต้องแลกมากับ “ความช้า” ที่ทำให้แนวรับคู่แข่งลงมารับกันได้ทัน
ยังดีที่ครึ่งหลังเราปรับสปีดกันเร็วขึ้น แถมมาได้ประตูขึ้นนำไว ที่เหลือก็เลยเป็นงานง่ายในการคอนโทรลเกม ซึ่งต้องบอกว่าหน้าที่ตรงนี้ทั้ง สารัช อยู่เย็น และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยเฉพาะ “เจ้าตัง” ที่ตอนแรกอาจจะเป็นชื่อที่แฟนบอลไม่เห็นด้วยที่ถูกเรียกติดทีมมา แต่เจ้าตัวก็พิสูจน์แล้วว่ายังมีของอยู่ การหาตำแหน่งรับบอลคือจุดแข็งที่ทำให้ทีมชาติไทย แกะจังหวะเพรสซิ่งสวยๆ ได้ตลอดทั้งเกม
เชื่อเหลือเกินว่า อากิระ นิชิโนะ เองก็เห็นเหมือนกับแฟนบอลอย่างเราๆ โอกาสที่คู่นี้จะเล่นด้วยกันอีกในเกมหน้าที่จะเจอกับ ยูเออี ในเดือนตุลาคมนี้มีสูงจริงๆ
เกมรับยังน่าเป็นห่วง
เหมือนอย่างที่ “โจ้5หลา” ศรายุทธ ชัยคำดี กล่าวไว้ระหว่างพักครึ่งว่าทีมชาติไทยมีปัญหาในการรับมือกับเกมโต้กลับของ อินโดนีเซีย ทีมเจ้าบ้านมีโอกาส 5 ครั้งพวกเขาแทบจะพาบอลไปจบได้ตลอด
ตรงนี้ทั้งดูด้วยตาและฟังจากอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ แนวรับของทีมชาติไทยชุดนี้แม้ลงเล่น 2 นัดจะยังไม่เสียประตูเลย แต่ใช่ว่าจะเล่นได้ดีแบบหมดจด
โดยเฉพาะคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟทั้ง พรรษา เหมวิบูลย์ และ มานูเอล เบียห์ร ที่อาจจะรับมือลูกกลางอากาศได้ดี แต่พอเจอบอลทะลุช่อง หรือตัดแนวรับก็ยังมีข้อผิดพลาด หากลูกยิงของ อิรฟาน บัชดิม ดีกว่านี้ เราอาจไม่ได้เป็นฝ่ายเฮตอนจบก็เป็นได้
อีกจุดที่ “โจ้5หลา” มองไว้คือแดนกลางไม่ค่อยจะมีการตัดเกมมากนัก ทำให้บอลทะลุถึงหลังได้ง่าย ตรงนี้ก็ถูกจุดเช่นกัน เพราะครึ่งหลังเราได้เห็นทั้ง สารัช และ พิธิวัตต์ ยอมตัดฟาวล์จากกลางสนามเยอะขึ้น
เกมหน้าต้องเจอกับ ยูเออี ที่เกมรุกเอาจริงๆ ดีกว่าทั้ง เวียดนาม และ อินโดนีเซีย หาก นิชิโนะ ยังจูนให้เกมรับกลมกล่อมกว่านี้ไม่ได้ บางทีทีมชาติไทย ในยุคของเขาอาจะถึงเวลาที่จะเสียประตูแรกก็เป็นได้
