เกมบิ๊กแมตช์ส่งท้ายนัดที่ 7 ของพรีเมียร์ลีก สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซนอล กินกันไม่ลง แบ่งแต้มกันด้วยสกอร์ 1-1
แม้ผลการแข่งขันจะยุติธรรมดี หากวัดจากรูปเกมตลอด 90 นาทีที่ทั้งสองทีมได้ห้ำหั่นกัน ทว่าในมุมของ 2 คนอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ และ อูไน เอเมรี่ มันไม่ดีพอที่จะ “รีแลกซ์” จากแรงกดดันที่กำลังถาโถม
อย่างไรก็ตามแม้รูปเกมอาจจะดูเนือยๆ ไปบ้าง แต่หากนั่งชมจนจบเกมต้องบอกว่ามีอะไรให้พูดถึงเยอะทีเดียวสำหรับหลังเกม ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมของแบ่งเป็น 5 ข้อเด่นๆ ดังนี้
แรชฟอร์ด กับหน้าเป้าคำถาม ?
แม้สถิติ 7 นัด 3 ประตูของ แรชฟอร์ด ในฤดูกาลนี้อาจจะไม่ขี้เหร่เท่าไรนัก ทว่าเอากันจริงๆ ก็มีถึง 2 ประตูที่มาจากการยิงลูกจุดโทษ เท่ากับว่าดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เพิ่งทำสกอร์จากโอเพ่นเพลย์ได้เพียงประตูเดียว
เกมกับ อาร์เซนอล เป็นอีกนัดที่หัวหอกวัย 21 ปีสอบตกอย่างชัดเจน และแทบไม่ได้เป็นภัยคุกคามแก่กองหลัง “ปืนโต” เลย เพราะมีโอกาสได้ยิง 3 ครั้งหลุดกรอบไป 2 ติดบล็อกไป 1
ตัวมีชื่ออย่าง ปอล ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด ก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน กลายเป็นว่าตอนนี้ต้องให้แก๊งลูกกรอกคะนองอย่าง ดาเนียล เจมส์, สกอตต์ แม็ค โทมิเนย์ หรือ อันเดรียส เปเรร่า แบกทีมแทนซะงั้น
ขาดประสบการณ์ทำพิษ
ด้วยสภาพทีมที่มีปัญหาการขาด 2 ฟูลแบ็กตัวจริงทั้ง อารอน วาน บิสซาก้า และ ลุค ชอว์ ทำให้สถานการณ์บีบบังคับให้ โซลชาร์ ต้องเลือกใช้บริการของ อักเซล ตวนเซมเบ้ ออกสตาร์ตตัวจริง
เอาจริงๆ ภาพรวมต้องบอกว่าแนวรับดาวรุ่งชาวดัตช์ เอาตัวรอดได้ดีกับตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ไม่ถนัด มีช็อตสกัด หรือเอาตัวรอดสวยๆ ในเกมด้วย วัดกับอีกฝั่งที่มี แอชลี่ย์ ยัง ประจำการ ต้องบอกว่าเจ้าหนูรายนี้รับมือเกมริมเส้นได้ดีกว่าแข้งอาวุโสของทีมเสียอีก
อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์อันน้อยนิด ข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นฝันร้ายของเจ้าตัวไปในคืนนี้ หลังส่งพลาดในแดนตัวเองจนเป็นสาเหตุให้ทีมถูกตีเสมอ
เด็กมันมีของอยู่ แต่นานๆ จะลงสนามที บวกกับต้องเจอเกมใหญ่เลย พูดสั้นๆ ได้แค่ว่า “เห็นใจ”
ซาก้า สมควรตัวจริง
ในฟุตบอล 1 เกมแน่นอนว่าเมื่อมี “ดาวดับ” ย่อมมี “ดาวเด่น” เป็นของคู่กัน ในวันที่ ตวนเซมเบ้ ต้องเผชิญกับฝันร้าย แต่ในมุมของ ซาก้า มันคือเกมที่ยอดเยี่ยมและช่วยสร้างความมั่นใจได้อย่างมากมาย
ดาวเตะที่เพิ่งจารึกชื่อเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในเกม “ผี-ปืน” เล่นด้วยความมั่นใจเกินเด็ก กล้าเล่น กล้าคลองบอล เอาจริงๆ เกมนี้เจ้าตัวแทบไม่เสียบอลให้ แอชลี่ย์ ยัง แย่เลยด้วยซ้ำ
กับ 1 แอสซิสต์ที่ช่วยให้ทีมตีเสมอ บวกกับเกือบซัดประตูชัยได้หากลูกยิงจ่อๆ ไม่ไปแฉลบบล็อกกองหลังออกไปเสียก่อน นาทีนี้ ซาก้า คือดาวรุ่งที่ดีที่สุดเหนือ วิลล็อค และ เนลสัน ไปแล้ว
กับตัวจริงในลีก 2 นัดติดต่อกัน ต้องบอกว่าเจ้าหนูรายนี้สมควรแล้วกับโอกาสตรงนี้
ชาก้า ระเบิดเวลาชัดๆ
แม้จะได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมอย่างเป็นทางการ แต่ในสายตาสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ก็ยังตั้งคำถามตัวโตๆ ถึงประโยชน์ของดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ รายนี้
ด้วยตำแหน่งกองกลางตัวรับ ชาก้า ไม่สามารถที่จะแบ่งเบาภาระของเกมรับได้เลย ตัดบอลไม่ได้ แย่งบอลไม่เก่ง แถมยังมีลูกโฉ่งฉ่างที่พร้อมจะสร้างความเสียหายให้ทีมอยู่ตลอดเวลา
ครึ่งแรกจังหวะที่เจ้าตัวสกัดในเขตโทษพลาดหาก แรชฟอร์ด พร้อมกว่านี้คงเสียประตูไปแล้ว ไหนจะจังหวะตีเสมอที่อยู่ดีๆ ไปนอกเกมใส่ ลินการ์ด จนสุ่มเสี่ยงจะเสียฟรีคิกระยะอันตราย
ขณะที่ลูกยิงของ แม็คโทมิเนย์ จริงอยู่บอลมันแฉลบมา แต่ภาพช้ามันก็เหมือนเจ้าตัวจะก้มล้มมากกว่าจะการสกัดพลาด หรือสกัดไม่โดน
เปรียบเทียบกับคู่บัดดี้ในแดนกลางอย่าง มัตเตโอ เก็นดูซี่ ที่ยิ่งเล่นยิ่งเด่น ได้ทั้งตัดเกม ขึ้นเกม เติมไปลุ้นประตู ดูแล้ว “นิวกัปตัน” นี่เป็นภาระของน้องมันจริงๆ
เปเป้ ผู้น่าผิดหวัง
การย้ายทีมด้วยค่าตัวสถิติสโมสร ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่แฟนบอล อาร์เซนอล จะคาดหวังกับ นิโคลัส เปเป้ ไว้สูงลิบชนิดต้องเป็น “เดอะแบก” ของทีม
อย่างไรก็ตามยิ่งเล่นแรงศรัทธายิ่งถดถอย นับตั้งแต่ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมเจอ ลิเวอร์พูล นับถึงเกมเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าเจ้าตัวไม่ได้ใกล้เคียงกับฟอร์มที่แฟนบอลอยากเห็นเลย
จะเลี้ยงก็ไม่ผ่าน ยึกๆ ยักๆ อยู่กับทีม ลูกเปิดลูกครอสเข้าขั้นแย่แทบไม่เข้าเป้าเลย ขณะที่จังหวะจบสกอร์ต้องบอกว่า “ห่วย” จัด ห่างไกลกับคำว่าลุ้นประตูไปหลายลี้
เกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ปีกทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ทำบอลเสียถึง 17 ครั้งมากที่สุดในสนาม งานนี้สิ่งที่แฟนบอลกลัวว่าเขาจะเป็น “นิวแชร์วินโญ่” ภาพมันเหมือนจะเริ่มชัดขึ้นทุกที