จับ 5 ประเด็น หงส์ ดวงดีจิก ไก่ ท้ายเกม

เป็นอีกหนึ่งเกมที่เรียกว่าลุ้นกันจนหยดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ที่ต้องการ 3 แต้มเพื่อแย่งแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ บรรลุเป้าหมาย “แบบเส้นยาแดงผ่าแปด”

 

การยิงตัวตายของ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ หากเป็นฝั่ง “หงส์แดง” ต้องบอกดวงดี แต่หากคุณเชียร์ สเปอร์ส คงต้องเรียกวาโชคร้าย

 

ตลอดเกม 90 นาที คู่นี้ถือว่าสู้กันได้สนุกสมเป็นเกมบิ๊กแมตช์ของทีมหัวตาราง ซึ่งรายละเอียดของเกม มีอะไรน่าจับมาพูดคุยบ้าง ลองทัศนาจาก 5 ข้อนี้ดูกันครับ

1.ไก่พลาดครึ่งแรก

 

แม้ตัวชูโรงของ ลิเวอร์พูล ยุคนี้จะอยู่ที่ตัวรุกคุณภาพอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หรือ ซาดิโอ มาเน่ ทว่าอาวุธอีกชิ้นที่เด่นเหลือเกินในฤดูกาลนี้คือการเติมเกมของฟูลแบ็กขวา-ซ้าย

 

เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน มีฟอร์มที่เฉิดฉาย 2 คนรวมกันทำแอสซิสต์ไปแล้วถึง 15 ครั้งนับรวมเกมนี้

 

ทว่า สเปอร์ส ดันใช้แท็กติก 3-5-2 มาสู้ กลายเป็นเปิดจุดอ่อนริมเส้นให้ทั้งคู่ได้โจมตี สุดท้ายก็เป็น โรเบิร์ตสัน ที่ครอสให้ ฟีร์มิโน่ โขกขึ้นนำ และครึ่งหลัง “ไก่เดือยทอง” ต้องปรับมาเล่นหลัง 4 รูปเกมถึงดีขึ้นเยอะ

2.”อลิสซง” ที่น่าห่วง

 

นายทวารชาวแซมบ้า อาจจะมีลูกเซฟที่ยอดเยี่ยม เป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดี การย้ายมาเป็นปราการด่านสุดท้ายของเขาทำให้ ลิเวอร์พูล ดูมีเกมรับที่แข็งแกร่งขึ้นเยอะ

 

ทว่านับตั้งแต่เข้าปี 2019 เป็นต้นมา เหมือนฟอร์มของ อลีสซง จะดูแปลกๆ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยจดสถิติยิงเป็นตุง เสีย 7 ประตูจากการยิงเข้ากรอบ 11 ครั้ง

 

เกมนี้แม้ลูกเสียประตูอาจจะไม่ใช่ความผิดเขา แต่ครึ่งแรกที่ไปชนกับ มาทิป หากดวงไม่ดีบอลไม่เป็นใจหล่นไม่ไกลตัว การถูกนำไปก่อน หงส์แดง อาจจะไม่ได้ 3 แต้มแบบนี้

 

ตอนนี้ความมั่นใจ การสื่อสาร ดูมีปัญหาทีเดียวสำหรับเจ้าตัว

3.ฟานไดจ์ Show Again

 

เราพูดมาตลอดฤดูกาลว่า เวอร์กิล ฟาน ไดจค์ คือกองหลังที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกเวลานี้ และถูกเสนอชื่อเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกเบียดกับ เซร์คิโอ รามอส มาตลอดหลายสัปดาห์

 

เกมนี้เป็นอีกครั้งที่ ฟาน ไดจค์ พิสูจน์แล้วว่าเขาคือ “ของจริง” เกมรับเล่นได้อย่างเนียนตา จัดการตัวฉกาจอย่าง แฮร์รี่ เคน จนกระดิกไม่ออก ทั้งเกมได้ยิงเพียงแค่ 2 หน

 

ช็อตสำคัญที่ต้องดวล 1 ต่อ 2 กับ ซิสโซโก้ และ ซอน เฮือง มิน ปราการหลังชาวดัตช์แสดงให้เห็นถึงคลาสยอดกองหลัง บีบช่องส่งจน ซิสโซโก้ ต้องพาบอลไปยิงเองด้วยซ้ายข้างไม่ถนัด สุดท้ายซัดเหินไปแบบหมดลุ้น

 

เห็นจังหวะนี้แบบผู้เขียนจะไม่ใช่แฟน ลิเวอร์พูล ยังต้องลุกขึ้นมาตบมือให้เลย

4.เกมเหย้าไร้เทียมทาน

 

สำหรับเกมนี้นอกจาก 3 แต้มที่สำคัญที่สุดสำหรับการล่าแชมป์ ลิเวอร์พูล เองมีอีกหนึ่งปัจจัยที่อยากทำให้ได้ ก็คือการรักษาสถิติ “ไม่แพ้ใครในบ้านติดต่อกัน”

 

นับตั้งแต่แพ้หนสุดท้ายต่อ บอร์นมัธ เมื่อเดือนเมษายน 2017 “หงส์แดง” ยังไม่เคยเสียท่าที่แอนฟิลด์ ในเกมพรีเมียร์ลีก ให้กับทีมใด นับรวมเกมชนะ สเปอร์ส ล่าสุด พวกเขาก็ยืดสถิติเป็น 37 เกมติดต่อกันให้แล้ว

 

ตอนนี้พวกเขารั้งอันดับ 2 ตลอดกาลเทียบเท่า แมนฯ ซิตี้ แต่จะไล่สถิติตลอดกาลของ เชลซี ที่เคยทำไว้ 86 นัด งานนี้ลูกทีมของ “คล็อปป์” คงต้องออกแรงกันอีกหลายยกทีเดียว

5.ไก่จ้าออกทะเล

 

จากที่เหมือนจะนอนมาในตำแหน่งอันดับ 3 นาทีนี้ต้องบอกว่า สเปอร์ส เผลอๆ ท็อปโฟร์ก็อาจจะไม่ติดโผลเอาเสียแล้ว หลังผลงานในลีกช่วงหลังออกทะเลไปไกลโพ้น

 

นับเฉพาะในลีก “ไก่จ้า” ไม่ชนะใครมา 5 เกมติดต่อกันแถมเป็นการแพ้ถึง 4 นัด ขณะที่โปรแกรมโค้งสุดท้ายพวกเขายังมีคิวต้องเจอ แมนฯ ซิตี้ และยังมีเกมแชมเปี้ยนส์ลีก กับ “เรือใบ” ให้พะวงอีก

 

หากจับปลาสองมือแล้วเอาไม่อยู่ เรียกฟอร์มเก่งในลีกกลับมาไม่ได้ งานนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยแน่