จับ 6 ประเด็นบิ๊กแมตช์ “ปืนซัดผีแย่งท็อปโฟร์”

เหลืออีก 8 นัดต้องบอกว่าการแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์เพื่อโควต้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้ากำลังเมามันส์พะยะค่ะ เพราะตั้งแต่อันดับ 3 ถึง 6 ยังมีลุ้นกันทุกทีม

 

อาร์เซนอล พลิกสถานการณ์กลายเป็นทีมที่ถือไพ่ทันทีหลังเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 ซึ่งจริงๆ แล้วเกมนี้มีอะไรน่าพูดถึงไม่น้อย เราขอแบ่งเป็น 6 หัวข้อดังนี้

 

1.เกมรุกย้อนแยง

 

การเก็บ 3 แต้มด้วยสกอร์ 2-0 ยังไงก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับ อาร์เซนอล อย่างแน่นอน ทว่าถ้าเจาะกันที่เกมรุกต้องบอกว่ายังไม่น่าปลื้มนัก ทั้งๆ ที่วันนี้ “จัดเต็ม” ส่งตัวมีชื่อลงครบทั้ง โอซิล, ลากาแซตต์ และ โอบาเมย็อง

 

ทว่าถ้าไม่หลอกด้วยผลการแข่งขันเกมรุกของ อาร์เซนอล ยังไม่ค่อยปะติดปะต่อกันเท่าไร โอกาสยิง 14 ครั้งตัดลูกที่ได้ประตู ส่วนใหญ่จะเป็นการขอยิงไว้ก่อนซึ่งก็หลุดกรอบหมด นอกจากนี้ยังมีจ่ายเสีย หรือจ่ายล้ำหน้าก็หลายครั้ง

 

2 ประตูที่ได้เป็นลูกยิงไกล 1 ลูกจุดโทษอีก 1 เท่ากับว่าทีม “ปืนใหญ่” ยิงเข้ากรอบจริงๆ แค่หนเดียว หากเกมหน้าจะลองเซ็ตนี้อีกครั้งทั้ง โอซิล และ โอบาเมย็อง ต้องมีบทช่วย ลากาแซตต์ มากกว่านี้

2.”แรมซี่ย์” ที่รอคอย

 

การลงสนามของ แรมซี่ย์ ในฤดูกาลนี้ถือว่าไม่มากนัก ตำแหน่งส่วนใหญ่ที่ถูก เอเมรี่ จับลงสนามก็มักจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก ทว่าวันนี้มีเซอร์ไพรส์สั่งดร็อป เก็นดูซี่ และให้ดาวเตะมิดฟิลด์ทีมชาติเวลส์ เล่นตัวกลางกับ ชาก้า

 

ต้องบอกว่าฟอร์มของ แรมซี่ย์ เกมนี้คือ “ผู้ปิดทองหลังพระ” ตัวจริง เป็น แรมซี่ย์ ที่แฟนบอล อาร์เซนอล คาดหวังจะเห็นมานาน คือเล่นอย่างมีวินัย เกมรับดี ขณะที่เกมรุกก็เติมเกมได้แบบเหมาะสม

 

นับสถิติเกมนี้ แรมซี่ย์ ปะทะแย่งบอลชนะถึง 8 หน เรียกได้ว่าแบ่งเบาภาระของเกมรับได้มากโขทีเดียว และเป็นฟอร์มที่น่าประทับใจจริงๆ

3.เลโน่ ผู้พิทักษ์ตัวจริง

 

แม้เกมรุกจะไม่หวือหวาถูกใจนัก แต่โจทย์ของเกมรับต้องบอกว่าวันนี้นักเตะ อาร์เซนอล ช่วยกันเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อผิดพลาดที่ปล่อยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จู่โจมได้อยู่ดี

 

แต่ชั่วโมงนี้พวกเขามีนายทวารที่กำลังเข้าฝัก แบรนด์ เลโน่ กลายเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ไว้ใจได้ การอ่านเกม การปิดมุม เก่งกาจสมสไตล์โกล์เยอรมัน 2 ช็อตที่เซฟลูกยิงของ ลูกากู คือจุดสำคัญที่ทำให้ทีมได้ 3 แต้มในวันนี้

4.ท็อปซิกซ์ของแสลง “ลูกากู”

 

ลูกากู คืออาวุธสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในชั่วโมงนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ นับตั้งแต่กลับมาคุมอาหารเจ้าตัวก็กลายมาเป็น ลูกากู คนเดิมที่ยิงประตูได้อย่างมากมาย (ก่อนเกมนี้ กด 2 เม็ดมา 3 เกมติดต่อกัน)

 

เกมนี้จริงๆ ลูกากู ก็ทำได้ดีโดยเฉพาะการเก็บบอล รวมถึงการหาพื้นที่เข้าไปลุ้นประตู ทว่าพอเจ้าตัวเอาชนะ แบรนด์ เลโน่ ไม่ได้ ก็ทำให้ ผีแดง ไม่สามารถหาจุดเปลี่ยนของเกมได้เช่นกัน

 

จบนัดนี้กลายเป็นว่า ลูกากู มีสถิติการเจอทีมท็อปซิกซ์ที่ไม่ดีนัก เพราะ 18 เกมผ่านพ้นเจ้าตัวยิงได้เพียงลูกเดียวเท่านั้น

5.ไม่ใช่วันของ “เฟร็ด”

 

ถ้าพูดถึงแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด วันนี้ คนที่มีส่วนกับเกมเยอะที่สุดคงหนีไม่พ้นมิดฟิลด์ชาวแซมบ้าที่ชื่อ เฟร็ด ที่ได้บอลมากกว่า มาติช หรือ ป็อกบา เสียอีก

 

จริงๆ ภาพรวมเจ้าตัวก็ไม่ได้แย่ พยายามช่วยทีมทั้งรุกและรับ ทว่าในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ อะไรมันก็ดูแย่ไปหมด มีโอกาสยิงไกลก็ดันไปชนเสา จังหวะเบียดแย่งกับ ลากาแซตต์ จนเสียจุดโทษ เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ชัดเจน

 

พูดได้คำเดียวว่าแก “ซวยจัดปลัดบอก”

6.”เด เกอา” ออกทะเล

 

แม้แฟนบอล อาร์เซนอล อาจจะฉุนกับเสียงพากษ์ของ “อาบิ๊กจ๊ะ” ที่กล่าวโทษ ดาวิด เด เกอา มากกว่าที่จะชมลูกยิงของ กรานิต ชาก้า กับประตูแรกที่ อาร์เซนอล ยิงได้

 

แต่ถ้าไม่อคติเกินไปก็ต้องบอกว่าคนพากษ์พูดถึง เด เกอา เห็นเต็มสองตาว่า ชาก้า วางเท้ายิงยังไง มันก็ควรที่จะทำได้ดีกว่านี้ อันนี้ยังไม่นับถึงสถิติการเซฟจุดโทษที่ไม่ค่อยดี 13 ครั้งหลังสุดในลีกเข้าทุกลูก (เซฟครั้งสุดท้ายเดือนตุลาคม 2014)

 

บวกกับการถูกยิงเข้ากรอบ 6 ครั้งหลังสุดเสียไปถึง 4 ประตู งานนี้บอกเลย เด เกอา ต้องรีบกลับเข้าฝั่งโดยไว ไม่งั้น ผีแดง หนักแน่ในโค้งสุดท้าย