จากความสำเร็จสู่ความกดดัน! หงส์เเดงกับภารกิจทวงความยิ่งใหญ่ในลีก

 

ฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล สร้างสถิติเป็นรองเเชมป์พรีเมียร์ ลีก ที่คะเเนนสูงสุด 97 เเต้ม น้อยกว่าเเชมป์อย่าง เเมนฯ ซิตี้ เเค่ 1 คะเเนนเท่านั้น ได้รับคำชื่นชมว่าเเม้จะพลาดเเชมป์เเต่ก็ทำได้ดี นอกจากนั้นยังไปประสบความสำเร็จคว้าเเชมป์ในรายการ เเชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 6 มาครอง ทำให้ความกดดันจากเเฟนบอลถาโถมเข้าหานักเตะว่าฤดูกาลนี้ จะยุติการรอคอยเเชมป์ลีกกว่า 30 ปี เเต่..พวกเขาจะพร้อมเเค่ไหน วันนี้ UfaArena จะพาไปชำเหละกัน

 

 

จุดเเข็ง – 3 ประสานเเนวรุก

 

ฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ยิงได้ถึง 89 ประตู เป็นรองเพียงเเค่เเชมป์อย่าง เเมนเชสเตอร์ ซิตี้ (95 ประตู) เท่านั้น เเละมี 2 คนที่คว้าตำเเหน่งดาวซัลร่วมเมื่อฤดูกาลที่เเล้วที่จำนวน 22 ประตู นั้นคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เเละ ซาดิโอ มาเน่ (อีกคนคือ โอบาเมยอง ของ อาร์เซน่อล) ขณะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ อีกหนึ่้งเเนวรุกก็ไม่น้อยหน้าทำได้ถึง 12 ประตู ที่เป็นเช่นนั้นเพราะบทบาทของเขา คือการทำทางเเละเปิดให้เพื่อนทำประตูมากกว่า

 

ฤดูกาลที่เเล้ว ซาลาห์ มีช่วงฟอร์มตก ยิงไม่ได้ถึง 9 เกมติดต่อกัน เเต่ก็เป็นช่วงที่ มาเน่ ฟอร์มดีสวนกันพอดี นั้นเเสดงให้เห็นเเล้วว่า 3 ประสานเเนวรุกของหงส์เเดงน่ากลัวขนาดไหน นี้ขนาดไม่ได้ท็อปฟอร์มพร้อมๆกันนะ ลองคิดดูว่าถ้าทั้ง 3 คนอยู่ในช่วงพิคพร้อมกันละก็จะเป็นฝันรายของกองหลังฝ่ายตรงข้ามเเน่นอน

 

 

จุดอ่อน – ขาดกองกลางตัวทำเกม

 

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายของลิเวอร์พูล เพราะครั้งหนึ่งพวกเขาเคยมีกองกลางที่เคยถูกยกว่าดีที่สุดของโลกชุดหนึ่งที่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด อยู่ด้วย ซึ่งกองกลางสไตล์พี่เจิดนี้ละ คือสิ่งที่ลิเวอร์พูลขาดหายไปในยุคนี้

 

กองกลางชุดนี้ของ คล็อปป์ ประกอบด้วย ฟาบินโญ, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม เเละ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งมีสไตล์ที่คล้ายกันคือเป็นสายครองบอล อ่อนการทำประตู, ลากเลี้ยงกินตัว หรือการจ่ายคิลเลอร์พาสถ้าย้อนกลับไปสมัยที่ เจอร์ราร์ด พีคๆ เราจะเห็นการทะทุทะลวงจากเเผงกองกลางขึ้่นไปทำประตู ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ เชลซี ประสบความสำเร็จช่วงที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด พีคๆ เเต่นี้คือสิ่งที่ลิเวอร์พูล ไม่มีเลย ถ้าพวกเขาได้นักเตะสไตล์นี้เข้ามา ยามที่กองหน้าตื้อๆทำประตูไม่ได้ ก็จะได้มิติทำประตูจากเเดนกลาง เชื่อว่าหงส์เเดงตัวนี้จะเหมือนติดจรวดติดลมบนเเน่นอน

 

 

เสริมทัพ – ปัญหาในปีนี้

 

เป็นปัญหาที่โดนเเฟนบอลวิจารณ์อย่างมากสำหรับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ที่คว้านักเตะใหม่ได้เเค่ 3 คนเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นทั้ง 2 คนยังเป็นดาวรุ่งที่ยังใช้งานจริงไม่ได้ นั้นคือ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ปีกวัย 16 ปี จากฟูแลม เเละ ฟาน เดน เบิร์ก กองหลังดาวรุ่งจากพีอีซี ซโวลล์ ส่วนอีกคนคือผู้รักษาประตูมือ 2 อย่าง อาเดรียน ซึ่งดูจากคำพูดเเละบทสัมภาษณ์ต่างๆของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ลิเวอร์พูล ไม่น่าจะได้ใครมาเสริมทัพอีกเเล้ว

 

ฤดูกาลที่เเล้ว ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกๆตำเเหน่ง เเต่ก็มีนักเตะหลายคนที่เจ็บไปเเละไม่ฟิตทั้ง อดัม ลัลลาน่า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน รวมถึง นาบี เกอิต้า ซึ่ง คล็อปป์ เชื่อว่าการได้พวกเขาเหล่านั้นกลับมา จะเหมือนได้ขุมกำลังนักเตะใหม่เพิ่มมา

 

“เราไม่สามารถใช้เงินมหาศาลได้ตลอดทุกฤดูกาล” นั้นคือคำพูดของ คล็อปป์ ที่ฤดูกาลก่อน พวกเขาใช้เงินซื้อนักเตะไปกว่า 165 ล้านปอนด์ ทำให้ได้ทีมที่ลงตัวอยู่เเล้ว เพราะฉนั้นเเฟนๆหงส์เเดง คงทำได้เเต่เอาใจช่วยนักเตะชุดที่มีอยู่ ให้โชว์ฟอร์มที่ดีกว่าฤดูกาลก่อนให้ได้

 

 

คีย์เเมน – โมฮาเหม็ด ซาลาห์

 

ตั้งเเต่ย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ยกระดับตัวเองขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเเข้งระดับโลก เเม้ฤดูกาลที่เเล้วฟอร์มของเขาจะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าฤดูกาลเเรกกับหงส์เเดงที่ยิงไปถึง 32 ประตู เเต่ 22 ประตู พ่วงตำเเหน่งดาวซัลโว 2 ฤดูกาลติด ก็เป็นเครื่องการันตีเเล้วว่าเขามีของ

 

ฤดูกาลที่เเล้วเเม้ ซาลาห์ จะต้องพบกับช่วงลำบาก (ยิงไม่ได้ 9 เกมติด) เเต่พอเขาทำได้ ความมั่นใจเริ่มมา ประตูก็มาเรื่อยๆ จุดเด่นของ ดาวเตะอียิปต์ที่ต่างจากตัวรุกคนอื่นๆที่ฟอร์มดีพอๆกันคือ เขามักจะมีลูกปาฏิหาริย์ เมื่อทีมดูตื้อๆ เจาะคู่เเข่งไม่เขา ก็มักจะได้เขาก็ลากเลื้อยเอาฟาล์วคือพุ่งเข้าทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม เเละทำประตูสำคัญๆ ให้ทีมชนะมาเเล้ว

 

 

 

ระบบ 4-3-3

 

ผู้รักษาประตู

อลิสซอน เบ็คเกอร์

กองหลัง

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์
โจเอล มาติป
เวอร์จิล ฟานไดค์
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

 

กองกลาง
ฟาบินโญ
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

 

กองหน้า
โมฮาเหม็ด ซาลาห์
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ซาดิโอ มาเน่