จากรุ่นสู่รุ่น! 5 สเกาเซอร์จ่อสร้างตำนานตามรอยรุ่นพี่ 

 

5 เเข้งดาวรุ่งท้องถิ่นทีมหงส์เเดง ที่จ่อขึ้นทีมชุดใหญ่สร้างตำนานตามรอยรุ่นพี่ 

 

เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยประสบความสำเร็จมากมายจากนักเตะที่มาจากทีมเยาวชนซึ่งถูกเรียกว่า “คลาส ออฟ 92” ขณะที่ลิเวอร์พูลก็มีนักเตะที่ขึ้นจากทีมเยาวชนเเละต้องเป็นเด็กท้องถิ่นในเมืองโดยถูกเรียกว่า สเกาเซอร์ 

 

คำว่าสเกาเซอร์เเบ่งออกเป็น 2 อย่างคือสเกาเซอร์เเท้คือคนที่เกิดเเละโตในเมือง อีกอย่างคือสเกาเซอร์เทียมคือคนที่อาจไม่เกิดในเมืองเเต่เล่นตั้งเเต่ทีมเยาวชนอย่าง ไมเคิ่ล โอเว่น หรือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ส่วนสเกาเซอร์เเท้จะมีนักเตะดังอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ หรือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด 

 

ล่าสุด เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ออกมาเผยว่าความฝันของเขาคือการสร้างหงส์เเดงที่มีสเกาเซอร์อยู่เต็มทีม ซึ่งตอนนี้ก็มีบางคนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เเล้ว ส่วนบางคนก็เข้าๆออกๆ เเละมีอีกหลายคนที่จ่อขึ้นทีมชุดใหญ่ ดูทรงเเล้วมี 5 คนที่มีโอกาสสร้างตำนานบทใหม่ 

 

 

เคอร์ติส โจนส์

 

โจนส์ เป็นเเข้งรายล่าสุดที่กำลังถูกพลักดันเเละได้รับคำชมอย่างมากจากหลายๆฝ่าย เขาถูกยกให้มีความใกล้เคียงกับ เจอร์ราร์ด มากที่สุด ด้วยการที่เล่นตำเเหน่งกองกลางเเถมยังมีลูกยิงที่ทรงพลังเเละการทะลุทะลวงที่ดุดัน 

 

เเข้งอังกฤษ เข้าสู่อะคาเดมี่ของลิเวอร์พูลตั้งอายุ 9 ขวบ เเละในปี 2018 เจ้าตัวได้สัญญาอาชีพฉบับเเรกกับทีม ได้รับการปลุกปั้นจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ตอนนั้นรับหน้าที่กุนซือทีมเยาชนหงส์เเดง 

 

มิดฟิลด์วัย 18 ปีประเดิมเล่นให้ทีมชุดใหญ่ เกมเอฟเอคัพ รอบ 3 พบกับวูล์ฟแฮมป์ตันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก่อนจะได้รับโอกาสลงสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรก ในเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปอัดบอร์นมัธ 3-0 เมื่อเดือนธันวาคมปี2019 ซึ่งโจนส์ลงมาเป็นตัวสำรองในช่วง 14 นาทีสุดท้ายของเกม

 

เเต่นัดที่เจ้าตัวเเจ้งเกิดอย่างเต็มตัวคือได้สวมปลอกเเขนกัปตันทีมเเละเป็นคนยิงประตูชัยพาทีมเฉือนเอฟเวอร์ตันคู่ปรับร่วมเมืองในเกมเอฟเอ คัพ ซึ่งตอนนั้น คล็อปป์ ให้ทีมชุดเด็กเล่นชุดใหญ่เพราะให้ลูกทีมพักในช่วงพักเบรกหน้าหนาว ล่าสุดเขาประเดิมประตูเเรกให้ทีมชุดใหญ่ด้วยการยิงใส่เเอสตัน วิลล่า เเม้จะได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในช่วง 10 นาที สุดท้าย นั้นเป็นเครื่องการันตีว่าเด็กคนนี้มีอนาคตไม่น้อย 

 

 

โจ ฮาร์ดี้

 

โจ ฮาร์ดี้ เคยเป็นเด็กฝึกหัดของเเมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับเบรนท์ฟอร์ดเเละมูฟมาลิเวอร์พูลซึ่งถือเป็นสเกาเซอร์เทียม เเต่เจ้าตัวก็ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เเละเป็นหนึ่งคนที่มีโอกาสได้ชูถ้วยเเชมป์พรีเมียร์ ลีก ด้วย 

 

ศูนย์หน้าที่เกิดในไวร์รัลรับตำแหน่งในทีมยู-23 โดยทำไป 7 ประตูจากเวลาเพียง 2 เดือนก่อนที่ฤดูกาลของทีมอะคาเดมี่จะปิดฉากจากการระบาดของโควิด-19 ไฮไลต์สำคัญของเขาคือการทำสองประตูในเกมกับเซาท์แฮมป์ตัน และซันเดอ์แลนด์ โดยเกมหลังเป็นการยิงในเกมสุดท้ายก่อนฤดูกาลจะสิ้นสุด

 

ในเดือนกุมภาพันธ์ ฮาร์ดีได้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่โดยลงมาเป็นตัวสำรองในเกมเอฟเอ คัพที่เอาชนะชรูว์สบิวรีที่แอนฟิลด์เเต่ในเกมลีกเขามีชื่อเข้าๆออกๆทีมชุดใหญ่อยู่เรื่อยๆ เเต่ก็ยังไม่มีโอกาสลงสนามด้วยตำเเหน่งของเขาที่เล่นปีกขวาหรือตัวรุกซึ่งมีรุ่นพี่ชื่อดังจับจองหลายคน 

 

 

เนโก วิลเลี่ยมส์

 

“เนโก้น่าทึ่งมาก เขาคือตัวรุกที่อันตรายที่สุดของเราจากตำแหน่งฟูลแบ็ก” นี้คือคำพูดยกย่องที่ นีล คริตชลีย์ผู้จัดการทีม ยู-23 กล่าวชมกองหลังรายนี้ 

 

วิลเลี่ยมส์ เกิดที่เร็กซ์แฮม ในเวลส์ เเต่ก็ย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนหงส์เเดงตั้งเเต่ปี 2009 นับเป็นสเกาเซอร์เทียม เจ้าตัวได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่นัดแรกให้กับลิเวอร์พูลในเกมคาราบาว คัพ ที่เอาชนะจุดโทษอาร์เซนอลเเบบสุดมันในฤดูกาลนี้หลังจากนั้นก็ได้เล่นในพรีเมียร์ ลีก อีก 3 เกม ช่วงท้ายฤดูกาล รวมเเล้วเล่นให้หงส์เเดงไปเเล้ว 8 เกม 

 

เกมที่เเจ้งเกิดสุดๆของเจ้าตัวคือการได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในทีมชุดใหญ่ที่พบกับชรูว์สบิวรีในศึกเอฟเอ คัพ เเละสามารถทำได้ถึงแอสซิสต์ใน 2 เกม

 

ปัญหาเดียวของเจ้าหนูวิลเลี่ยมส์คือเขาเล่นในตำเเหน่งเเบ็คขวาซึ่งไปทับกับ เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เพื่อนร่วมรุ่นที่ไปไกลเเล้ว ซึ่งเขามีโอกาสจะได้เป็นเเบ็คอัพอย่างเต็มตัว เพราะ คล็อปป์ คงใช้ โจ โกเมซ ในตำเเหน่งกองหลังตัวกลาง ถ้าเมื่อไหร เทรน ฟอร์มตกเขาก็มีโอกาสที่จะขึ้นมาเสียบได้เช่นกัน 

 

 

ยาสเซอร์ ลารูซี่

 

เเฟนบอลลิเวอร์พูลต่างเรียกร้องให้ คล็อปป์ หาเเบ็คซ้ายสำรองเอาไว้ยามที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตัวหลักมีปัญหา เพราะตอนนี้ทีมมักใช้ เจมส์ มิลเนอร์ เเข้งสารพัดประโยชน์เเก้ไขปัญหาไปก่อน เเต่จนเเล้วจนรอดกุนซือเยอรมันก็ยังไม่หาใครมาเเทน ซึ่งเหตุผลหนึ่งก็เป็นเพราะเขาต้องการเวลาให้ ลารูซี่ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ 

 

ลารูซี่ ย้ายจากเลอ อาฟร์มาอยู่กับหงส์เเดงก่อนไต่เต้าเป็นตัวหลักทีมชุด u18, 19 เเละ 23 เจ้าตัวเคยเล่นในตำเเหน่งปีกก่อนจะผันตัวเองลงมาเล่นเเบ็ค 

 

จุดเด่นของเขาคือความเเข็งเเกร่งเเละกุดัน เเม้จะยังไม่มีเเอสซิตส์ที่วางใจได้เหมือนเเข้งสก็อตต์เเต่ในอนาคตภายใต้การขัดเกลาของกุนซือเยอรมัน เราอาจจะได้เห็นดาวรุ่งดวงนี้ขึ้นมาเฉิดฉายก็เป็นได้ 

 

 

เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์

 

ตั้งเเต่หมดยุคของ เจอร์ราร์ด เเละ คาราเกอร์ ลิเวอร์พูลก็ไม่มีสเกาเซอร์รายไหนใกล้เคียงที่จะขึ้นมาประสบความสำเร็จอีกเลย จนมาถึงทีของ เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ฟูลเเบ็คที่เป็นสเกาเซอร์ของเเท้ 

 

เทรน เกิดในเขตเวสดาร์บี้ เมืองลิเวอร์พูล นั่นทำให้บ้านของเขาอยู่ในระแวก “เมลวูด” สนามซ้อมของยอดทีมอย่างลิเวอร์พูล โดยเขาได้รับทุนจากสถาบันของสโมสรตั้งแต่อายุ 6 ขวบ พัฒนาขึ้นมาตามลำดับ โดยได้รับหน้าที่ให้เป็นกัปตันทีมในชุด u-16 , u-18 ภายใต้การคุมทีมของ เปปิน ลินเดอร์ส โค้ชทีมเด็กในตอนนั้น ก่อนจะถูกดันขึ้นทีมชุดใหญ่ในปี 2015 โดยถูกหนีบไปเล่นเกมพรีซีซั่น

 

ฤดูกาลถัดมาความฝันของเขากลายเป็นจริงด้วยการประเดิมเป็น 11 ตัวจริงในเกมลีก คัพ เจอกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ก่อนจะมาเเจ้งเกิดโดยเจ้าตัวถูกส่งลงสนามในเกมเเดงเดือดเเละทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมรับมือกับเเข้งดาวดังของปีศาจเเดงได้ตลอดทั้งเกม ได้รับคำชมอย่างมาก เเละสามารถยึดตำเเหน่งตัวจริงๆด้อย่างถาวร 

 

เเข้งอังกฤษใกล้เคียงกับคำว่าตำนานเเบบสุดๆ เเม้จะมีอายุเเค่ 21 ปี เเต่ตอนนี้เจ้าตัวจารึกประวัติศาสตร์ของตัวเองด้วยการคว้าเเชมป์ เเชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, สโมสรโลก 1 สมัย เเละ พรีเมียร์ ลีก 1 สมัย ซึ่งตำนานสเกาเซอร์อย่าง ฟาวเลอร์, เจอร์ราร์ด เเละ คาราเกอร์ ทำไม่ได้