แม้จะไม่สามารถหากองหน้าอะไหล่มาได้ทันก่อนตลาดหน้าหนาวปิดในเดือนที่ผ่านมา แต่อย่าง น้อย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ก็สามารถคว้าแข้งหน้าใหม่มาเสริมทัพได้ถึง 2 คน
หนึ่งในนั้นคือ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ ปีกตัวเก่งจาก พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น จากไก่เดือยทอง กระชากมาเสริมเกมรุกด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ หลังโชว์ฟอร์มเด่น ซัดไป 5 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 16 นัดในเอเรดิวิซี่ฤดูกาลนี้
ซึ่ง ไวน์เบิร์ก ถือเป็นแข้งชาวดัตช์คนล่าสุดที่ย้ายมาค้าแข้งให้กับสโมสรดังจากลอนดอนเหนือ หลังก่อนหน้านี้มีนักเตะจากแดนกังหันลมกลายเป็นแข้งสเปอร์ส 6 คน
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปแฟนบอลไปพบกับ 7 แข้งชาวดัตช์ที่ย้ายมาเล่นให้กับ ไก่เดือยทอง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
วิลเลี่ยม โคร์สเตน
หลังจากย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด สเปอร์ส ก็ตัดสินใจจ่ายเงินกว่า 1.5 ล้านปอนด์ ให้กับ วิเทสส์ อาร์เน่ม เพื่อคว้าตัว วิลเลี่ยม โคร์สเตน มาร่วมทีม ทำให้เขากลายเป็นนักเตะดัตช์คนแรกในประวัติศาสตร์ของทีม
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ ปีกซ้ายแดนกังหันลมในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน คือ เกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2001 ซึ่งเขากด 2 ประตูสุดสวยช่วยให้ ไก่เดือยทองเอาชนะ ปีศาจแดง 3-1
อย่างไรก็ตาม นั่นกลับกลายเป็นนัดสุดท้ายของ โคร์สเต่น ในอาชีพค้าแข้ง หลังมีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดเวลา จนเป็นเหตุให้ต้องจำใจแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 26 ปี เท่านั้น
มูเนียร์ เอล ฮัมดาอุย
ในช่วงที่ มาร์ติน โยล เข้ามากุมบังเหียนไก่เดือยทอง กุนซือชาวดัตช์ได้คว้า มูเนียร์ เอล ฮัมดาอุย นักเตะร่วมชาติจาก เอ็กเซลซิเออร์ ด้วยสัญญา 3 ปีครึ่งในเดือนมกราคมปี 2005
แต่ว่ากองหน้าแดนกังหันลม ถูกปล่อยให้ ดาร์บี้ เค้าท์ตี้ ยืมตัวถึง 2 ครั้ง 2 ครา และไม่ได้ลงเล่นให้ ไก่เดือยทอง ต้นสังกัดแม้แต่นัดเดียว ไม่ว่าจะรายการใดก็ตาม
ฮัมดาอุย เก็บกระเป๋ากลับไปบ้านเกิดอีกครั้งกับ วิลเลี่ยม ทู ในปี 2006 ก่อนจะคว้าแชมป์ลีกกับ อาแซด อัลค์มาร์ ในฤดูกาล 2008-09 พร้อมกับคว้าตำแหน่ง แข้งดัตช์ยอดเยี่ยมประจำปีด้วย
เอ็ดการ์ ดาวิดส์
ดาวิดส์ มีอาชีพค้าแข้งที่ยอดเยี่ยมมาตลอดในช่วงที่ค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์, เอซี มิลาน, ยูเวนตุส, บาร์เซโลน่า และ อินเตอร์ มิลาน แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปเรียบร้อย หลังย้ายมาค้าแข้งกับสโมสรในเขตลอนดอนเหนือ
แต่ถึงอย่างนั้น อดีตกองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ฉายา ‘เดอะ พิทบลู’ ก็กลายเป็นนักเตะขวัญใจเหล่ายิดอาร์มี่ทั่วเกาะอังกฤษ ตลอดเวลาที่อยู่ในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ระหว่างปี 2005-2007 โดยลงเล่นไป 40 นัด ยิงไป 1 ประตู
หลังจากนั้น ดาวิดส์ ก็ย้ายกลับไปเล่นในบ่านเกิดกับ อาแจ็กซ์ อีกครั้ง ก่อนจะหวนกลับมาเล่นในแดนผู้ดีถึง 2 ครั้งกับ คริสตัล พาเลซ และ บาร์เน็ต
ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท
ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ได้ย้ายมาร่วมทีม สเปอร์ส จาก เรอัล มาดริด ในตลาดซื้อขายวันสุดท้ายของซัมเมอร์ปี 2010 หลังช่วยให้ทีมชาติฮอลแลนด์เข้าชิงฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ในปีนั้น
แม้ว่าจะใช้เวลาค้าแข้งกับ ไวท์ ฮาร์ท เลน แค่ 2 ปี แต่เขาก็กลายเป็นที่รักของแฟนบอลสเปอร์สทุกหมู่เหล่า และน่าจะเป็นแข้งชาวดัตช์ทีดีที่สุดในทีมไก่เดือยทองด้วยซ้ำ หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเกมดาร์บี้ลอนดอนเหนือ กับ อาร์เซน่อล
ในปี 2018 อดีตเพลย์เมกเกอร์ดัตช์แมน ยอมรับกับ NOS สื่อในบ้านเกิดว่า ช่วงเวลาที่ตนค้าแข้งกับ สเปอร์ ถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้งด้วย
มิเชล ฟอร์ม
นายทวารแดนกังหันลม ได้บอกลา สวอนซี ทีมแจ้งเกิดในอังกฤษ เพื่อย้ายมาเฝ้าในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ปี 2014 แต่ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่เป็นตัวสำรองของ ฮูโก้ โยริส และลงเล่นไปเพียง 47 นัดในทุกรายการ
ฟอร์ม ถูกปล่อยตัวออกจากทีมในซัมเมอร์ปีที่แล้ว หลังไม่รับการต่อสัญญา แต่เขาก็ย้ายมาร่วมทีมอีกครั้งด้วยสัญญาระยะสั้น เมื่อเดือนตุลาคม หลัง โยริส บาดเจ็บจากอาการข้อศอกเคลื่อน
วินเซนต์ แยนส์เซ่น
แยนส์เซ่น ได้ย้ายมาเป็นกองหน้าตัวใหม่ของ สเปอร์ส ในปี 2016 ด้วยดีกรีตำแหน่งดาวซัลโวใน เอเรดิวิซี่ ฤดูกาล 2016-17 กับ อาแซด อัลค์มาร์ ด้วยจำนวน 27 ประตู
แต่ดูเหมือน เขาจะลืมฟอร์มเก่งไว้ที่บ้านเกิดจนหมด หลังยิงประตูในแดนผู้ดีได้เพียง 6 ลูก จากการลงเล่น 42 นัดให้ ไก่เดือยทอง ซึ่งประตูจำนวนนั้นมาจากจุดโทษถึง 4 ลูก อีกต่างหาก
กองหน้าชาวดัตช์ ถูก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จับดองเป็นตัวสำรองที่ถูกลืม ก่อนจะขายให้กับ มอนเตร์เรย์ สโมสรจากเม็กซิโก ด้วยค่าตัว 6.3 ล้านปอนด์ ในปี 2019
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์
สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ กลายเป็นนักเตะชาวดัตช์คนที่ 7 ในประวัติศาสตร์ของ สเปอร์ส หลังย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ หลังลงเล่นให้สโมสรบ้านเกิด 149 นัดในทุกรายการ ยิงไป 31 ประตู
“ผมคิดว่านี่เป็นการย้ายทีมที่สุดยอดมาก กับสโมสรที่สุดยอด” แข้งวัย 22 ปี กล่าวผ่านเว็บไซต์ของต้นสังกัดใหม่
แม้จะยังไม่สามารถการันตีได้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในแดนผู้ดีหรือไม่ แต่เราก็มั่นใจได้ว่าเขาจะทำได้ดีกว่า มูเนียร์ เอล ฮัมดาอุย ทำไว้อย่างแน่นอน หลังซัดประตูแรกในนัดประเดิมสนามพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แล้ว
