จากไปแต่ไม่มีวันลืม : 10 ประตูสุดตราตรึงของ อเกวโร่ ในสีเสื้อเรือใบ

 

หลังกลายเป็นข่าวลือมาตลอดตั้งแต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ในที่สุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็แถลงอย่างเป็นทางการว่า เซร์คิโอ้ อเกวโร่ เตรียมลาทีมแน่นอนหลังหมดสัญญาในซัมเมอร์นี้

 

กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ คือหนึ่งในนักเตะที่ แฟน ‘เรือใบสีฟ้า’ รักมากที่สุด และเปรียบดังสัญลักษณ์ของสโมสรตลอด 10 ปีที่เขาค้าแข้งในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม พร้อมพาสโมสรคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย และแชมป์ลีกคัพอีก 5 สมัย

 

มากไปกว่านั้น ‘เอล กุน’ ก้าวขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร แซงหน้า เอริค บรู้ค ผู้ถือครองสถิตินี้มานานกว่า 78 ปี โดยที่เขาใช้เวลาเพียง 6 ปีเท่านั้นในการทำลายสถิติดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันทำไปแล้ว 257 ประตู ใน 384 เกมที่ลงสนาม

 

เชื่อว่าเหล่าสาวก ‘ซิตี้เซนส์’ คงใจหายอยู่ไม่น้อย เมื่อพวกเขาจะไม่เห็นหนึ่งในตำนานที่เป็นที่รักโชว์ฝีเท้าให้สโมสรต่อไปในฤดูกาลหน้า และด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอไปย้อนรำลึกถึง 10 ประตูแห่งความทรงที่ อเกวโร่ เคยทำไว้ตลอด 10 ปีที่ค้าแข้งกับ ซิตี้

 

 

พบ คิวพีอาร์ | 13 พฤษภาคม 2012

 

 

อเกวโร่ ยิงไปแล้ว 257 ประตูให้สโมสรสีฟ้าจาก แมนเชสเตอร์ แต่ประตูแรก ๆ ที่แฟนซิตี้จดจำได้ขึ้นใจ คงหนีไม่พ้นลูกยิงที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์ลีกเมื่อ 9 ปีก่อน กับเกมนัดสุดท้ายที่พบกับ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส เมื่อฤดูกาล 2011-12 

 

เกมเสมอกับอยู่ 2-2 และทำท่าว่าจะจบด้วยสกอร์นี้ ซึ่งจะทำให้ แมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริร่วมเมืองของพวกเขาคว้าแชมป์ลีกไปครอง ทว่าช่วงทดเวลา หอกแดนฟ้าขาวที่ทำชิ่งกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ ก่อนซัดสวนตัว แพดดี้ เคนนี่ เข้าไป ช่วยให้ทีมชนะ 3-2 พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก ด้วยผลต่างลูกได้เสียเหนือ ‘ปีศาจแดง’ เท่านั้น

 

 

พบ สวอนซี | 15 สิงหาคม 2011

 

 

ด้วยฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่สมัยเล่นให้ แอตเลติโก้ มาดริด ไม่แปลกที่ อเกวโร่ จะได้รับความสนใจจากสโมสรดังทั่วยุโรป ทว่าท้ายที่สุดกลับเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ตัวเขาไปครองในราคา 38 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2011

 

แข้งละตินอเมริกาหลายคนอาจต้องใช้เวลาปรับตัวในลีกสูงสุดแดนผู้ดี แต่ไม่ใช่กับ กุน เมื่อเขากด 2 ประตู ตั้งแต่นัดประเดิมสนามในเกมพบ สวอนซี ในฤดูกาล 2011-12 โดยยิงลูกแรกในเกม หลังลงเล่นเป็นตัวสำรองเพียง 8 นาที ก่อนจะกดประตูยิง 30 หลาสุดสวยช่วงท้ายให้ทีมถล่ม ‘หงส์ขาว’ 4-0

 

 

พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 8 เมษายน ปี 2013

 

 

ซิตี้ อาจเสียแชมป์ลีกให้กับ แมนยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมืองไปแล้วในฤดูกาล 2012-13 แต่ด้วยศักดิศรีของแชมป์เก่าทำให้พวกเขาโชว์ฟอร์มแกร่งบุกไปคว้าชัยถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ด้วยสกอร์ 2-1

 

ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังต้าน ‘เรือใบสีฟ้า’ ไว้ได้ จนกระทั่ง อเกวโร่ ลงสนามในนาทีที่ 71 เกมรับของ ‘ปีศาจแดง’ ดูปั่นป่วนไปหมด ก่อนที่ กุน จะยิงประตูชัยสุดสำคัญให้ทีมในอีก 7 นาทีต่อมา

 

 

พบ เลสเตอร์ | 10 กุมภาพันธ์ 2018

 

 

แมนซิตี้ ทำการฆาตกรรมสังหารหมู่ เลสเตอร์ ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 5-1 เมื่อฤดูกาล 2017-18 และคนที่โดดเด่นที่สุดในวันนั้นต้องยกให้ อเกวโร่ เลย หลังรัวประตูใส่ทีม ‘จิ้งจอกสีน้ำเงิน’ คนเดียว 4 เม็ด

 

โดยเฉพาะประตูที่ 4 ของ กุน ในเกมนั้นที่เด็ดดวงสุด ๆ หลังรับบอลจาก ฟิล โฟเด้น ก่อนซัดไกลนอกรอบด้วยขวาเต็มแรง จนบอลพุ่งเช็ดคานเข้าไปตุงตาข่าย หมดสิทธิ์ที่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล จะป้องกันไว้ได้

 

 

พบ ลิเวอร์พูล | 3 กุมภาพันธ์ 2013

 

 

อเกวโร่ เคยแสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็นในการจบสกอร์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือเกมที่พบกับ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาล 2012-13 เมื่อเขาลงโทษแนวรับ หงส์แดงที่ก่อความผิดพลาดช่วงท้ายเกม

 

ด้วยการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันของ มาร์ติน สเคอร์เทล ทำให้ เปเป้ เรน่า วิ่งออกมาตัดบอลนอกกรอบ ทว่ากลับโดน หอกชาวอาร์เจนไตน์ ที่รวดเร็วกว่าฉกบอลไป และถึงแม้จะอยู่ในมุมที่ไม่น่าทำประตูได้ อเกวโร่ กลับทำเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด ด้วยการชิปบอลข้ามทั้ง เรน่า และ สเคอร์เทล เข้าไปเป็นประตูให้ ซิตี้ แบ่งแต้ม กับ ลิเวอร์พูล 2-2

 

 

พบ นิวคาสเซิล | 3 ตุลาคม 2015

 

 

นิวคาสเซิล เป็น 1 ใน 2 ทีมที่โดน อเกวโร่ รัวตาข่ายมากที่สุด ร่วมกับ เชลซี ซึ่งโดนไป 15 ประตูจาก 11 นัดที่พบกันในทุกรายการ และเชื่อว่าเหล่า ‘ทูน อาร์มี่’ คงไม่ลืมเกมที่ทีมรักของพวกเขาโดน ‘กุน’ กดไป 5 ลูกในเกมเดียวแน่นอน  

 

โดย 5 ประตูเหล่านั้นของ หอกฟ้าขาว เกิดขึ้นภายในเวลา 20 นาทีในสนามจากครึ่งแรกนาทีที่ 42 และจบลงในนาทีที่ 62 แม้มีลูกที่อาศัยโชคยิงแฉลบคู่แข่งเข้าไปบ้าง แต่ความเหนือชั้นก็ยังมีให้เห็น หลังงัดบอลข้ามตัว ทิม ครูล นายด่าน ‘สาลิกาดง’ เข้าไปตุงตาข่าย ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ บวกเพิ่มอีกลูกในช่วง 20 นาทีนั้นช่วยให้ ซิตี้ ชนะไป 6-1

 

 

พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 22 กันยายน 2013

 

 

นี่เป็นเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ อีกเกมที่ ซิตี้ ครองเกมอยู่ฝ่ายเดียว และเอาชนะเหนือ แมนยูไนเต็ด ไป  4-1 ณ สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่ง อเกวโร่ ก็เป็นคนแรกที่เบิกประตูในเกมนั้นด้วยลูกวอลเลย์สุดสวย

 

อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ เปิดเข้ามาจากกราบซ้าย ก่อนที่ อเกวโร่ ใช้สัญชาตญานเพชรฆาต ตวัดวอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่ต้องมองเข้าไป ก่อนที่เขาจะบวกประตูเพิ่มให้ตัวเองในครึ่งหลังในวันที่ เดวิด มอยส์ พ่ายเกมดาร์บี้นัดแรกในฐานะผู้จัดการทีม ‘ปีศาจแดง’ 

 

 

พบ เชลซี | 10 กุมภาพันธ์ 2019

 

 

อเกวโร่ อาจตกเป็นตัวสำรองในช่วงแรกของฤดูกาล 2018-19 แต่เขาก็พิสูจน์ว่าตนเองยังยอดเยี่ยมอยู่ ด้วยการกดแฮตทริกให้ ซิตี้ ในเกมที่ถล่ม เชลซี แบบไม่ไว้หน้า 6-0 และอีกฤดูกาลที่เขามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 4 ในยุคพรีเมียร์ลีก

 

และประตูแรกของ กุน ในกมนั้นคือหนึ่งในลูกยิงสุดสวยที่เขาทำได้ในอาชีพค้าแข้ง เมื่อรับบอลจาก โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จากนั้นจึงใช้ความสามารถเฉพาะหลบแนวรับ ‘สิงห์บลู’ 2 คน ก่อนจะกดด้วยขวาเต็มแรงในระยะ 25 หลา จนบอลแหวกอากาศพุ่งเข้าสามเหลี่ยมเสาไกลอย่างสวยงาม

 

 

พบ ซันเดอร์แลนด์ | 3 ธันวาคม 2014

 

https://www.youtube.com/watch?v=6QJkTZTW57c&t=35s

 

เมื่อ ซันเดอร์แลนด์ บังอาจขึ้นนำ ซิตี้ ไปก่อน ณ สนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ จากลูกยิงของ คอนเนอร์ วิคแฮม ในนาทีที่ 19 ทำให้ อเกวโร่ ก็จัดการสั่งสอนพวกเขาให้กลับไปอยู่เดิมในเวลาต่อมาหลังจากนั้นเพียงไม่นาน

 

ราว 2 นาทีถัดมา อเกวโร่ ที่ครองบอลอยู่ แตะลอดขา เซบาสเตียน โคอาเตส กองหลังทีม’แมวดำ’ ก่อนลากเข้าไปในกรอบเขตโทษ และซัดเต็มแรงผ่าน คอสเทล พานติลิม่อน อดีตเด็กเก่าของซิตี้ เข้าไป และนั่นเป็น 1 ใน 2 ประตูที่ กุน ช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะไปแบบถล่มถลาย 4-1

 

 

พบ วัตฟอร์ด | 16 กันยายน 2017

 

 

อีกหนึ่งแฮตทริกที่ อเกวโร่ ทำได้ และอีกเกมที่เขาช่วยสโมสรถล่มคู่แข่งแบบยับเยินด้วยสกอร์ 6-0 ณ วิคาเร้จ โร้ด รังเหย้าของวัตฟอร์ด

 

2 ลูกแรกในเกมนั้นแสดงให้เห็นว่า กุน เต็มเปี่ยมไปด้วยสัญชาตญานดาวยิงมากแค่ไหน จากลูกโหม่งประตูแรก และ หาตำแหน่งถูกที่ถูกเวลาในลูกที่ 2 แต่ต้องบอกว่าประตูที่ 3 ของเขา ยอดเยี่ยมยิ่งกว่านั้น เมื่อลากเลื้อยโซโล่คนเดียวจาก 30 หลา ฝ่าแนวรับแตนอาละวาด 4 คน ก่อนล้มตัวจิ้มบอลไหลผ่าน เอเรลโญ่ โกเมส เข้าไป แม้ เอเดรียน มาริอัปป้า พยายามสกัดในทัน แต่บอลมันไหลข้ามเส้นไปเต็มใบแล้วเรียบร้อย