จ่ายหนักเอาเรื่อง : 10 กุนซือค่าเหนื่อยแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีก

 

ความหวังในการดึงตัว แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ของอาร์เซน่อลจบสิ้นลงเรียบร้อย เมื่อเลสเตอร์ประกาศต่อสัญญาใหม่กับบีร็อดอีก 5 ปีครึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

นอกจากจะหยุดข่าวลือกับทีมปืนใหญ่ได้แล้ว สัญญาใหม่ของร็อตเจอร์สกับ เดอะ ฟ็อกซ์ ยังได้ค่าเหนื่อยเกือบ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หรือราวๆ 10 ล้านปอนด์ต่อปีเลย

 

แต่ถึงแม้ตัวเลขจะเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือก็ไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้

 

และ UFA ARENA จะพาทุกท่านไปพบกับ 10 กุนซือที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในลีกสูงสุดแดนผู้ดี ผ่านบทความชิ้นนี้กัน โดยคิดคำนวนจากค้าจ้างต่อสัปดาห์ที่พวกเขาได้รับจากสโมสร

 

 

10.ฌอน ไดซ์ | เบิร์นลี่ย์ (3.5 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

น่าตกใจไม่น้อยที่ ฌอน ไดซ์ โผล่มาในลิสต์นี้ โดยกุนซือเบิร์นลีย์ได้รับค่าเหนื่อยไป 67,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นคนที่ได้รับค่าจ้างเป็นอันดับต้นๆในสโมสร

 

นายใหญ่เดอะ คลาเร็ต ได้เข้ามาคุมทีมในปี 2012 และเปลี่ยนแปลงสโมสรกลางตารางในแชมเปี้ยนส์ชิพให้ขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดได้อย่างสวยงาม และอยู่รอดปลอดภัยมานาน 3 ฤดูกาลแล้ว (แม้จะพาทีมตกชั้นไปครั้งนึงก็ตาม)

 

นอกจากนี้ ไดซ์ยังพาเบิร์นลี่ย์เข้าไปเล่นในศึกยูโรป้าลีกรอบเพลย์ออฟด้วย ไม่แปลกใจที่เขาจะกลายเป็นที่รักของเหล่าแฟนบอล เดอะ คลาเร็ต รวมไปถึงคอบอลพรีเมียร์ลีกด้วย

 

 

9.เอ็ดดี้ ฮาว | บอร์นมัธ (4 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

เอ็ดดี้ ฮาว เป็นอีกหนึ่งกุนซือหนุ่มไฟแรงที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปัจจุบัน หลัง บอร์นมัธ สโมสรที่ตนใช้เวลาค้าแข้งด้วยนานที่สุด เลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกและอยู่รอดปลอดภัยได้ถึง 4 ปี

 

ฮาว เคยคุมเดอะ เชอร์รี่ส์ อยู่ก่อนหน้านี้ในปี 2008-2011 ก่อนจะกลับมาทำหน้านี้อีกครั้งในปี 2012 และสร้างให้สโมสรนี้ยืนหยัดเป็นทีมกลางตารางของลีกสูงสุดได้อย่างเหนี่ยวแน่น พร้อมได้รับค่าเหนื่อยราวๆ 77,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ด้วยกัน

 

นอกจากนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กุนซือชาวอังกฤษมีข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรในลีกมากมาย ทั้งอาร์เซน่อล ที่ยังคงมีกระแสอยู่เรื่อยๆ หรือ เอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์ส ที่เคยมีก่อนหน้านี้

 

 

8.แฟรงค์ แลมพาร์ด | เชลซี (5.5 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

หลังบอกลา ดาร์บี้ ทีมแรกในฐานะผู้จัดการทีม แลมพาร์ดได้หวนกลับมา เชลซี สโมสรเก่าอีกครั้งในตำแหน่งกุนซือ และได้รับค่าเหนื่อยกว่า 105,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

 

จริงอยู่ที่เขาเพิ่งทำงานนี้แค่ปีเดียวกับทีมแกะเขาเหล็ก แต่ด้วยผลงานและสไตล์การทำทีมที่ตื่นเต้นเร้าใจ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกุนซือหนุ่มที่ได้รับการจับตามองที่สุดในยุโรป

 

ปัจจุบัน อดีตกองกลางสิงห์บลูกำลังพาทีมต่อสู้เพื่อลุ้นอันดับท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ และคงไม่แปลกใจ หากเขาสามารถเปลี่ยนให้เชลซีกลายเป็นทีมลุ้นแชมป์ได้อีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

7.ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิล | เซาแธมป์ตัน (6 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

อีกหนึ่งกุนซือในลิสต์นี้ที่น่าตกใจพอสมควร เพราะอดีตกุนซือไลป์ซิก ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิล ที่คุมเซาแธมป์ตันอยู่ แถมทำผลงานไม่ดีในฤดูกาลนี้ แต่ได้รับค่าเหนื่อยถึง 115,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ นับตั้งแต่มาทำงานที่นี่ในปี 2018

 

ณ เวลานี้ ทีมนักบุญรั้งอันดับที่ 18 ในพรีเมียร์ลีกสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นมากๆ และมีโอกาสไม่น้อยที่กุนซือชาวออสเตรียจะอยู่ไม่จบฤดูกาลนี้ หากเขายังไม่สามารถช่วยให้ทีมแดนใต้จากเกาะอังกฤษขยับหนีขึ้นมาจากโซนอันตรายได้ในเร็วๆนี้

 

 

6.มานูเอล เปเยกรินี่ | เวสต์แฮม (7 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

มานูเอล เปเยกรินี่ เป็นผู้จัดการทีมคุ้นหูแฟนบอลในพรีเมียร์ลีกอยู่พอสมควร หลังพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกได้เมื่อปี 2014 และตอนนี้เขาก็ได้ค่าเหนื่อยระดับ 135,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์กับ เวสต์แฮม 

 

นายใหญ่ชาวชิลีเคยไปคุมทีมในลีกจีนอยู่ช่วงหนึ่ง หลังแยกทางกับเรือใบสีฟ้า ซึ่งมีข่าวลือว่าเขาได้รับค่าเหนื่อยมากถึง 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์กับ เหอเป่ย ไชนา ฟอร์จูน เลย

 

แต่ด้วยผลงานที่ไม่สู้ดีนักในฤดูกาลนี้ ทำให้มีข่าวว่า บอร์ดขุนค้อนกำลังพิจารณาปลด เปเยกรินี่ ออกจากตำแหน่ง หากยังไม่สามารถกระตุ้นให้สโมสรกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง

 

 

5.โอเล่ กุนนาร์ โซลชา | แมนยูไนเต็ด (7.5 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

อดีตนักเตะอีกคนที่กลายเป็นกุนซือให้สโมสรเก่าที่เคยค้าแข้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้เข้ามาทำหน้าที่นายใหญ่ชั่วคราวก่อน หลังแมนยูไนเต็ดปลด โชเซ่ มูรินโญ่ ในเดือนธันวาคมปีก่อน พร้อมกับทำผลงานได้น่าประทับใจ จนบอร์ดสโมสรตัดสินมอบสัญญาถาวรให้ในเวลาต่อมา

 

โดยกุนซือชาวนอร์เวย์ได้รับค่าเหนื่อยราวๆ 145,000 ปอนด์ และมีระยะเวลาสัญญาถึงปี 2022 ทว่าหลังจากเป็นผู้จัดการทีมแบบเต็มตัว ผลงานของเขากับปีศาจแดงกลับไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็เริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นในช่วง 2-3 นัดที่ผ่านมา

 

ซึ่งถ้าหากนำค่าเหนื่อยของ โซลชา ไปเทียบกับ มูรินโญ่ ก็คงต้องบอกแตกต่างกันมากพอสมควร เพราะในช่วงเวลาที่ เดอะ สเปเชียล วัน กุมบังเหียนยูไนเต็ดอยู่ เขาได้รับค่าเหนื่อยถึงสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์เลย

 

 

4.เจอร์เก้น คล็อปป์ l ลิเวอร์พูล (7.5 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

หลายคนคงแปลกใจไม่น้อยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูลที่กำลังพาทีมลุ้นแชมป์ลีกในรอบ  30 ปี กลับมีค่าเหนื่อยเท่ากับผู้จัดการทีมแมนยูไนเต็ดอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เท่านั้น

 

นายใหญ่ชาวเยอรมันเป็นคนเปลี่ยนให้หงส์แดงที่เป็นแค่ยักษ์หลับในอังกฤษ กลับมาเป็นยอดทีมอีกครั้ง และประกาศศักดาความยิ่งหญ้ด้วยการคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกได้ในฤดูกาลก่อน 

 

ถ้าหากอดีตกุนซือดอร์ทมุนด์ ทำให้ทีมสีแดงจากเมอร์ซี่ย์ไซด์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรได้ ค่าเหนื่อยที่เขาได้รับคงเพิ่มมากขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

 

 

3.แบรนแดน ร็อดเจอร์ส | เลสเตอร์ (10 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

ในฤดูกาลนี้ ไม่มีกุนซือในพรีเมียร์ลีกคนไหนเนื้อหอมไปกว่า แบรนแดน ร็อดเจอร์ส แล้ว หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เลสเตอร์ จนสโมสรต้องรั้งตัวไว้ด้วยการต่อสัญญาเพิ่ม ซึ่งมีค่าเหนื่อยถึง 192,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกุนซือที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก

 

มีรายงานจากสื่อในแดนผู้ดีว่า จิ้งจอกสีน้ำเงินได้เพิ่มค่าเหนื่อยให้บีร็อดในสัญญาใหม่เป็น 2 เท่า จากเดิมที่ได้รับ โดยเซ็นสัญญากับยาวๆ 5 ปีครึ่ง เพื่อตอบแทนที่พาทีมรั้งอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีกได้ตอนนี้

 

การคว้าแชมป์อีกครั้งเหมือนในปี 2016 คงเป็นเรื่องยากที่ เลสเตอร์ จะทำได้ในฤดูกาลนี้ แต่เชื่อว่า อันดับท็อปโฟร์ก็น่าจะเพียงพอในการทำให้กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว

 

 

2.โชเซ่ มูรินโญ่ | สเปอร์ส (15 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

โชเซ่ มูรินโญ่ หวนกลับมารับงานคุมทีมอีกครั้งในรอบเกือบปีกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ โดยมาแทนที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนก่อนที่ทำผลงานได้ไม่ดีนักในช่วงเริ่มฤดูกาลใหม่และถูกปลดไป

 

บางคนเชื่อว่าไก่เดือยทองจะเป็นทีมที่เขาอยู่ยาวไปอีกหลายปี แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนไม่เห็นด้วย และมองว่ากุนซือชาวโปรตุกีสจะจบไม่สวยกับสเปอร์ส อย่างที่แฟนบอลเคยเห็นอยู่ร่ำไปกับหลายทีมที่เขาคุมก่อนหน้านี้

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบไหนในอนาคต เรื่องราวของ เดอะ สเปเชี่ยล วัน ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าติดตามในวงการลูกหนังเสมอมา และการได้รับค่าเหนื่อยถึง 288,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ยังทำให้เขาเป็นหนึ่งในกุนซือที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดประวัติศาสตร์ฟุตบอลด้วย

 

 

1.เป๊ป กวาร์ดิโอล่า | แมนซิตี้ (20 ล้านปอนด์ต่อปี)

 

 

เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงพอจะเดาออกว่าใครเป็นอันดับหนึ่งในลิสต์นี้ แต่ที่น่าตกใจกว่ามากคือค่าเหนื่อยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้รับ เมื่อเขาได้มากถึง 385,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์กับการทำหน้าที่คุมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในตอนนี้ 

 

แม้จะมีค่าเหนื่อยมหาศาล แต่การคว้า 198 แต้มจาก 2 ฤดูกาลซึ่งช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัยติด ชื่อของกุนซือชาวสแปนิชต้องถูกจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของลีกแดนผู้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย

 

แต่ฟอร์มการเล่นในยุโรปคือสิ่งที่ กวาร์ดิโอล่า ถูกตั้งคำถามมาตลอด นับตั้งแต่ลาบาร์เซโลน่า มากไปกว่านั้น ในฤดูกาลนี้โอกาสป้องกันแชมป์ของซิตี้มีน้อยมากๆ เมื่อตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงอยู่ 14 แต้ม จนแฟนบอลเรือใบบางส่วนเริ่มไม่โอเคกับเขาเหมือนแต่ก่อนแล้ว