ฉลองกันแต่หัววัน : ย้อนประวัติศาสตร์ทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เร็วสุด

หลังความพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ก็ต้องการชัยชนะอีกเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้นก็จะการันตีตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก

 

นั่นคือสิ่งที่ควรจะต้องเกิดขึ้น และหากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด จนถึงตอนนี้พวกเขาก็คงได้ฉลองแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปีกันไปอย่างสนุกสนานคึกครื้นแล้ว แต่สิ่งที่ขัดขวางพวกเขาไว้กลับกลายเป็นสิ่งเล็กๆ ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น… โคโรน่าไวรัส

 

ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมา การแข่งขันฟุตบอลลีกหลักทั่วยุโรปต้องหยุดชะงักลง ต้นเหตุก็คือการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทีมหงส์แดงยังไม่ได้เฮกันสุดเสียงตามที่ตั้งใจ ซ้ำร้ายหากซวยสุดขีดฤดูกาลนี้ก็อาจจะเป็นโมฆะไปเลยอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความยอดเยี่ยมของ ลิเวอร์พูล ตลอดฤดูกาล 2019/20 ที่ผ่านมาก็สมควรที่จะถูกยกย่องในหลายๆ ประเด็น หนึ่งในนั้นก็คือการเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่การันตีตำแหน่งเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์

 

 

ถ้าเป็นไปตามคาดในทีแรก ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะปิดบัญชีเสร็จสิ้นในขณะที่เหลือโปรแกรมแข่งขันอีก 7 เกม และหากทุกอย่างเป็นใจก็อาจจะเป็น 8 เกมเลยด้วยซ้ำ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนพวกเขาก็จะทำลายสถิติก่อนหน้านี้แบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น

 

ถ้าอย่างนั้นเราลองมาย้อนดูกันหน่อยว่าทีมที่เคยได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก เร็วสุดในประวัติศาสตร์นั้นได้รับการบันทึกเอาไว้อย่างไรกันบ้าง…

 

แมนฯ ยูไนเต็ด 2000/01
(เหลือโปรแกรมเตะอีก 5 เกม)
นี่คือสถิติดีที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก มันเกิดขึ้นในยุคไร้เทียมทานของทีมปีศาจแดง หลังจากที่ได้ทริปเปิ้ลแชมป์มาเมื่อ 2 ปีก่อนหน้า พวกเขาได้แชมป์อย่างรวดเร็วตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ส่วนหนึ่งก็เพราะคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่าง อาร์เซน่อล ดันไปพลาดท่าพ่ายต่อ มิดเดิ้ลสโบรช์ ด้วย

 

 

แมนฯ ยูไนเต็ด 1999/00
(เหลือโปรแกรมเตะอีก 4 เกม)
ยังคงเป็นทีมชุดเดียวกับด้านบน แต่เกิดก่อน 1 ปี แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมแรกที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ขณะที่เหลืออีก 4 เกมให้ลงเล่น การการันตีแชมป์เกิดขึ้นในวันที่ 22 เมษายน เมื่อพวกเขาบุกชนะ เซาแธมป์ตัน 3-1 ทำให้คู่แข่งอย่าง อาร์เซน่อล นั้นหมดสิทธิ์ที่จะตามทัน

 

 

อาร์เซน่อล 2003/04
(เหลือโปรแกรมเตะอีก 4 เกม)
ใช่ว่า อาร์เซน่อล จะรับเป็นแต่บทพระรอง เพราะว่าพวกเขาก็เคยมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและน่าจดจำเป็นอย่างมาก ทีมปืนใหญ่บุกเสมออริร่วมเมืองอย่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 2-2 เมื่อวันที่ 25 เมษายน อันที่จริงการการันตีแชมป์ก็ยังไม่เกิดขึ้น กระทั่ง เชลซี ไปพลาดท่าพ่าย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทำให้แต้มขาด และที่พิเศษสุดๆ สำหรับ อาร์เซน่อล ก็คือมันเป็นฤดูกาลที่พวกเขาไร้พ่ายในลีก เป็นทีมแรกและทีมเดียวที่ทำได้มาจนถึงขณะนี้ แม้แต่ ลิเวอร์พูล ชุดปัจจุบันก็ยังหมดสิทธิ์

 

 

แมนฯ ยูไนเต็ด 2012/13
(เหลือโปรแกรมเตะอีก 4 เกม)
เป็นปีที่มีอะไรให้จดจำมากมายเหลือเกินสำหรับแฟนๆ ปีศาจแดง เพราะนี่คือฤดูกาลสุดท้ายที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีม, เป็นปีที่พวกเขาเพิ่มสถิติแชมป์ลีกสูงสุดเป็น 20 สมัย และมันก็เป็นปีสุดท้ายที่พวกเขาได้ชูถ้วยรายการนี้ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน โดยในปีนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด การันตีตำแหน่งแชมป์ได้อย่างมีสไตล์ด้วยชัยชนะเหนือ แอสตัน วิลล่า 3-0 โดยที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดประตูสุดสวยด้วยการยิงฮาล์ฟวอลเล่ย์แบบไม่ต้องเสียเวลาจับ เป็นหนึ่งในแฮตทริคของเขาที่ทำได้