ชีวิตพลิกผัน : ยอดนักเตะสู่กุนซือหนุ่มแห่งศึกพรีเมียร์ลีก  

 

 

 

หากเป็นนักฟุตบอล ในช่วงวัย 29 ปี ต้องบอกว่านี่คือช่วงที่พีคที่สุดของอาชีพค้าแข้งได้แบบไม่เขินปาก แต่ถึงเวลานี้ ไรอัน เมสัน ได้กลายเป็นกุนซือที่อายุน้อยที่สุดในวงการลูกหนังพรีเมียร์ลีกไปแล้ว หลังเข้ารับคุมทัพ ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์

 

 

ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้ยอดกองกลางรายนี้ต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควร ก่อนจะได้เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมสต๊าฟโค้ชของ สเปอร์ส จนกระทั่ง เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โชเซ่ มูรินโญ่ ได้ถูกปลดจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่าทำให้ เมสัน ได้ขึ้นมานั่งเป็นกุนซือคนใหม่ของสโมสร ด้วยวัยเพียง 29 ปี 313 วัน พร้อมพาทีมประเดิมชัยไปแล้วในเกมเอาชนะ นักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1  และในวันอาทิตย์นี้ เขาจะนำลูกทีมทำศึกครั้งสำคัญในการดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ที่  ที่สังเวียน นิว เวมบลีย์  

 

 

อย่างไรก็ตาม เมสัน ไม่ใช่คนแรกที่กลายเป็นกุนซือตั้งแต่อายุยังน้อย และวันนี้ UfaArena จะพาไปดู 5 กุนซือที่ได้รับโอกาสตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเตะในวงการลูกหนังพรีเมียร์ลีกว่ามีใครกันบ้าง 

 

 

 

 

 อัตติลิโอ ลอมบาร์โด้ : คริสตัล พาเลซ  (อายุ 32 ปี, 67 วัน)

 

        ย้อนไปในปี 1998 สตีฟ คอปเปลล์ ผู้อำนวยการสโมสร คริสตัล พาเลซ ในสมัยนั้น ได้แต่งตั้ง  อัตติลิโอ ลอมบาร์โด้  กองกลางทีมชาติอิตาลีในวัยเพียง 32 ปี ให้ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีม ทั้งที่เวลานั้นเจ้าตัวยังเป็นนักเตะอยู่ด้วย พร้อมกันนี้ก็ยังแต่งตั้ง โทมัส โบรลิน ตำนานดาวยิงทีมชาติสวีเดน ให้เป็นล่ามภาษาอังกฤษของกุนซือชาวอิตาเลียนรายนี้ด้วย

 

 

ซึ่งผลงานก็เป็นไปตามคาด จากที่ทีมรั้งอันดับ 10 ของตาราง ลอมบาร์โด้ สามารถพาทีมร่วงมาเรื่อยๆจนกระทั้งทีมตกชั้นไปสู่ลีกแชมเปี้ยนชิพ ก่อนจะโดนปลดจากตำแหน่งทันที พร้อมกับย้ายกลับบ้านเกิดไปเป็นนักเตะอีกคำรบด้วยการค้าแข้งกับ ลาซิโอ ในปี 1999  ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับ ซามพ์โดเรีย ในปี 2002

 

 

หลังจากนั้น ลอมบาร์โด้ ก็กลับไปเป็นกุนซืออีกครั้ง แต่ผลงานการคุมทัพของเขาไม่ประสบความสำเร็จในการคุมหลายสโมสรในเซีย บี บ้านเกิด จนกระทั่งในปี 2010 เป็นต้นมาเขาก็ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมมาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันก็กลายมาเป็นมือขวาของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ในทีมชาติอิตาลี เรียบร้อย 

 

 

 

คริส โคลแมน : ฟูแล่ม (32ปี 313วัน)

 

 

กลายเป็นอีกหนึ่งแข้งที่โชคร้ายเมื่อต้องแขวนสตั๊ดสำหรับยอดปราการหลังกัปตันทีมฟูแล่มรายนี้ หลังประสบอุบัติเหตุรถชนขาหัก นั่นทำให้ โคลแมน ได้เข้ามาเริ่มเป็นสต๊าฟโค้ชของ  ฌอง ติกาน่า กุนซือ” เจ้าสัวน้อย” ในปี 2002 และจากนั้นอีกเพียงปีเดียวเมื่อกุนซือชาวฝรั่งเศสโดนปลด โคลแมนก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือในปี 2003 และผลงานมาสเตอร์พีซของเขาคือการพาทีมรอดตกชั้นได้สำเร็จด้วย

 

 

จากนั้นเขาก็ได้คุมทัพ ฟูแล่ม ไปจนถึงปี 2007 พร้อมกับได้โอกาสไปคุมทัพในลาลีกา สเปน กับสโมสร เรอัล โซเซียดัด และกลับมาคุม โคเวนทรี จนกระทั่งในปี 2012 กุนซือหนุ่มรายนี้ก็ได้โอกาสสำคัญเมื่อได้คุมทีมชาติ เวลส์ บ้านเกิดเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีเต็ม  พร้อมสร้างประวัติศาสร์ พาทัพ มังกรไฟ ไปลุยฟุตบอล ยูโร 2016 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติด้วย พร้อมกับพาทีมผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแบบเซอร์ไพรส์สุดๆ 

 

 

จานลูก้า วิอัลลี่  : เชลซี (33 ปี 227 วัน)

 

 

กองหน้าระดับตำนานของทีมชาติ อิตาลี ที่เริ่มแรกย้ายมาเป็นกองหน้าของทัพ สิงห์บูล์ และก็ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการยิงไปถึง 21 ประตู จาก 58 นัด แต่หลังจากที่ รุด กุลลิท ถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อปี 1998  วิอัลลี่ ก็ได้รับหน้าที่กุนซือแทน และทำให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีมชาวอิตาลีคนแรกของ พรีเมียร์ลีก ด้วย

 

 

สำหรับผลงานของ วิอัลลี่ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะเขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 2 รายการคือ ลีกคัพ และ ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ  ก่อนที่จากนั้น 2 ปี ในปี 2000 เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังมีปัญหากับผู้เล่นซีเนียร์ภายในทีม ทำให้ต้องระเห็จไปคุมทัพ วัตฟอร์ด  จนถึงปี 2002 ซึ่งนับจากนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้รับงานคุมสโมสรไหนอีกเลยจนปัจจุบัน

 

 

รุด กุลลิท : เชลซี (33 ปี 352 วัน)

 

 

ยอดแข้งเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ย้ายมาร่วมทัพ สิงห์บูล์ส แบบฮือฮาเมื่อปี 1995 โดยเขาได้เล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์ ภายใต้การคุมทีมของ เกล็น ฮอดเดิ้ล แต่หลังจากนั้นเพียงปีเดียว กุนซือชาวอังกฤษ  ก็โดนปลดจากตำแหน่ง นั่นทำให้สโมสรลองเสี่ยงดวงให้ กุลลิท ที่มีประสบการณ์ในวงการลูกหนังอย่างโชกโชนก้าวขึ้มาเป็นกุนซือ พร้อมกับยังเป็นนักเตะอยู่ด้วยในเวลานั้น 

 

 

ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ เคน เบสต์ ประธานสโมสรในสมัยนั้นต้องผิดหวังเมื่อพาทีมผงาดแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จในปี 1997 ซึ่งนับเป็นแชมป์แรกของสโมสรในรอบ 26 ปีด้วย อย่างไรก็ตามในฤดูกาลถัดมาทุกอย่างกับแย่ลง เมื่อกุนซือหัวเก็งก็อง ไปมีเรื่องกับบอร์ดบริหารของสโมสร จนโดนปลดจากตำแหน่งไป  จากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปคุมทัพ นิวคาสเซิ่ล เป็นเวลา 2 ปี จนถึงปี 2011 ที่ได้ย้ายไปคุมทัพ อาฮ์มัต กรอซนี่ ในลีกรัสเซีย และจากนั้นเราก็ไม่เห็นเขาในฐานะกุนซืออีกเลย 

 

 

สจ๊วร์ต เพียร์ซ  :  น็อตติ้ง แฮมฟอเรสต์  (34 ปี, 241 วัน)

 

 

ยอดแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษเจ้าของฉายา “เดอะไซโค” ได้รับหน้าที่เป็นกุนซือ ควบตำแหน่งนักเตะ ให้กับสโมสร ฟอเรสต์ เมื่อปี 1996 หลังจากที่สโมสรปลด แฟรงค์ คลาร์ก ออกจากตำแหน่ง  ซึ่งในเกมแรกที่เขาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมก็มีเรื่องฮาอยู่ด้วย เมื่อ เพียร์ซ ได้พาทีมดวลกับ อาร์เซน่อล ซึ่งเกมนั้นทีมเอาชนะไปได้ 2-1 แต่เขายอมรับว่าตอนจัดตัวผู้เล่น 11 คนแรก เขาลืมใส่ชื่อ มาร์ค ครอสส์ลี่ย์ ผู้รักษาประตู ลงสนามไปด้วย

 

 

จากนั้นเขาก็ทำหน้าที่กับทัพ “เจ้าป่า” ไปถึงปี 1997 ก่อนจะพักยาวจนกระทั่งในปี 2005 ก็ได้รับหน้าที่คุมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอีก 2 ปีให้หลัง ก็เริ่มทำงานทีมชาติ ด้วยการคุมทัพ สิงโตคำราม ชุดยู21 รวมทั้งยังได้คุมทัพ เกรท บริเตน ที่เป็นทีมรวมชาติจากสหราชอาณาจักร ลุยศึก โอลิมปิก เกมส์ ในปี 2012 ที่กรุง ลอนดอน เป็นเจ้าภาพด้วย  

  

 

                                                          DaboyG