แม้ ลิเวอร์พูล จะนำโด่งเหนือใครๆในพรีเมียร์ลีก แบบใครหลายคนต่างยกแชมป์ให้เรียบร้อยแล้ว แต่พื้นที่การแย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลนี้กลับเข้มข้นดุเดือดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เลสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี คือทีมท่คว้าอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ แต่ว่าตั้งแต่ผ่านช่วงปีใหม่เป็นต้นมา ทั้งคู่กลับฟอร์มตกทำแต้มหล่นไปมากพอสมควร จนอีก 5 ทีมที่เหลือค่อยๆทำผลงานขึ้นมาจนตามหลังพวกเขาเพียงไม่กี่คะแนนแล้ว
มากไปกว่านั้น อันดับ 5 ก็สามารถเข้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ได้เช่นกัน หาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่นอุทรณ์ไม่ผ่านกรณีถูกแบนจากการเข้าแข่งขันฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า
ณ ตอนนี้ ทีมส่วนใหญ่เหลืออีก 10 เกมในฤดูกาลนี้ ดังนั้น UFA ARENA จะพาไปดู 7 ทีมที่มีโอกาสคว้าโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกไปครอง พร้อมกับการแข่งขันนัดที่เหลือต่อไปจนถึงเดือนพฤษภาคม
เลสเตอร์ ซิตี้
10 เกมที่เหลือ : แอสตัน วิลล่า (เหย้า), วัตฟอร์ด (เยือน), ไบรท์ตัน (เหย้า), เอฟเวอร์ตัน (เยือน), คริสตัล พาเลซ (เหย้า), อาร์เซน่อล (เยือน), บอร์นมัธ (เยือน), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เหย้า), สเปอร์ส (เยือน), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)
นับตั้งแต่ช่วงกลางฤดูกาล หลายคนมองว่า เลสเตอร์ มีดีพอที่จะคว้าอันดับ 2 เหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยซ้ำ แต่มาตรฐานที่ตกลงหลังช่วงปีใหม่เป็นต้นมา เมื่อบวกกับความพ่ายแพ้แก่ นอริช ในนัดล่าสุด ทำให้อันดับ 3 ของพวกเขา เริ่มความสั่นคลอนไม่น้อย
แต่หากดูจากคู่แข่งเกมที่เหลือที่มีค่าเฉลี่ยอันดับอยู่ที่ 12.5 นั่นหมายความจิ้งจอกสีน้ำเงินน่าจะเจอการแข่งขันที่ค่อนข้างง่ายกว่าทีมอื่นๆที่ลุ้นโควต้า UCL เหมือนกัน
พวกเขาพบกับ 7 ทีมที่มาจากครึ่งตารางล่าง และเจอทีมที่หนีตกชั้นถึง 2 จาก 3 นัดต่อไป อย่างไรก็ตาม ทีมของ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องพบงานหนักที่รออยู่ในช่วง 3 นัดสุดท้าย เนื่องจากต้องดวลทีมที่มีโอกาสลุ้นตั๋วไปแชมเปี้ยนส์ลีกเช่นกัน
เชลซี
10 เกมที่เหลือ : เอฟเวอร์ตัน(เหย้า), แอสตัน วิลล่า (เยือน), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า), เวสต์แฮม (เยือน), วัตฟอร์ด (เหย้า), คริสตัล พาเลซ (เยือน), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เยือน), นอริช (เหย้า), ลิเวอร์พูล (เยือน), วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)
ทีมพลังหนุ่มของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ถือว่าทำได้ดีกว่าที่หลายคนคิดมาก ด้วยคว้าอันดับ 4 ในตารางพรีเมียร์ลีกตอนนี้ แม้จะผลงานช่วงหลังในลีกจะชนะเพียงเกมเดียวจาก 6 นัดหลังสุดก็ตาม
สิงห์บลู จะพบคู่แข่งในช่วงที่เหลือ 11 นัดที่มีค่าเฉลี่ยอันดับราวๆ 12.0 ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ไม่หนักหนาเท่าไหร่ แม้จะต้องบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล และ เปิดบ้านต้อนรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ใน 2 เกมสุดท้ายก็ตาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
10 เกมที่เหลือ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า), สเปอร์ส (เยือน), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เหย้า), ไบรท์ตัน (เยือน), บอร์นมัธ (เหย้า), แอสตัน วิลล่า (เยือน), เซาแธมป์ตัน (เหย้า), คริสตัล พาเลซ (เยือน), เวสต์แฮม (เหย้า), เลสเตอร์ (เยือน)
ถ้าดูจากตารางแข่งขันที่เหลือ แมนยูไนเต็ด ต้องเจอกับงานหนักควบคู่กับงานเบาไปตลอดในช่วงหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ แม้ว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดีเยี่ยมยามเผชิญหน้ากับทีมใหญ่ในครึ่งตารางบน
ผลงานที่เห็นได้ชัดในฤดูกาลนี้คือ นัดที่ปีศาจแดงบุกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ถึงถิ่น แต่ทว่า พวกเขากลับคว้าชัยเพียง 5 และ เสมออีก 3 จาก 13 นัดที่พบกับทีมที่มาจากครึ่งตารางล่าง
ยูไนเต็ด จะต้องพบกับคู่แข่งที่มีค่าเฉลี่ยอันดับที่ 10.9 และการที่พวกเขาเก็บไปเพียง 16 แต้ม จากทั้งหมด 30 แต้มกับทีมเหล่านี้ในฤดูกาลก่อน ก็แสดงให้เห็นว่าทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ยังวางใจได้ไม่เต็มร้อยอยู่ดี
วูล์ฟแฮมป์ตัน
10 เกมที่เหลือ : ไบรท์ตัน (เหย้า), เวสต์แฮม (เยือน), บอร์นมัธ (เหย้า), แอสตัน วิลล่า (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เยือน), เอฟเวอร์ตัน (เหย้า), เบิร์นลี่ย์ (เยือน), คริสตัล พาเลซ (เหย้า), เชลซี (เยือน)
ในฤดูกาลนี้ ทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ มีประสบการณ์ในเวทีลูกหนังยุโรปเรียบร้อย ด้วยการลงเล่นในศึกยูโรป้า ลีก และทะลุรอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อย และเชื่อว่าพวกเขาคงไม่อยากลงเล่นแค่ในรายการฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็กอย่างแน่นอนในฤดูกาลถัดไป
ทีมหมาป่า ต้องพบกับคู่แข่งที่มีค่าเฉลี่ยอันดับที่ 11.4 จากคู่แข่งที่เหลือ 10 ทีมตอนนี้ และพวกเขาคงหวังไว้อย่างยิ่งว่าจะคว้า 3 แต้มสำคัญในนัดที่บุกไปเยือน เชลซี หรือทีมอื่น อย่างที่ทำได้กับ สเปอร์ส ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
10 เกมที่เหลือ : เบิร์นลี่ย์ (เยือน), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า), เวสต์แฮม (เหย้า), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เยือน), เอฟเวอร์ตัน (เหย้า), บอร์นมัธ (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า), นิวคาสเซิล (เยือน), เลสเตอร์ (เหย้า), คริสตัล พาเลซ (เยือน)
นับตั้งแต่ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเหียนสเปอร์ส เหล่ายิด อาร์มี่ ก็พูดได้ไม่เต็มปากนักว่า ทีมในยุค เดอะ สเปเชี่ยล วัน ดีไปกว่ายุคของ เมาริซิโอ โปเช็ตตโน่ กุนซือคนก่อนเท่าไหร่ ซ้ำร้ายพวกเขายังต้องเสียตัวหลักในแนวรุกอย่าง แฮร์รี่ เคน และ ซอน เฮือง มิน ไปอีกพักใหญ่
หลังความพ่ายแพ้ต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ไก้เดือยทองรั้งอันดับที่ 7 ในตาราง มีแต้มห่างจากอันดับ 4 อยู่ 5 คะแนน
แต่จาก 10 นัดที่เหลือในฤดูกาลนี้ สเปอร์ส ก็มีหวังในการลุ้นไปเล่นในแชมเป๊้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้าไม่แพ้ทีมอื่นๆเช่นกัน โดยต้องเจอกับ 4 ทีมจากครึ่งตารางบน และ 6 ทีมจากครึ่งตารางล่าง
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
11 เกมที่เหลือ : แอสตัน วิลล่า (เยือน,เลื่อน), นอริช (เหย้า), นิวคาสเซิล (เยือน), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน), สเปอร์ส (เหย้า), เบิร์นลี่ย์ (เยือน), วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า), เชลซี (เหย้า), เลสเตอร์ (เยือน), เอฟเวอร์ตัน (เหย้า), เซาแธมป์ตัน (เยือน)
น้องใหม่สุดเซอร์ไพรซ์ประจำพรีเมียรลีกหนนี้ ที่ทำผลงานได้เกินหน้าเกินตาหลายทีมที่อยู่ในลีกสูงสุดแดนผู้ดีมาก่อน พร้อมรั้งอันดับ 8 ในตารางได้อย่างเหนือความคาดหมาย
อย่างไรก็ตาม ทีมดาบคู่ คงต้องเร่งฟอร์มเก่งให้ได้ต่อเนื่องจนจบฤดูกาลนี้ หากหวังว่าจะคว้าตั๋วไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกของสโมสร โดยต้องเจอกับคู่แข่งที่อันดับเรวมฉลี่ยที่ 10.0
นั่นหมายความว่าทีมของ คริส ไวล์เดอร์ มีงานหินรอยู่ เนื่องจากต้องพบกับทีมลุ้นตั๋ว UCL ถึง 6 ทีมด้วยกัน
อาร์เซน่อล
11 เกมที่เหลือ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน,เลื่อน), เวสต์แฮม (เหย้า), ไบรท์ตัน (เยือน), เซาแธมป์ตัน (เยือน), นอริช (เหย้า), วูล์ฟแฮมป์ตัน (เยือน), เลสเตอร์ (เหย้า), สเปอร์ส (เยือน), ลิเวอร์พูล (เหย้า), แอสตัน วิลล่า (เยือน), วัตฟอร์ด (เหย้า)
อาร์เซน่อล คืออีกสโมสร นอกเหนือจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในลิสต์นี้ที่ยังเหลือ 11 นัดในพรีเมียร์ลีก เนื่องจากต้องแข่งขันรายการเอฟเอ คัพ กับ พอร์ทสมัธ ในวันจันทร์นี้ ทำให้เกมที่ต้องพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ที่เล่นนัดชิงลีกคัพในวันอาทิตย์) ถูกเลื่อนออกไป
การที่ปืนใหญ่เก็บได้เพียง 11 แต้ม จากทั้งหมด 33 แต้ม ในยุคที่ อูไน เอเมอรี่ และ เฟรดดี้ ลุงเบิร์ก คุมทีม ทำให้ หลายคนหว่งเป็นอย่างยิ่งว่า มิเกล อาร์เตต้า จะทำผลงานได้ดีกว่า 2 คนก่อนหน้านี้ ในนัดที่เหลือ
แม้จะรั้งอันดับ 10 แต่การมี 37 แต้ม ห่างจากอันดับ 4 เพียง 8 แต้ม ก็ถือว่ากาไปเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่อย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย โดยพวกเขาต้องพบกับ 4 ทีมหัวตาราง และ 7 ทีมครึ่งล่างก่อนจบฤดูกาลนี้
