ช่องว่างที่ยังไม่เติมเต็ม : จัดอันดับเพชรฆาตเบอร์ 9 บราซิลหลังหมดยุคโรนัลโด้

 

บราซิล เป็นหนึ่งในทีมชาติที่เต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าระดับโลกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เปเล่, โซคราเตส, โรนัลดินโญ่ หรือ กาก้า พวกเขาเหล่านี้ล้วนสวมเสื้อเบอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ยามลงเล่นให้กับทัพเซเลเซา

 

ความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่งถูกส่งต่อให้กับนักเตะแซมบ้าผ่านเสื้อเบอร์สำคัญ และเบอร์ 9 ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ซึ่ง โรนัลโด้ ผู้สวมเบอร์ 9 ให้กับทีมชาติในยุคมิลเลนเนี่ยมก็เป็นแข้งคนสำคัญที่ช่วยให้ บราซิล คว้าแชมป์โลก และก้าวขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดในวงการลูกหนัง

 

ทว่านับตั้งแต่ที่ โล้นทองคำ ประกาศลาทีมชาติไปในปี 2006 เขาก็ทิ้งช่องโหว่ขนาดใหญ่ในแนวรุกไว้ ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็มีนักเตะหลายคนพยายามเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ บ้างก็ทำได้ดีในระดับนึง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะห่างไกลจากสิ่งที่ โรนัลโด้ ทำไว้หลายช่วงตัว

 

ทาง UFA ARENA จึงขอจัดอันดับกองหน้าเบอร์ 9 ในทีมชาติบราซิล นับตั้งแต่ โรนัลโด้ หันหลังให้ทีมชาติไป

 

 

12.บรูโน่ เฮ็นริเก้ (2 นัด, 0 ประตู)

 

 

กองหน้าวัย 29 ปีจาก  ฟลาเมงโก้ คือนักเตะที่สวมเบอร์ 9 ให้กับทีมชาติบราซิลในปี 2019 โดยได้ลงเล่นเพียง 2 นัดเท่านั้น ก็คือเกมที่เสมอกับ โคลอมเบีย 2-2 ในเดือนกันยายน ก่อนจะลงเล่นอีกนัดพบกับ เปรู ซึ่งไม่ได้สร้างอิมแพ็คอะไรให้ทีมเท่าไหร่ และไม่ถูก ตีเต้ เรียกติดทีมชาติอีกเลยนับตั้งแต่นั้น

 

 

11.โจนาส (12 นัด,3 ลูก )

 

 

โจนาสอาจจะเป็นแข้งระดับตำนานของเบนฟิก้า (137 ลูก ใน 183 เกม) แต่ช่วงสั้นๆที่เขารับใช้ทีมชาติในฐานะเบอร์ 9 ในศึกโคปา อเมริกา เซนเตนาริโอ 2016 ถิอว่าย่ำแย่มากๆ ไม่ว่าจะเป็นนัดที่เสมอกับเอกวาดอร์ 0-0 ,ในนัดที่ชนะเฮติ 7-1 ก็ถูกถอดออกหลังจบครึ่งแรก และเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มก็ไม่ได้ลงเล่นเลย ซึ่งนั่นคือทั้งหมดของเขาในตำแหน่งเบอร์ 9 โดยปัจจุบัน เขาได้ประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้ว

 

 

10.ดีเอโก้ ซูซ่า (7 นัด,2 ประตู)

 

 

ด้วยอาการบาดเจ็บของกาเบรียล เฆซุส ในปี 2017 ทำให้โค้ชทีมแซมบ้าอย่างตีเต้ต้องหันไปใช้งาน ดีเอโก้ ซูซ่าในเบอร์ 9 แทน และกองกลางตัวรุก เป็นตัวจริงนัดเดียว ก่อนที่ 2 นัดต่อมาจะได้ล่งเล่นช่วงท้ายเกม แม้จะไม่ย่ำแย่เท่าโจนาส แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่

 

 

9.ดีเอโก้ ทาเดลลี่ (14 นัด,3 ประตู)

 

 

เมื่อโคปา อเมริกา 2015 เปิดฉากขึ้น บราซิลกำลังมองหาเส้นทางจะขึ้นไปบนจุดสูงสุดขึ้นอีกครั้งหลังล้มเหลวในฟุตบอลโลกปี 2014 เนย์มาร์ที่พึ่งคว้าแชมป์ยูซีแอลมาหมาดๆ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาทำได้ดีมากๆกับการประสานงานกับกองหน้าในสโมสร แต่โชคไม่ดีที่ตอนนั้นทีมชาติของเขามีแค่ ดีเอโก้ ทาเดลลี่ เท่านั้น 

 

โดยเขาสตาร์ทเป็นตัวจริงในนัดแรก ก่อนจะถูกลดบทบาทเป็นตัวสำรองในนัดต่อมา และเขาก็ไม่มีส่วนร่วมกับการยิงจุดโทษในนัดที่พ่ายปารากวัยไป 

 

 

8.ริชาร์ลิสัน (20 นัด, 6 ประตู)

 

 

ริชาร์ลิสัน ถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปี 2018 พร้อมกับได้รับเบอร์ 9 จาก ตีเต้ กุนซือของทีม และประเดิมสนามได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมอุ่นเครื่องพบกับ สหรัฐอเมริกา และ เอล ซัลวาดอร์ ซึ่งดาวเตะเอฟเวอร์ตัน กดไป 2 เม็ดในเกมนั้น พร้อมกับกลายเป็นนักเตะตัวหลักในทีมชาตินับตั้งแต่นั้น แม้ว่าจะไม่ได้สวมเสื้อเบอร์ 9 แล้วก็ตาม

 

 

7.ปาโต้ (27 นัด, 10 ประตู)

 

 

ครั้งหนึ่งปาโต้ไม่ใช่แค่ดาวรุ่งที่รอวันฉายแสงสำหรับฟุตบอลบราซิลเท่านั้น  แต่หมายถึงระดับโลกเลย เส้นทางค้าแข้งของเขาดูไปได้สวย เมื่อยังไม่เล่นเป็นตำแหน่งกองหน้าจริงๆ แต่ในโคปา อเมริกาปี 2011 กองหน้าปากเป็ดได้โอกาสสวมเสื้อหมายเลข 9 หลังทำผลงานได้โอเค แต่ทว่าเขากลับยิงประตูไม่เลยใน 2 นัดแรก ก่อนจะกด 2 เม็ดในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แต่แล้วมันก็ไม่ต่างจากเดิมหลังปาโต้โชว์ฟอร์มไม่ออกในเกมที่พบปารากวัยก่อนที่จะไปแพ้จุดโทษแบบยิงคู่แข่งไม่ได้เลย

 

 

6.ริคาร์โด้ โอลิเวียร่า (16 นัด, 5 ประตู)

 

 

ริคาร์โด้ โอลิเวียร่าอาจจะไม่ใช่แข้งระดับบิ๊ก แต่เขาก็มีผลงานที่ใช้ได้ในตำแหน่งเบอร์ 9 หลังลงเล่น 5 จาก 6 นัดในศึกคอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ปี 2005 ซึ่งก็ทำได้ดี โดยยิงไป 2 ลูก และได้สวมเสื้อเบอร์นั้นต่อไปแม้จะเป็นช่วงสั้นๆก็ตาม แต่อาการบาดเจ็บทำให้เขาห่างหายจากเบอร์ 9 ไป โดยปัจจุบัน อดีตแข้ง เอซี มิลาน ก็ยังค้าแข้งอยู่กับ คอร์ริติบา สโมสรบ้านเกิดในวัย 40 ปี

 

 

5.วากเนอร์ เลิฟ (20 นัด,4 ลูก)

 

 

ในประวัติศาสตร์ลูกหนังบราซิล วากเนอร์ เลิฟ ทำผลงานได้ดีพอตัวเลยในเบอร์ 9 กับทัพแซมบ้า กองหน้าผมเดรดล็อคเริ่มใส่เบอร์ 9 ช่วงโคปา อเมริกา 2007 ซึ่งได้ลงเล่นทุกนัด ยกเว้นช่วงต่อเวลา 10 นาทีสุดท้ายกัยอุรุกวัยในรอบตัดเชือกเท่านั้น แม้จะยิงแค่ลูกเดียว แต่เลิฟได้สร้างโอกาสให้ทีมหลายประตู ซึ่งหนึ่งในนัดคือนัดชิงที่บราซิลชนะอาร์เจนติน่าไป 3-0 ซึ่งต่อมาเขาได้เล่นในเบอร์นั้นเล็กน้อย ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยหลุยส์ ฟาเบียโน่

 

 

4.กาเบรียล เฆซุส(38 นัด,18ประตู)

 

 

ถ้า กาเบรียล เฆซุส ไม่บาดเจ็บหรือมีปัญหาอะไร เขาคือแข้งเบอร์ 9 ตัวหลักของบราซิลในชุดปัจจุบัน และเป็นผู้เล่นคนสำคัญในยุคที่ตีเต้คุมทัพเซเลเซา แต่ในช่วงเกมทีมชาติล่าสุด เขามีอาการบาดเจ็บทำให้ต้องเลือกใช้งาน มัธเทอุส คุนญ่า ดาวยิงของ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน แทน

 

แม้จะฟอร์มตกมากๆในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 หลังไม่สามารถทำประตูให้บราซิลได้เลยแม้แต่ลูกเดียว และกองหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็กลับมาทำโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้งในสีเสื้อทีมชาติ และมีส่วนในการพาแซมบ้าคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา เมื่อปีก่อนด้วย

 

 

3.เฟร็ด (39 นัด, 18 ประตู)

 

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านักเตะเพลย์บอยคนนี้คือนักล่าตาข่ายตัวจริงในช่วงที่หลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ เข้ามาคุมทัพแซมบ้าเป็นครั้งที่สอง เขาอาจจะไม่มีความคล่องแคล่วหรือความว่องไวอย่างที่นักเตะบราซิลควรจะมี แต่เฟร็ดก็มีการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมมาทดแทน

 

เฟร็ดสร้างชื่ออย่างยิ่งใหญ่หลังคว้าแชมป์คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ปี 2013 แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เขาโชว์ฟอร์มไม่ออกในบอลโลกปี 2014  และนัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นคือเกมที่โดนเยอรมันอัดคาบ้าน 7-1 นั่นเอง

 

 

2.หลุยส์ ฟาเบียโน่ (45นัด, 28 ประตู)

 

 

หลุยส์ ฟาเบียโน่ ได้สวมเบอร์ 9 ให้บราซิลถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งแรกคือศึกโคปา อเมริกา ปี 2004 ซึ่งทัพแซมบ้าตัดสินใจส่งทีมชุดยู-23 ไปแข่ง และเขาก็ได้ลงเล่นในทุกนัด ยิงไป 2 ประตู รวมไปถึงได้ดวลจุดโทษในรอบรองด้วย

 

และครั้งที่สองที่ฟาเบียโน่ได้ใส่เสื้อเบอร์ 9 นั้นคือบราซิลในยุคของ คาร์ลอส ดุงก้า ซึ่งเป็นช่วงที่เขาโชว์ฟอร์มได้ดีที่สุด แม้จะไม่ใช่ผู้เล่นที่มีทักษะมากที่สุด แต่เขาเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งและจบสกอร์ได้ดี และมีส่วนสำคัญให้ทีมบราซิลคว้าแชมป์คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ปี 2009 ได้สำเร็จ แถมยิงได้ 2 ประตูในนัดชิงด้วย 

 

ในฟุตบอลโลกปี 2010 ฟาเบียโน่ทำไป 3 ประตูแต่บราซิลก็จอดที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่งผลให้ดุงก้าต้องออกจากตำแหน่งกุนซือแซมบ้าไป และนั่นก็ส่งผลถึง อดีตดาวยิงเซบีย่า ด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่ายามที่ฟาเบียโน่ลงเล่นให้บราซิลนั้นสุดยอดไม่แพ้กองหน้าคนอื่นเลย

 

 

1.อาเดรียโน่ (48 นัด, 27 ประตู)

 

 

อีกหนึ่งตำนานผู้เท้าซ้ายอันทรงพลังและทำผลงานได้ดีที่สุดหลังจากที่โรนัลโด้ลาทีมชาติไป แต่ตอนที่ ‘เอล ฟีโนมีโน่’ ยังลงในทีมชาติอยู่ เขาสวมเสื้อเบอร์ 7 และฉายแววคู่กับฟาเบียโน่ พาบราซิลคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ปี 2004 ได้สำเร็จ

 

ต่อมาเขาสวมเสื้อเบอร์ 9 ในศึกคอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ปี 2005 และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจากที่ทัพแซมบ้าคว้าแชมป์โลกมาในปี 2002 อาเดรียโน่นำเป็นดาวซัลโวในทัวนาเม้นต์นั้นโดยยิงไป 5 ประตู จากผลงานในครั้งนั้นเชื่อว่าอาเดรียโน่น่าจะเป็นผู้นำของบราซิลคนใหม่หลังหมดยุคของโรนัลโด้

 

แต่น่าเศร้าที่ทัพแซมบ้ายังไม่เชื่อใจดาวยิงเท้าหนักมากพอ ทำให้ต้องพาโรนัลโด้ในสภาพที่อ้วนฉุมาในบอลโลกปี 2006 และเส้นทางของเขากับทีมชาติก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังอาเดรียโน่มีปัญหาส่วนตัวทำให้ชีวิตค้าแข้งของเขาดิ่งลงเรื่อยๆ และได้ลงเล่นให้บราซิลแค่ 2 นัดเท่านั้น 

 

แต่ในช่วงที่เขาลงเล่นโดยไม่มีโรนัลโด้อยู่เคียงข้างก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้ในช่วง 2 ปีหลังจากที่โรนัลโด้ลาทีมชาติไป อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครโชว์ฟอร์มได้ดีไปกว่า อาเดรียโน่ อีกแล้ว ในฐานะดาวยิงเบอร์ 9 ของบราซิล ณ เวลานี้