ในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ ดูน่าตื่นเต้นและมีดีลใหญ่ๆเกิดขึ้นแล้วรายหลายไม่แพ้กับปีก่อนหน้านี้เลย ซึ่งทีมในยุโรปมากมายต่างเดินหน้าเจรจาตั้งแต่เช้ายันเย็นเพื่อคว้าตัวแข้งใหม่เพื่อสู้ศึกในฤดูกาลใหม่
แต่ก็มีอีกหลายทีมเช่นกันที่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย แม้จะผ่านช่วงซื้อขายนักเตะมา 1 เดือนกว่าแล้วก็ตาม ขนาดทีมที่ติดโทษแบน ห้ามเสริมทัพถึง 2 ช่วงตลาดซื้อขายอย่าง เชลซี ก็ยังคว้านักเตะมาได้ด้วยการซื้อขาดมัตเตโอ โควาซิช เมื่อช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ก็กลับมาใช้เงินเสริมทัพแบบมือเติบอีกครั้ง โดยทั้ง 2 สโมสรใช้เงินรวมกันในซัมเมอร์นี้ไปแล้วกว่า 474 ล้านปอนด์แล้ว และตัวเลขไม่น่าจะหยุดอยู่แค่นี้แน่ๆ
แม้หลายทีมจะใช้เงินแบบ ซีเนดีน ซีดาน หรือ เอร์เนสโต้ บัลบาร์เด้ ไม่ได้ แต่สถานะทางการเงินของพวกเขาก็เพียงพอต่อการเสริมทัพไม่น้อยไปกว่าทีมไหนๆเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางสโมสรที่คว้านักเตะใหม่มาแค่รายเดียวเท่านั้น หรือไม่ก็ไม่ได้นักเตะคนไหนมาร่วมทีมเลยแม้เต่คนเดียว
แล้วสโมสรไหนล่ะที่เข้าข่ายนั้น? นอกเหนือจากเชลซีที่โดนโทษจากตลาดนักเตะ 2 ช่วง UFA ARENA จะพาไปพบกับ 8 ทีมที่ไม่มีความกระตือรือร้นและเสริมทัพนักเตะน้อยที่สุดในซัมเมอร์นี้
ปล. บทความนับตั้งแต่ตลาดช่วงซัมเมอร์ปี 2019 เปิดจนถึงวันที่ 16 กรกฏาคมนี้
แอธเลติก บิลเบา (1 คน)
นักเตะใหม่ : โจคิน เอซเกียต้า (บาร์เซโลน่า,ฟรี)
การที่ โลส เลโอเนส เข้ามาอยู่ในลิสต์นี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกเท่าไหร่ เนื่องจากนโยบายของสโมสรแห่งนี้คือการคว้านักเตะที่เกิดในแคว้นบาสก์ หรือไม่ก็นักเตะที่มีเชื้อสายมาจากชาวบาสก์เท่านั้น
และธรรมเนียมเหล่านี้ก็อยู่คู่กับ บิลเบามาร่วม 100 ปีแล้ว แถมพวกเขายังอยู่โลดแล่นบนลาลีก้ามานานหลายปีจากการทำทีมแบบนี้ด้วย และน้อยมากๆทุ่มซื้อนักเตะแบบบ้าคลั่งเหมือนทีมอื่นเลย โดยแข้งแพงที่สุดที่พวกเขาเคยดึงมาร่วมทีมคือ อินญีโก้ มาร์ตีเนซ จากเรอัล โซเซียดัล ด้วยค่าตัว 28.8 ล้านปอนด์ เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ส่วนใหญ่ก็อย่างที่ทุกคนรู้กันว่า บิลเบา มักจะดันเด็กจากทีมเยาวชนของตัวเองมากกว่าไปหามาจากที่อื่น
อาร์เซน่อล (1 คน)
นักเตะใหม่ : กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (อิตูอาโน่, 6 ล้านปอนด์)
เมื่ออาร์เซน่อล ย้ายสนามจาก ไฮบิวรี่ มาเป็น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม แฟนปืนใหญ่ต่างเชื่อว่าทีมรักของตนเองจะกล้าได้กล้าเสียกับการเสริมทัพมากขึ้น แต่ 13 ปีต่อมา สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แถมยังค่อยๆหลุดจากอันดับท็อปซิกซ์ในทุกๆปีด้วยซ้ำไป
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อูไน เอเมอรี่ ต้องการนักเตะใหม่ที่เป็นดาวดังมาร่วมทีมอย่างน้อย 3 คนด้วยกันในซัมเมอร์นี้ แม้จะมีงบเสริมทัพอยู่แค่ 45 ล้านปอนด์เท่านั้น และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ใครมาเพิ่ม นอกจาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิลเลี่ยน
คริสตัล พาเลซ (1 คน)
นักเตะใหม่ : สตีเฟ่น เฮนเดอร์สัน (น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์,ฟรี)
ดูเหมือนว่า รอย ฮอดจ์สัน ยังคงยืดมั่นในนักเตะของตัวเองพอสมควร เนื่องจาก นับตั้งแต่พาเลซ คว้านายทวารจากทีมเจ้าป่า มาแทนที่ จูเลี่ยน สเปโรนี่ ตำนานของพาเลซที่ลาทีมหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่เคลื่อนไหวอะไรในตลาดนักเตะอีกเลย
นอกจากไม่ได้ใครมาเพิ่มแล้ว ยังมีโอกาสจะเสียนักเตะตัวหลักออกจาทีมไปอีกคน หลัง วิลเฟร็ด ซาฮา มีข่าวกับอาร์เซน่อลและอาจลาทีมไป ตาม อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็คขวาดาวรุ่งที่ย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนหน้านี้
ลิเวอร์พูล (1 คน)
นักเตะใหม่ : เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก (พีอีซี ซโวลล์, 1.3 ล้านปอนด์)
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหงส์แดง ออกยอมรับว่าซัมเมอร์นี้คงไม่มีการทุ่มซื้อนักเตะดาวดังมากมายเหมือนกับเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เหมือนปีที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้อีก และน่าจะคว้าตัวแข้งดาวรุ่งมาร่วมทีมเพื่ออนาคตมากกว่า
เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก กองหลังดาวรุ่งชาวดัชต์ ถูกคว้าเข้ามาในถิ่นแอนฟิลด์เป็นคนแรกในซัมเมอร์นี้ ขณะที่ แข้งดาวอนาคตไกลจากฟูแล่มอย่าง ฮาร์วีย์ เอลเลียต ที่เป็นข่าวกับทีมในช่วงที่ผ่านมา ก็น่าจะย้ายมาสวมเครื่องแบบหงส์แดงในเร็วๆนี้
มาร์กเซย (0 คน)
หลังจากพ่ายในเกมอุ่นเครื่องไปแบบน่าอับอายทั้ง 2 นัด (แพ้แอคคริงตัน 2-1 และ เรนเจอร์ส 4-0) อังเดร วิลาส-โบอาส ก็ยังมีท่าทีว่าจะคว้านักเตะคนไหนมาร่วมทีมแม้แต่คนเดียวในซัมเมอร์นี้ นอกจากขายออกไปให้กับทีมอื่นๆในยุโรปแทน รวมถึงเสียนักเตะในทีมออกไปแบบฟรีๆด้วย
ลูคัส โอคัมโปส แข้งตัวหลักของทีมก็ย้ายไปเซยีย่า ขณะที่ มาริโอ บาร์โลเตลลี่ ก็มีสัญญาอยู่กับโอเอ็มแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น แต่อดีตกุนซือเชลซีและสเปอร์ส ก็ไม่คิดจะรั้งไว้และตัดสินใจปล่อยเขาไปแบบไม่คิดอะไรมาก
โมนาโก (1 คน)
นักเตะใหม่ : เกลสัน มาร์ตินส์ (แอตเลติโก้ มาดริด, 19.6 ล้านปอนด์)
ช่างเป็นฤดูกาลแห่งหายนะของโมนาโกจริงๆ หลังเธียร์รี่ อองรี เกือบทำทีมตกชั้นไปเล่นในลีก เดอซ์ ก่อนที่กุนซือใหม่หน้าเก่าอย่าง เลโอนาร์โด้ ยาร์ดิม จะเข้ามากู้วิกฤตและพาทีมกลับมาจนจบอันดับที่ 17 ได้ในลีกเอิง
ในตอนนี้นายใหญ่ชาวโปรตุเกสกำลังมองหาวิธีที่ทำให้ อดีตแชมป์ลีกฤดูกาล 2016-17 กลับไปอยู่ในจุดที่เคยอยู่ให้ได้ อย่างไรก็ตาม เขาจำเป็นต้องคว้านักเตะมาค้าแข้งในถิ่น สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ให้ได้มากกว่านี้ เพราะแค่ เกลสัน มาร์ตินส์ จากตราหมี คงไม่ได้ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าปีก่อนมากมายแต่อย่างใด
นิวคาสเซิล (0 คน)
สถานการณ์ในทีมจากแดนอีสานในอังกฤษ ยังไม่มีท่าว่าจะดีขึ้นเลย หลังจากที่พวกเขาเสีย ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิชไป คนที่ทำให้ทีมอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ แม้จะว่าได้รับงบประมาณที่จำกัดมากๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
หลังจาก อดีตนายใหญ่ลิเวอร์พูลได้ลาทีม เดอะ แม็กพายส์ ยังเสีย อโยเซ่ เปเรซ ไปให้กับเลสเตอร์ ซิตี้ และ ไม่สามารถคว้าตัว โซโลมอน ลอนดอน มาร่วมทีมแบบถาวรได้ ซึ่งทั้ง 2 คนนั้นคือดาวซัลโวประจำทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา รวมไปถึงพวกเขาอาจเสีย ฌอน ลองสตาฟฟ์ ดาวรุ่งของทีมไปอีกในเร็วๆนี้
เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน นิวคาสเซิล ก็จะเล่นนัดแรกกับ พรีเมียร์ลีก กับ อาร์เซน่อล แล้ว ในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ แต่ดูเหมือน ไมค์ แอชลี่ย์ ก็ยังไม่กระตือรือร้นในเรื่องกุนซือหรือนักเตะใหม่ในทีมเท่าไหร่ ไม่แปลกใจที่สาวกทูน อาร์มี่ จะเกลียดเจ้าของทีมร่างท้วมมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
นีซ (1 คน)
นักเตะใหม่ : เคเฟรน ตูราม(โมนาโก,ฟรี)
พาทริค วิเอร่า ถือว่าทำผลงานได้ดีกว่า อดีตเพื่อนร่วมทีมในชุดไร้พ่ายอย่าง อองรี อยู่หลายเท่าตัว หลังการเข้ามาคุมทีมในบ้านเกิดเป็นครั้งแรก กุนซือวัย 43 ปีพาทีม นีซ จบอันดับ 7 ในลีกเอิงได้อย่างน่าประทับใจ
เชื่อว่าตัวของวิเอร่าเองไม่อยากให้ทีมหยุดอยู่แค่นี้และต้องการให้ทุกคนพัฒนามากขึ้นไปเรื่อยๆ ในตอนนี้เขาสามารถรั้งตัวดาวเด่นประจำสโมสรอย่าง อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง และ ยูเซฟ อทาล ไว้ได้ แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องหานักเตะมาเพิ่มความแข็งแกร่งในทีมมากกว่าเดิม หลังคว้าตัว เคเฟรน ตูราม ดาวรุ่งจากโมนาโกและลูกชายของ ลิลิยง ตูราม ตำนานทีมชาติฝรั่งเศสมาร่วมทีมแบบฟรีๆ
