โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในที่สุดก็ยิง ผีแดง จนได้หลังซัดประตูย้ำชัย 2-0 หลัง ฟาน ไดจ์ค โขกให้ทีมนำก่อน
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค.63 ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงที่มี 61 คะแนน จากการลงสนาม 21 นัด เปิดสนามแอนฟิลด์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 ที่มี 34 คะแนน โดยเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดเต็มส่งครบทั้ง ฟีร์มิโน่, มาเน่ และ ซาลาห์ ส่วน โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ มาในระบบ 3-5-2 แนวรุกไม่มี มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เจ็บทำให้ อองโตนี่ มาร์ซิยัล ต้องเล่นคู่กับ ดาเนี่ยล เจมส์ แทน
เกมครึ่งแรกเล่นไปได้ 15 นาที แฟนบอลเจ้าบ้านก็ได้เฮกันก่อนจากลูกเตะมุมฝั่งขวา อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดไปเข้าหัว ฟาน ไดจ์ค เทกตัวโขกเต็มหัวเข้าประตูไปให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นนาที 24 ฟีร์มิโน่ ยิงบอลเข้าประตูไปแล้วทว่าผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนยกเลิกประตูไปเนื่องจาก ฟาน ไดจ์ค ไปฟาวล์ เด เกอา ก่อนแล้ว เจ้าบ้านมาเฮเก้ออีกครั้งในนาที 35 แชมเบอร์เลน แทงบอลไปให้ ไวจ์นัลดุม หลุดไปยิงผ่านมือ เด เกอา แล้วแต่ก็เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน ทำให้จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล นำอยู่แค่ 1-0
กลับมาครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด แก้เกมได้ดีสู้ได้อย่างสูสี ทว่าช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายจากจังหวะโต้กลับเร็ว อลีสซอน เปิดยาวไปให้ ซาลาห์ กระชากเดี่ยวไปยิงลอดตัว เด เกอา เข้าไปเป็นประตูย้ำชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ ผีแดง 2-0 เก็บชัยในบ้าน 12 ติดต่อกัน และทิ้ง แมนฯ ซิตี้ อันดับ 2 เป็น 16 คะแนนแล้ว
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-1-2) : ดาบิด เด เคอา – วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – อารอน วาน บิสซาก้า, เฟร็ด, เนมานย่า มาติช, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ – อันเดรียส เปเรยร่า – อองโตนี่ มาร์กซิยาล, แดเนียล เจมส์
