ถึงแม้อาร์เซน่อลจะจบฤดูกาลก่อนด้วยอันดับที่ 8 ในลีก ซึ่งเป็นอันดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 แต่ก็แนวโน้มที่จะดีขึ้นพอสมควรตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
มิเกล อาร์เตต้า กุนซือคนใหม่ได้รับเครดิตมากที่สุดในการพา ปืนใหญ่ คว้าแชมป์ 2 รายการในสนาม เวมบลี่ย์ ซึ่งก็คือ แชมป์เอฟเอ คัพ เกมดวล เชลซี และ คอมมูนิตี้ ชิลด์ เหนือ ลิเวอร์พูล ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม หลายสิ่งหลายอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่ทีมวางแผนไว้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020-21 เมื่อ อาร์เตต้า และพลพรรคกันเนอร์ส พบกับความพ่ายแพ้มากกว่าคว้าชัยในลีก (ชนะ 4 แพ้ 5 จาก 10 เกม) โดยรั้งอันดับ 14 ในตาราง
แถมสุดสัปดาห์นี้ พวกเขาต้องทำศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่กำลังร้อนแรงอีก และ 10 สถิติเหล่านี้อาจทำให้เหล่า กูนเนอร์ส กังวลใจกับทีมรักหนักกว่าที่เคยเป็นแน่นอน
-ถึงจะมีนักเตะตัวรุกอย่าง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง หรือ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ อยู่ในทีม อาร์เซน่อล กลับมาค่าเฉลี่ยทำประตูในพรีเมียร์ลีกต่อนัดน้อยจนน่าเหลือเชื่อ
ปืนใหญ่ทำประตูเฉลี่ยต่อเกมเพียง 1 ลูกเท่านั้น ซึ่งมีแค่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เบิร์นลี่ย์ และ เวสต์บรอม 3 ทีมท้ายตารางเท่านั้นที่ทำประตูได้น้อยกว่าพวกเขาในลีก
-อาร์เซน่อลเป็นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการต่อบอล และมีจังหวะเข้าทำประตูที่ลื่นไหลสวยงาม แต่ว่าในฤดูกาลล่าสุดกลับดูแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่สามารถทำประตูได้จากจังหวะโอเพ่นเพลย์นานว่า 566 นาทีแล้ว หรือคิดเป็นราว ๆ 6 เกมเศษ
-แม้ยื้อยุดกันอยู่นาน แต่ท้ายี่สุด ปีแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ดาวยิงตัวเก่งทีมชาติกาบองก็ตัดสินใจต่อสัญญาใหม่กับ อาร์เซน่อล ในวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา
ทว่านับตั้งแต่นั้น หอกวัย 31 ปี ก็ไม่สามารถยิงประตูจากลูกโอเพ่นเพลย์ได้เลยในพรีเมียร์ลีกจาก 9 นัดหลังสุด รวมแล้วกว่า 807 นาที โดยประตูเดียวที่เขาทำได้หลังจากนั้นคือ จุดโทษในเกมเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ต้นเดือนพฤศจิกายนนั่นเอง
-ปัญหาอีกอย่างที่หลายคนเห็นจาก โอบาเมยอง ได้ชัดเจนเลยคือ โอกาสทำประตูที่น้อยนิดในแต่ละเกม โดยกองหน้าชาวกาบองมีค่าเฉลี่ย npxG (ค่าคาดหวังที่จะได้ประตูที่เกิดขึ้นในเกมนั้นๆ โดยไม่นับรวมลูกโทษ) 1.6 เท่านั้น ในฤดูกาลล่าสุด จากการอ้างอิงสถิติของ FBref
-ถึง โอบาเมยอง จะฟอร์มตกก็คงกล่าวโทษเขาคนเดียวไม่ได้ เพราะฟุตบอลคือกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม ช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกัน และจุดนี้เพื่อนร่วมทีมปืนใหญ่ถือว่าทำได้ไม่ดีพอเช่นกัน
ทีมของ อาร์เตต้า มีโอกาสยิงประตูเฉลี่ยที่ 9.5 นัด รั้งอันดับที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก มีเพียง คริสตัล พาเลซ, เบิร์นลี่ย์ และ นิวคาสเซิล ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่าสโมสรจากลอนดอน
-ในด้านเกมรับ อาร์เซน่อล ถือว่าทำได้ดีพอ เสียเพียง 12 ลูกจาก 10 นัด รั้งอันดับ 7 ในลีก แต่รายละเอียดบางจุดในเกมรับก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะพวกเขามีค่าเฉลี่ยการเข้าปะทะน้อยที่สุดในบรรดา 20 ของลีกฤดูกาลนี้ หรือคิดได้เพียง 11.7 ครั้งต่อเกมเท่านั้น
-การสร้างสรรค์เกมก็เป็นอีกส่วนของ อาร์เซน่อล ที่หายไป เพราะในด้านการสร้างโอกาสยิง พวกเขาทำไปเพียง 138 ครั้ง มากกว่าแค่ นิวคาสเซิล, เวสต์บรอม และ เบิร์นลี่ย์ 3 สโมสรร่วมลีกเท่านั้น
นอกจากนี้ มีเพียง เบิร์นลี่ย์ เท่านั้นที่มีจ่ายบอลในจังหวะสำคัญ (จ่ายเพื่อทำประตู) น้อยกว่าพลพรรคปืนโต
-หลายคนที่ไม่ใช่ กูนเนอร์สตัวยง อาจไม่ทราบว่า อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์ คือนักเตะทำประตูให้ อาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดของฤดูกาลนี้ที่จำนวน 3 ประตู และไม่ทำประตูอีกเลยนับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา
ก่อนจะกลับมาทำประตูได้เป็นครั้งแรกในรอบ 67 วันในทุกรายการ หลังเกมที่เอาชนะ ราปิด เวียนนา 4-1 ในศึกยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
-แฮร์รี่ เคน คือกองหน้าที่แนวรับอาร์เซน่อล ต้องรับมือให้ได้ในเกม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ วันอาทิตน์ แต่ก็มีเรื่องสุดตลกร้ายเมื่อนำสถิติของ ดาวยิงสเปอร์ส มาปรียบเทียบกับทีมคู่อริร่วมเมือง
กัปตันทีมชาติอังกฤษ ทำไปแล้ว 9 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มากกว่านักเตะปืนใหญ่ทั้งทีมที่ แอสซิสต์ รวมกันในลีกฤดูกาลนี้เพียง 7 ครั้งเท่านั้น
-สำหรับค่า xA (ค่าคาดหวังในการทำแอสซิสต์) มีเพียง ดานี่ เซบายอส เท่านั้นที่เป็นนักเตะอาร์เซน่อลเพียงคนเดียวที่ติด 1 ใน 30 ของผู้เล่นที่มีค่านี้มากที่สุดในฤดูกาลนี้ โดย กองกลางชาวสแปนิช รั้งอันดับที่ 20 และมีค่า xA อยู่ที่ 1.6 จากการอ้างอิงสถิติของ FBref เจ้าเก่า และทำไป 1 แอสซิสต์จากการเล่น 15 นัดในทุกรายการ