ดาวรุ่งพุ่งแรงจัด : 6 ตัวเต็งดาวรุ่งแห่งปีของ PFA

 

อีกไม่ถึง 1 เดือนก็จะถึงงานประกาศรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลอังกฤษแล้ว ซึ่งรางวัลนี้จะมอบให้กับนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนั้นๆ

 

แต่อีกรางวัลที่ได้รับการพูดถึงอยู่บ่อยครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมาก็คือ ดาวรุ่งแห่งปีของ PFA ซึ่งจะมอบให้กับนักเตะดาวรุ่งที่อายุไม่เกิน 23 ปี ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเกินใครในปีเดียวกัน และช่วงหลังๆรางวัลนี้การันตีว่านักเตะคนที่คว้ารางวัลนี้สามารถก้าวขึ้นไปเป็นยอดแข้งระดับโลกได้ ไม่ว่าจะเป็น เอเด็น อาซาร์, แฮร์รี่ เคน, เดเล่ อัลลี่ หรือ ลีรอย ซาเน่ ในปีที่แล้ว

 

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงทำการวิเคราะห์ตัวเต็งทั้งหมด 6 คนที่มีโอกาสคว้ารางวัลที่นักเตะอายุ 24 ปีขึ้นไปไม่สามารถไขว่คว้ามมครองได้ในฤดูกาลนี้

 

 

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ – อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)

 

อายุ 20 ปี
ลงเล่นในลีก  22 นัด

 

เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ชื่อของอเล็กซานเนอร์-อาร์โนลด์ เป็นที่จดจำของแฟนบอลอังกฤษพอสมควรหลังฉายฟอร์มเกินวัยกับลิเวอร์พูล แต่ใครจะคิดว่าในฤดูกาลนี้เขาจะรักษาฟอร์มเก่งแบบนี้ได้แถมทำได้อย่างยอดเยี่ยมกว่าเดิมด้วยซ้ำ หลังปรับปรุงเรื่องเกมรับได้ดีมากขึ้น แต่ประสิทธิภาพในการเติมเกมรุกและการครอสบอลที่แม่นยำก็ยังคงอยู่

 

ด้วยเหตุนี้ทำให้อาร์โนลด์กลายเป็นแบ็คขวาเบอร์หนึ่งของทีมอย่างไม่สงสัย โดยแข้งวัย 20 ปีลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปทั้งหมด 22 นัด รวมถึงเกมแชมเปี้ยนส์ลีกทุกนัดตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม และการขาดหายของเขาในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็ส่งผลกระทบต่อทีมหงส์แดงอย่างเห็นได้ชัด

 

และด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ ไม่แปลกใจที่แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษจะต้องหนักใจในการเลือกแบ็คขวาตัวหลักของทัพสิงโตคำรามในอนาคต (รวมถึงไคล์ วอล์คเกอร์ และ คีแรน ทริปเปียร์ด้วย) และด้วยวัยแค่นี้อาร์โนลด์ยังมีเวลาอีกเหลือเฝือในการพัฒนาฝีเท้าให้ยอดเยี่ยมขึ้นกว่าเดิม

 

 

เดวิค บรู๊คส์ (บอร์นมัธ)

 

 

อายุ 21 ปี
ลงเล่นในลีก 25 นัด

แม้ว่าบรุ๊คส์จะเคยรับใช้ทีมชาติอังกฤษชุดยู 21 และพาทีมคว้าแชมป์ตูลง ทัวร์นาเม้นต์ในปี 2017 แต่เขาก็เลือกเล่นให้กับทีมชาติเวลส์บ้านเกิดของแม่แทน ซึ่งลงเล่นกับทีมมังกรแดงไปแล้ว 10 นัดในวัย 21 ปีเท่านั้น โดยไรอัน กิ๊กส์ ผู้จัดการทีมได้เลือกบรุ๊คลงเล่นร่วมกับ แกเร็ธ เบล และ อารอน แรมซี่ย์ เช่นเดียวเพื่อนรุ่นๆไล่เรี่ยกันอย่าง แฮร์รี่ วิลสัน,แดเนี่ยล เจมส์, รับบี้ มาตอนโด้, เบน วู๊ดเบิร์น และ แม็ธทิว สมิธ

 

และในบรรดาผู้เล่นดาวรุ่งเหล่านั้น บรุ๊คส์คือนักเตะที่พัฒนาได้รวดเร็วและเห็นผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจสงสัยว่าทำไม เดอะ เชอร์รี่ส์ ถึงยอมจ่ายเงินกว่า 10 ล้านปอนด์เพื่อกระชากตัวเขามาจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด  แต่ทว่าในตอนนี้ค่าตัวของกองกลางตัวรุกรายนี้มีค่ามากกว่าเดิมอย่างน้อยถึง 3 เท่าจากที่เอ็ดดี้ ฮาว เคยซื้อมา

 

บรุ๊คส์ปรับตัวได้เข้ากับลีกสูงสุดแดนผู้ดีได้อย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ โดยมีส่วนกับประตูที่ทีมทำได้ในลีกถึง 10 ลูก (ยิง 6 จ่าย 4) และลงเล่นไปมากกว่า 1,829 นาทีในพรีเมียร์ลีกด้วย

 

 

เจมส์ แม็ดดิสัน (เลสเตอร์)

 

 

อายุ 22 ปี
ลงเล่นในลีก 29 นัด

 

แม็ดดิสันคือหนึ่งในสิ่งๆดีที่เหลือมาถึงยุคของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในทีมจิ้งจอกสีน้ำเงิน นั่นต้องขอบคุณ โคล้ด ปูแอล กุนซือคนเก่าที่เชื่อมั่นในนักเตะดาวรุ่งรายนี้ในช่วงที่เขาทำหน้าที่อยู่ แถมโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจมากๆ แม้ว่านี่จะเป็นปีแรกที่แม็ดดิสันได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกก็ตาม

 

ตัวเขาไม่ถูกแกเร็ธ เซาธ์เกตเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากให้เหตุผลว่าทีมไม่จำเป็นต้องใช้นักเตะเพลย์เมกเกอร์เบอร์ 10 แต่ตัวของร็อดเจอร์ส์พิสูจน์ให้เห็นแม็ดดิสันสามารถเล่นตรงไหนก็ได้ในเกมรุกหลังโชว์ฟอร์มเด่นกับตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้ายในนัดที่เฉือนเบิร์ยลีย์ไป 2-1 ในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

และถ้าพูดกันตรงๆแล้ว เราอาจจะมองว่าแม็ดดิสันโชคร้ายไปหน่อยที่ไม่ติดทีมชาติในครั้งนี้ เพราะเขาสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วม 3.4 ครั้งต่อเกมในฤดูกาลนี้ มากกว่าดาวเตะเบอร์หนึ่งของบาร์เซโลน่าอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ด้วย และถ้าหากตัวเขาปรับปรุงในเรื่องการยิงประตูนอกกรอบที่หวังผลได้ เชื่อว่ายังไงเซาธ์เกตไม่มีทางเมินเขาอย่างแน่นอน

 

 

แอรอน วาน-บิสซาก้า (คริสตัล พาเลซ)

 

 

อายุ 21 ปี
ลงเล่นในลีก 27 นัด

 

เมื่อเซาธ์เกตประกาศรายชื่อ 25 ขุนพลสิงโตคำรามเพื่อทำศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือกในเกมพักเบรกทีมชาติช่วงที่ผ่านมา แฟนบอลปราสาทเรือนแก้วต่างทำคิ้วเลิ่กลั่กพร้อมตั้งคำถามมากมายว่าทำไมไม่มีชื่อของ แอรอน วาน-บิสซาก้า อยู่ใน 25 คนเหล่านั้น

 

แต่ว่าไม่ต้องเสียใจจนเกินไป เพราะศักยภาพของแบ็คขวาดาวรุ่งรายนี้มีมากพอที่ก้าวขึ้นไปตัวหลักในทีมชาติอังกฤษได้ในอนาคตอย่างแน่นอน หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทีมชาติชุดยู 21 ในศึกชิงแชมป์ทวีปยุโรปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และล่าสุดฟอร์มในสีเสื้อคริสตัล พาเลซ วาน-บิสซาก้าก็ทำได้ดีจนน่าตกใจ จนกลายเป็นนักเตะที่พาเลซขาดจากทีมไม่ได้เลยในฤดูกาลนี้

 

แค่คำถามที่ตามมาก็คือเขาจะรักษาฟอร์มแบบนี้ไปได้นานแค่ไหนกัน หลังมีข่าวลือว่าทีมใหญ่ร่วมลีกต่างกำลังจ้องจะคว้าลายเซ็นของแข้งวัย 21 ปีให้ได้ในเร็วๆนี้ แต่หากเขาสามารถรักษามาตรฐานฝีเท้าของตนเองไว้จริงๆ ยังไงประตูสู่ทีมชาติอังกฤษก็เปิดกว้างและรอเขาอยู่เสมอ

 

 

มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนยูไนเต็ด)

 

 

อายุ 21 ปี
ลงเล่นในลีก 26 นัด

นี่อาจจะไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีนักสำหรับมาร์คัส แรชฟอร์ด หลังฟอร์มตกแบบสุดขีดในยุคของโชเซ่ มูรินโญ่ และต้องกระเด็นไปนั่งสำรองอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาเข้ามา ฟอร์มของปีศาจแดงก็ค่อยดีวันดีคืน รวมถึงการเล่นของกองหน้าวัย 21 ปีก็ดีขึ้นไม่ต่างกัน

 

แรชฟอร์ดในยุดจ่ามูถูกจับไปเล่นในตำแหน่งริมเส้นอยู่บ่อยครั้งทำให้เขาไม่สามารถทำประตูได้มากเท่าไหร่นัก แต่ในยุคโซลชา แรชถูกดันขึ้นไปเป็นกองหน้าเต็มตัวและอยู่ในกรอบเขตโทษมากขึ้น ทำให้ฟอร์มของเขากลับยอดเยี่ยมอีกครั้ง และไม่ใช่แค่ในสโมสรเท่านั้น และในทีมชาติอังกฤษเขาก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน

แม้ปัญหาหลักของเขาคือการที่เขาไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวาได้ทุกนัด แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษพูดถึงดาวรุ่งจากรั้วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดว่าเขายังมีเวลาอีกมากมายในการพัฒนาฝีเท้า และตัวเขาก็แสดงให้เห็นว่าตนเองเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

 

 

เดแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม)

 

 

อายุ 20 ปี
ลงเล่นในลีก 28 นัด

 

ม้ามืดในการคว้ารางวัลดาวรุ่งแห่งปีของพีเอฟอีไปครองในฤดูกาลนี้ แต่โอกาสจะค่อนข้างน้อยกว่าคนอื่นในลิสต์นี้ แต่การถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษหนแรกก็แสดงให้เห็นว่า เดแคลน ไรซ์ มีดีแค่ไหนในฤดูกาลนี้

 

ไรซ์เป็นกองกลางที่มีอายุแค่ 20 ปีก็จริง แต่เทคนิคและวุฒิภาวะในการเล่นของเขาดูโตกว่าวัยของตนเองซะอีก แถมยังสามารถโยกไปเล่นเป็นกองกลางตัวจ่ายบอลหรือกองหลังตัวกลางก็ได้ ซึ่งนั่นดูจะเป็นข่าวร้ายสำหรับ เอริค ดายเออร์ รุ่นพี่ในทีมชาติอยู่ไม่น้อย แต่อย่างไรซะนี่ก็เป็นเรื่องที่ดีกับเวสต์แฮมและทีมชาติอังกฤษมากๆเลย

 

ด้วยความนิ่งของเขา ไม่ว่าจะเป็นยามมีบอลอยู่กับตัว หรือไร้การครอบครองบอล ทำให้หลายๆคนลืมไปเลยว่าไรซ์มีอายุแค่ 20 ปีเท่านั้น ซึ่งในบรรดาตัวเต็งทั้งหมดที่กล่าวมา เขาคือคนที่ลงเล่นในลีกมากที่สุดหากคิดเป็นนาทีรวมกัน และด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ทำให้เขาสามารถทำหน้าของตนเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนทำให้หลายๆคนมองว่าไรซ์จะกลายเป็นกองกลางเบอร์ต้นในลีกได้อย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้