แม้ทับโรดรี้ : ดีลคว้าฟิลลิปส์ดีต่อเรือใบอย่างไร

แม้ทับโรดรี้ : วิเคราะห์ดีลฟิลลิปส์ดีต่อเรือใบอย่างไร

ในฟุตบอลมักมีสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วนชวนลำบากใจอยู่ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือการต้องเลือกระหว่างอยู่ที่สโมสรในวัยเด็กที่คุณรักต่อไปหรือละทิ้งสถานะตำนานเพื่อแสวงหาเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และนั่นคือสิ่งที่ คัลวิน ฟิลลิปส์ ได้ตัดสินใจในซัมเมอร์นี้

กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด กองกลางทีมชาติอังกฤษ อาจเป็นแกนหลักคนสำคัญของสโมสร อีกทั้งการที่เขาเป็นแฟน ‘ยูงทอง’ ตัวยงตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวกับครอบครัวของเขา ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เจ้าตัวคงพอใจกับการได้ค้าแข้งในถิ่น เอลแลนด์ โร้ด ตลอดอาชีพ

อย่างไรก็ตาม กองกลางวัย 26 ปี ก็เลือกย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในอนาคตอันใกล้นี้ หลังทั้ง 2 สโมสรตกลงค่าตัวได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เช่นกัน เพราะนี่คือทีมที่สามารถการันตีความสำเร็จให้เขาได้ในแง่ของถ้วยรางวัล และยกระดับอาชีพของตนเอง เหมือนที่ แจ็ค กรีลิช แสดงให้เห็นหลังเลือกลา แอสตัน วิลล่า เพื่อมาเป็นแชมป์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ฟิลลิปส์ ต้องเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ ย้อนกลับไปในปี 2019 วิลล่า พยายามดึงเขาไปร่วมทีม ซึ่งในตอนนั้น ลีดส์ ยังคงอยู่ในแชมเปี้ยนส์ชิพ แต่การสนทนากับ แกรนนี่ วาล คุณยายผู้ล่วงลับของเขา คือสิ่งเดียวที่ทำให้เขาปัดสวมชุด ‘สิงห์ผงาด’ ในตอนนั้น

แต่ในครั้งนี้คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่มีทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และนักเตะดาวดังมากมาย พร้อมด้วยคุณภาพระดับต้นๆของยุโรป ทว่าการย้ายมายัง เอติฮัด สเตเดี้ยม จะเป็นประโยชน์กับทั้งนักเตะและสโมสรหรือไม่ UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์ผ่านบทความนี้กัน

 

ทับตำแหน่งโรดรี้

Man City transfer news: Could Kalvin Phillips be Rodri's deputy? - BBC Sport

ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นนับตั้งแต่ ลีดส์ เลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาล 2020-21 ทำให้ ฟิลลิปส์ ได้รับความสนใจจากทีมระดับต้นๆในพรีเมียร์ลีก ซึ่งในตอนนั้น มาร์เซโล่ บิเอลซ่า อดีตกุนซือก็มั่นใจว่ากองกลางรายนี้จะย้ายไปทีมที่ดีกว่าแน่นอนในอนาคต

“ผมแน่ใจว่าวันที่เขาออกจากลีดส์จะสร้างความผิดหวังไม่น้อย แต่ผมแน่ใจว่าวิธีที่เขาทำจะทำให้การเชื่อมโยงของเขากับสโมสร ผู้คน และเมืองนั้นแข็งแกร่งขึ้น” กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ กล่าวในปี 2021

คำทำนายของ ‘เอล โลโค่’ กลายเป็นความจริงในซัมเมอร์นี้ เพียงแต่การย้ายทีมนี้ก็เป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่ของ กองกลางทีมชาติอังกฤษด้วยเช่นกัน เมื่อจะต้องมาแย่งตำแหน่งกับ โรดรี้ ในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับ กับระบบ 4-3-3 ในทีมของ กวาร์ดิโอล่า 

โดยกองกลางทีมชาติสเปน ถือเป็นหัวใจในแผงกองกลางของทีมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เนื่องจากเขาเป็นคนกำหนดจังหวะการเล่นของทีมเป็นหลัก พร้อมจบฤดูกาลด้วยการเป็นนักเตะที่จ่ายบอลสำเร็จมากสุดในแดนคู่แข่ง และแย่งบอลกลับมาครองได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก 

ความสำคัญของ โรดรี้ ที่มีต่อ ซิตี้ นั้นถูกเน้นย้ำด้วยเปอร์เซ็นต์การชนะของพวกเขาทั้งที่มีและไม่มีมิดฟิลด์ชาวสแปนิช ซึ่งอัตราการชนะสำหรับทีมของ กวาร์ดิโอล่า ลดลงอย่างมากเมื่อ โรดรี้ ไม่ได้อยู่ในสนาม (มีชนะ 33 เกมจาก 43 คิดเป็น 77%, ไม่มีชนะ 3 จาก 7 นัด คิดเป็น 43%) แถมยังทำประตูได้น้อยลงเมื่อกองกลางของพวกเขาหายไป (มี 2.7 ลูกต่อเกม, ไม่มี 1.7 ลูกต่อเกม)

นั่นทำให้มีคำถามว่า ทำไม ฟิลลิปส์ ถึงเลือกลาทีมบ้านเกิดที่เขาสามารถกลายเป็นตำนานอย่าง ลีดส์ เพื่อมา ซิตี้ สโมสรที่อุดมไปด้วยกองกลางระดับโลก โดยเฉพาะบทบาทกองกลางตัวรับที่ โรดรี้ ครองตำแหน่งตัวจริง?

 

ประสิทธิภาพไม่ห่างกัน

Leeds 'increasingly resigned' to losing key player but he's 'not a genuine  option' for Man Utd - NewsTimes.com.ng

คำตอบแบบง่ายๆที่สุดก็คือ แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องการเพิ่มตัวเลือกในตำแหน่งนี้เช่นกัน เมื่อ แฟร์นานดินโญ่ กำลังลาทีมในซัมเมอร์นี้ ทำให้เหลือแค่ โรดรี้ ไว้ใช้งานคนเดียว ซึ่งในฤดูกาลก่อน อดีตกัปตันทีมชาวบราซิลเลี่ยน ก็ลงเล่นไปถึง 33 นัด ซึ่งส่วนใหญ่ทำหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับ นั่นทำให้ กองกลางชาวอังกฤษ จะมีบทบาทสำคัญในทีมของ เป๊ป เช่นกัน

นอกจากนี้ หากวิเคราะห์เกมของ โรดรี้ อย่างใกล้ชิดแสดงให้เห็นว่านับตั้งแต่เขามาถึงเอติฮัด สเตเดี้ยม ในปี 2019 แข้งเลือดกระทิงต้องการผู้เล่นที่คล้ายคลึงกันเพื่อแบ่งเบาภาระของเขาในบทบาทกองกลางตัวรับด้วย

โดยสถิติแสดงให้เห็นว่า เมื่อ โรดรี้ เสียการครองบอลมากๆ ซิตี้ จะไม่ชนะ โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมามี 6 เกมลีกที่เขาเสียบอลมากกว่า 15 ครั้งขึ้นไป มีเพียงเกมเดียวที่ทีมของ กวาร์ดิโอล่า คว้าชัยได้ นั่นก็คือเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ในเดือนมีนาคม ส่วนอีก 5 เกมที่เหลือ แบ่งเป็นแพ้ 3 (พาเลซ, วูล์ฟส์, ไบรท์ตัน) และ เสมอ 2 (พาเลซ, เวสต์บรอม)

ใน 2 ปีแรกบนพรีเมียร์ลีก ดาวเตะวัย 26 ปี แสดงให้เห็นว่าเขามีประสิทธิภาพพอๆ กับโรดรี้ ทั้งการเข้าปะทะ, แย่งบอล ตัวเลขทั้งหมดนั้นสูงกว่า กองกลาง ซิตี้ ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่พอคาดเดาได้ เนื่องจาก ลีดส์ เป็นทีมที่ต้องถอยไปเล่นเกมรับมากกว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ อยู่แล้ว

ทว่าสิ่งที่น่าสนใจก็คือการที่กองกลางชาวอังกฤษ ไปกับบอลได้ดีกว่าจากมุมมองทางสถิติเมื่อเทียบกับแข้งชาวสแปนิช (การพยายามเลี้ยงบอล 0.98 ต่อ 0.88) แม้ว่า ลีดส์ จะคุมเกมไม่ได้ในแบบเดียวกับที่ ซิตี้ ทำ รวมไปถึงรับมือกับผู้เล่นได้ดีกว่าทั้งการปะทะ แย่งบอล (2.86, 1.54 – 2.3, 1.02) หรือจ่ายบอลขึ้นหน้าสำเร็จสูงกว่าด้วย (28.02% ต่อ 20.99%)

ในขณะเดียวกัน เมื่อ ฟิลลิปส์ ย้ายไปที่เอติฮัด สเตเดี้ยมในช่วงซัมเมอร์นี้ ซิตี้ ก็จะมีผู้เล่นที่ดีที่สุดในลีกถึง 2 คนในการเก็บบอลกลับคืนมาในทีมของพวกเขา โดยฤดูกาลที่แล้ว โดยกองกลาง ลีดส์ มีสถิติเก็บบอลกลับมาที่ 12.87 ครั้ง ต่อการที่คู่แข่งสัมผัสบอล 1,000 ครั้ง รองจากโรดรี้ 17.01 และดีกว่าทั้ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ชูเอา คันเซโล่ และเดแคลน ไรซ์ ที่โดดเด่นในด้านนี้

นั่นหมายความว่า หาก เป๊ป ต้องการให้ โรดรี้ พัก หรือมีเหตุจำเป็นให้พลาดลงเล่นให้ ซิตี้ พวกเขาก็สามารถใช้งาน กองกลางชาวอังกฤษ ในตำแหน่งนี้ได้ทันที ซึ่งโดดเด่นทั้งการเล่นกับบอล รวมถึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมรับด้วย

 

ต้องตาเป๊ปตั้งแต่แรกพบ

What Pep Guardiola said to Kalvin Phillips after Man City draw vs Leeds  United - Manchester Evening News

นอกเหนือจากเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมในแดนกลางแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งที่ กวาร์ดิโอล่า เลือกดึง ฟิลลิปส์ มาร่วมงานด้วย คือผลงานที่นักเตะแสดงให้เห็นตั้งแต่เกมแรกที่พวกเขาพบกัน ในนัดที่ ซิตี้ ดวลกับ ลีดส์ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2020 ณ สนาม เอลแลนด์ โร้ด

ภายใต้การดูแลของ มาร์เซโล บิเอลซ่า กุนซือผู้มีอิทธิพลต่อสไตล์การทำทีมของ เป๊ป เขาคือคนที่ทำให้ กองกลางวัย 26 ปี โดดเด่นอย่างมากในสนาม ทั้งการเก็บบอลกลับไปครองที่มากกว่าใคร (9) มีเพียงแค่ โรดรี้ ที่เก็บบอลในแดนกลางไปครองได้มากกว่าเขาในเกมนั้น รวมไปถึงการจ่ายบอลไกลที่แม่นยำมากเป็นอันดับ 6 ในเกมนั้น (4 ครั้ง)

ขณะที่เกมต่อมาที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม แม้ทีม ‘ยูงทอง’ เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน แต่พวกเขาก็หักปากกาเซียนทั้งหลายด้วยการเฉือน ซิตี้ 2-1 และแน่นอนว่า กองกลางชาวลีดส์ ก็ทำผลงานได้โดดเด่นอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้ กวาร์ดิโอล่า ประทับใจในตัวเขามากขึ้นไปอีก

ยามไม่มีบอล มีเพียง สจ๊วร์ต ดัลลาส และ ราฟินญ่า ที่แบ่งกลับมาครองในพื้นที่แนวรับสุดท้ายมากกว่าเขา ขณะที่ในด้านการเลี้ยงบอล เขาก็ทำได้มากกว่านักเตะทุกคนในสนาม โดยเทียบเท่ากับ กาเบรียล เชซุส ในวันนั้น

เมื่อ แฟร์นานดินโญ่ ลาทีมไป ซึ่งได้โอกาสที่ เป๊ป จะเพิ่มมิติและตัวเลือกให้กับตำแหน่งกองกลางตัวรับของเขาในซัมเมอร์นี้

 

เหมาะที่สุดคือกลางตัวรับ

Kalvin Phillips set to join Manchester City - Deal could break Leeds  United's record sale | Transfermarkt

ความสมดุลนั้นที่ ฟิลลิปส์ นำมาสู่ ลีดส์ เป็นสิ่งที่ เจสซี่ มาร์ช สังเกตุได้ในทันที ตั้งแต่ช่วงที่เขาเข้ามาแทนที่ บิเอลซ่า ใน เอลแลนด์ โร้ด เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา 

กุนซือชาวอเมริกัน ไม่สามารถใช้งานกองกลางชาวอังกฤษได้ ในช่วงแรกๆที่เขาทำหน้าที่นี้ เนื่องจากยังต้องพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บระยะยาว แต่หลังจากที่เจ้าตัวหายกลับมาในช่วงเดือนเมษายน มาร์ช ก็ออกปากชมลูกทีมคนนี้บ่อยๆ ทั้งในด้านพลังงานที่ล้นเหลือ และมันสมองในการเล่น

บทบาทของ แข้งวัย 26 ปี ในทีม ‘ยูงทอง’ เปลี่ยนไป เมื่อนายใหญ่แดนมะกันเข้ามา เพราะจากเดิมที่เขาทำหน้าที่กองกลางตัวรับแบบเดี่ยวๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นกองกลางคู่ และเล่นร่วมกับ มาเตอุสซ์ คลิช 

หลัง 90 นาทีแรกที่กลับมาจากการบาดเจ็บ ในเกมบุกเยือน คริสตัล พาเลซ เดือนเมษายน แข้งลีดส์ ได้กล่าวกับ Sky Sports ว่าเขาสามารถเล่นทั้งได้ทั้ง 2 บทบาทในแดนกลาง แต่เขาก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าในตำแหน่งกองกลางตัวรับ ซึ่งเป็นวิธีที่กวาร์ดิโอล่า ใช้ โรดรี้เป็นส่วนใหญ่

แม้จะมีผู้เล่นเพิ่มในตำแหน่งมิดฟิลด์เคียงข้างเขาภายใต้การคุมทีมของ มาร์ช แต่สุดท้าย กองกลางชาวอังกฤษ ก็ยังต้องเล่นเกมรับมากกว่าเดิม ขณะที่การจ่ายบอลก็เพิ่มสูงขึ้นในระบบการเล่นใหม่

กองกลางเลือดผู้ดี เข้าสกัดและเก็บบอลได้มากกว่ายุคของ บิเอลซ่า เสียอีกเมื่อเทียบกับ มาร์ช (1.39, 8.66 ต่อ 1.51, 9.68) ในขณะที่ระยะการส่งบอล (4.67 ต่อ 4.08) ความแม่นยำในการจ่ายบอล (84.12% ต่อ 80.19%) และการสร้างโอกาส (1.1 ต่อ 0.3) อาจตกลงจากเดิมในบทบาทใหม่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความยอดเยี่ยมของเขาลดลงแต่อย่างใด

หากแกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องการฟิลลิปส์ที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ บางทีการย้ายมาที่ซิตี้ ซึ่งเขาจะเล่นในตำแหน่งกองกลางที่เขาโปรดปราน อาจเป็นประโยชน์ต่อดาวเตะวัย 26 ปีมากกว่า

เช่นเดียวกับ ซิตี้ ของ เป๊ป ที่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังการมาของว่าที่กองกลางหน้าใหม่ แม้สุดท้าย ลีดส์ จะเป็นฝ่ายที่เสียหายที่สุดกับการเสียนักเตะคนสำคัญไปก็ตาม

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

จะเวิร์คมั้ย? : ดีลคว้าวิเอร่าจะดีต่อปืนใหญ่อย่างไร
จะเวิร์คมั้ย? : ดีลคว้าวิเอร่าจะดีต่อปืนใหญ่อย่างไร