ดีลวารานเป็นเหตุ : โจนส์กับอนาคตที่มืดสนิทในปีศาจแดง 

วาราน

จากครั้งหนึ่งที่เคยถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยกให้ว่าที่กองหลังเบอร์หนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบัน ฟิล โจนส์ กลับเป็นได้แค่เซ็นเตอร์แบ็คตัวเลือกท้ายสุดของสโมสร

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ชื่อของเขาได้รับการพูดถึงอย่างมากในฐานะกองหลังดาวรุ่ง และถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งอนาคตของวงการฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งก็ดูเป็นแบบนั้นหลังย้ายจาก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ซบ ‘ปีศาจแดง’ ในปี 2011

ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป กองหลังแดนผู้ดีที่ถูกคาดหวังจะกลายเป็นแนวระดับเบอร์ต้นๆในยุโรป ตกเป็นตัวสำรองอย่างสมบูรณ์แบบ หลุดทีมไปชาติไปนานกว่า 3 ปี พร้อมด้วยการอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าจนยากจะกลับมาทวงตำแหน่งตัวจริงได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมาของ ราฟาเอล วาราน กองหลังคนใหม่ในทีมก็กลายเป็นตัวเร่งเวลาให้ตอนจบอันแสนเศร้าของ โจนส์ ให้เกิดขึ้นเร็วเข้าไปทุกที… 

 

โดดเด่นก่อนใครเพื่อน

Jones on verge of Utd move - Eurosport

“ราฟาเอล อยู่ในช่วงพีคกับการเล่นเซ็นเตอร์แบ็ค เขามีอายุเท่ากับ แฮร์รี่ (แม็คไกวร์) และแก่กว่า เอริค (ไบยี่) และ วิคตอร์ (ลินเดอเลิฟ) อยู่ปีเดียว” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กล่าว หลังปิดดีลกองหลังคนใหม่อย่างเป็นทางการ

แม็คไกวร์ และ วาราน มีอายุเท่ากันที่ 28 ปี ขณะที่ ไบยี่ กับ ลินเดอร์เลิฟ มีอายุ 27 ปี แต่ชื่อหนึ่งที่ไม่ได้ถูกพูดถึงทั้งๆที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกันก็คือ กองหลังชาววัย 29 ปี ที่ไม่ได้ลงเล่นให้ทีมเลยตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปในปี 2011 ของแต่ละคน โจนส์ คือคนที่โดดเด่นมากที่สุด ในฐานะกองหลังดาวรุ่งจาก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, ได้ติดทีมชาติอังกฤษด้วยวัย 19 ปี, ย้ายมาเล่นกับทีมใหญ่ด้วยค่าตัวก้อนโต รวมถึงมีส่วนช่วยสโมสรคว้าแชมป์ลีกด้วย

ขณะที่ กัปตันยูไนเต็ดคนปัจจุบัน ณ ตอนนั้น ยังค้าแข้งอยู่กับสโมสรในลีกวัน กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด  ส่วนอีก 3 คนที่เหลือก็ยังเป็นดาวรุ่งที่ไม่มีใครรู้จักมากนัก ไม่ว่าจะเป็น ไบยี่ ที่เพิ่งย้ายไปเล่นกับ เอสปันญ่อล ชุดบี ในปี 2011, ลินเดอเลิฟ กับ เบนฟิก้า ชุดสำรอง 

ที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงเป็น แข้งชาวฝรั่งเศส ที่เพิ่งตกชั้นลีกเอิง กับ ล็องส์ในการเล่นอาชีพครั้งแรก ก่อนย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในปีนั้น แต่กว่าจะได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ หรือก้าวเป็นตัวหลักในสโมสร ก็ต้องใช้เวลา 2-3 ปีเลย 

 อดีตกองหลังแบล็คเบิร์น ยังเคยถูกเปรียบเทียบกับ จอห์น เทอร์รี่ ตำนานเชลซี และ เฟอร์กี้เองก็เคยเปรียบเทียบเขากับ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ ตำนานผู้ล่วงลับของ ยูไนเต็ด พร้อมเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นยอดนักเตะได้ในอนาคต

“โจนส์ จากแนวทางการเล่นของเขา เขาอาจเป็นนักเตะเก่งที่สุดตลอดกาลของเรา ผมคิดว่าโจนส์อาจเป็นหนึ่งในนักเตะเก่งที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา ไม่ว่าเราจะให้เขาเล่นตำแหน่งไหน” ตำนานผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ เคยกล่าวไว้ในปี 2013

“ด้วยอายุ 21 ปี เขาจะเป็นนักเตะระดับปรากฏการณ์ ผมคิดว่าเล่นได้ทุกตำแหน่งในสนาม เขามีอิทธิพลต่อทีมสูงมาก ด้วยสัญชาตญาณ และการอ่านเกม เขามีแรงกระตุ้นอยู่ภายในตัวเขา” 

 

เรื่องจริงต่างจากฝัน

Manchester United star Phil Jones working on his return to fitness

9 ปีผ่านไป โจนส์ กลายเป็นกองหลังตัวเลือกที่ 6 ของสโมสร เขายิงประตูได้ในเกมที่ลงเล่นพบกับ ทรานเมียร์ ในเดือนมกราคมปี 2020 แต่นั่นก็เป็นเกมนัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นให้สโมสรเช่นกัน และได้ลงสนามเพียง 8 นัดเท่านั้นในฤดูกาล 2019-20

อีกทั้งช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล 2020-21 เขายังถูกหั่นออกจาก 25 รายชื่อลุยพรีเมียร์ลีก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการผ่าตัดหัวเข่า แม้มีชื่อกลับมาในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียวจนกระทั่งจบซีซั่น เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่ยังรบกวนต่อเนื่อง

แนวรับวัย 29 ปี กลายร่างจากแข้งอนาคตสดใสเป็นนักเตะที่ถูกลืม แถมยังโชคร้ายสุดๆที่บาดเจ็บไปแล้ว 24 ครั้งในอาชีพค้าแข้งกับ ยูไนเต็ด ตามการบันทึกของ Transfermarkt เว็บไซต์เก็บสถิตินักเตะจากเยอรมัน

ช่วงที่ยังหนุ่มแน่น เขาดูเพียบพร้อม มีแววดี และเก่งกาจถึงขั้นสามารถโยกไปเล่นเป็นกองกลางได้ในเกมที่ดวลกับ เรอัล มาดริด รวมไปถึงตำแหน่งแบ็คในบางเกม และมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็คตัวหลักของทีมในระยาว ก่อนจะกลายเป็นตัวตลกอย่างสมบูรณ์แบบในหมู่แฟนลูกหนังหลังหมดยุคของ เฟอร์กี้ 

เชื่อว่าหลายคนคงไม่มีทางลืมช็อตรับหน้าที่เตะมุมในยุค หลุยส์ ฟาน กัล, คลานเร็วตัดหน้าลูกยิงของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ในเกมพบ อาร์เซน่อล หรือจังหวะทำหน้าเหวอมากมายที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาในช่วงเป็นดาวรุ่งกับปัจจุบันเปลี่ยนไปมากราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน

 

อนาคตมืดสนิท

Football news - Opinion: Phil Jones' time at Manchester United has run its  course - Eurosport

ปัจจุบัน โซลชา ดูเหมือนจะได้คู่หูแผงหลังที่ลงตัวแล้วกับ แม็คไกวร์ กองหลังที่แพงที่สุดในโลก และ วาราน กองหลังแชมป์โลก ซึ่งน่าจะเป็นคู่หูเกมรับที่ดูดีที่สุด นับตั้งแต่หมดยุคของ ริโอ เฟอร์ดินาน และ เนมานย่า วิดิช

ทั้งที่จริงๆแล้ว โจนส์ ถูกวางไว้เป็นตัวแทนของ วิด้า และ เฟอร์ดินานด์คนพี่ ร่วมกับ คริส สมอลลิ่ง กองหลังร่วมชาติรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่สุดท้ายภาพฝันเหล่านั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง เมื่อ สมอลลิ่ง ลงเล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 9 ฤดูกาล ก่อนย้ายไป โรม่า แบบยืมตัวในปี 2019 และลาขาดในปีต่อมา

ส่วนอดีตแข้ง ‘กุหลาบไฟ’ กลายเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายร่วมกับ ดาบิด เด เคอา ในยุคของเฟอร์กี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ แต่เขาก็ไม่ใช่เสาหลักในเกมรับของสโมสรแต่อย่างใด

ที่แย่กว่านั้นคือแม้เพิ่งอายุแค่ 29 ปีเท่านั้นแต่เขาไม่สามารถก้าวขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดกับการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลย แตกต่างจากนายทวารชาวสแปนิช ที่เป็นมือหนึ่งในทีมเรื่อยมา แม้มีช็อตพลาดอยู่บ้างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

ต่อให้เขาหายกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง (ซึ่งไปได้ยากมาก) โอกาสเบียดไปเป็นตัวเลือกแรกของ กุนซือชาวนอร์เวย์ ก็มีน้อยอยู่ดี และอาจเป็นตัวเลือกท้ายสุดของทีมต่อจาก อักเซล ตวนเซเบ้ หรือ เทเดน เมนจี้ กองหลังดาวรุ่งด้วยซ้ำ

เชื่อว่า อดีตดาวรุ่งเลือดผู้ดี คงได้ไฟเขียวย้ายทีมจากสโมสรแน่นอน หากเขาต้องการ เมื่อดูจากกองหลังที่ ยูไนเต็ด มีให้เลือกใช้ในตอนนี้ โดยล่าสุดตกเป็นข่าวว่า เวสต์แฮม ที่มี เดวิด มอยส์ นายเก่าสนใจคว้าตัวไปร่วมทีม รวมไปถึง นิวคาสเซิล ของ สตีฟ บรูซ ด้วย

ไม่ว่า ลินเดอเลิฟ จะคิดว่า วาราน คือคนที่กำลังมาแทนที่เขาหรือไม่ แต่สำหรับ โจนส์ แล้ว ดีลนี้แทบดับอนาคตของเขาในทีมไปโดยปริยาย และอาจกลายเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเขาในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปพร้อมๆกัน

บทความที่เกี่ยวข้องกับ วาราน

วาราน
ต้องแชมป์เท่านั้น : หรือวารานคือจิ๊กซอว์ที่ปีศาจแดงตามหา?