ดูกันชัดๆ: เทียบสถิติแฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ ปราการหลังทั้ง 4 ของปีศาจแดง 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบปัญหาแนวรับมาตลอด นับตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือชาวสก็อตในปี 2013 โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คที่ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลยในตอนนี้

 

วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เอริค ไบยี่ ล้วนเป็นนักเตะที่มีศักยภาพเหลือล้น แต่ทั้งคู่กลับไม่สามารถทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอหรือแสดงความเป็นผู้นำในแผงหลังได้เลย ขณะที่ ฟิล โจนส์ และ คริส สมอลลิ่ง กองหลัง 2 คนที่อยู่กับทีมนานที่สุด ก็ไว้ใจไม่ได้ยามลงช่วยทีมป้องกันเกมรับปีศาจแดง ไม่ว่าจะเล่นด้วยกัน หรือ คู่กับ 2 คนก่อนหน้านี้ก็ตาม

 

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ ทีมสีแดงจากแมนเชสเตอร์ ขาดกองหลังมาดผู้นำเหมือนกับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังจอมแกร่งที่ลิเวอร์พูลมีอยู่ และตอนนี้พวกเขากำลังเดินหน้าคว้าตัว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังตัวเก่งของเลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีมให้ได้ เพื่ออุดรอยรั่วที่อยู่อย่างยาวนานให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง

 

แต่หากย้ายมาจริง เขาจะใช่คนที่เหล่า เร้ด อาร์มี่ ตามหาหรือไม่ ทาง UFA ARENA จะพาทุกท่านไปเช็กสถิติของเขาและเทียบกับ ปราการหลังทั้ง 4 ทีมของยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่ผ่านมากันว่าใครจะโดดเด่นกว่าใครในด้านไหนบ้าง

 

 

สถิติเกมรับ

 

 

สิ่งที่โดดเด่นชัดเจนมากที่สุดในตัวของ แม็คไกวร์ คือ การเล่นลูกกลางอากาศที่ยอดเยี่ยมและดุดัน เขาเอาชนะการดวลกันในจังหวะนั้นถึง 118 ครั้ง ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา มากกว่า ลินเดอเลิฟ 49 ครั้ง โดยที่ทั้งคู่ลงเล่นให้กับในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน (แม็คไกวร์ 2,599 นาที, ลินเดอเลิฟ 2,602 นาที)

 

ซึ่งหากแบ่งแล้ว กองหลังจากเลสเตอร์จะเอาชนะลูกกลางได้ในทุกๆ 22 นาที, แข้งชาวสวีดิช 37 นาทีต่อครั้ง, โจนส์ 27 นาทีต่อครั้ง และ ไบยี่มีสถิติด้านนี้แย่ที่สุด 49 นาทีต่อครั้ง แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ สมอลลิ่งคือกองหลังมีค่าเฉลี่ยด้านนี้ดีที่สุด โดยแบ่ง 20 นาทีต่อครั้ง

 

นอกจากนี้ แม็คไกวร์ยังค่าเฉลี่ยการเข้าปะทะใน 90 นาที น้อยกว่ากองหลังปีศาจแดงทั้ง 4 คน ซึ่งตัวเขาทำได้แค่ 1 ครั้งต่อเกมเท่านั้น ขณะที่ไบยี่, ลินเดอเลิฟ, สมอลลิ่งทำได้ 1.3 ครั้งต่อ 90 นาทีและ โจนส์ 1.1 ครั้งต่อเกม

 

 

อดีตปราการหลังเบนฟิก้า ชนะการเข้าปะทะ 27 จากทั้งหมด 40 ครั้ง (คิดเป็น 67.5 เปอร์เซนต์) ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018-19, โจนส์ ทำได้ 13 จาก 19 ครั้ง (68 เปอร์เซนต์), ไบยี่ 9 จาก 15 ครั้ง (60 เปอร์เซนต์) และ สมอลลิ่ง 17 จาก 30 ครั้ง (56 เปอร์เซนต์) เมื่อมาดูที่แม็คไกวร์ เขาเข้าปะทะสำเร็จ 17 จาก 31 ครั้งเท่านั้น (54 เปอร์เซนต์)

 

ในเรื่องความผิดพลาด ลินเดอเลิฟ และ สมอลลิ่ง คือนักเตะ 2 คนเท่านั้นที่ทำเข้าประตูตัวเองในซีซั่นที่แล้ว (คนละลูก) ส่วนกองหลังจิ้งจอกสีน้ำเงินไม่ทำเข้าประตูตัวเองก็จริง แต่ก็สร้างความผิดพลาดจนทำให้ทีมเสียประตู 1 ครั้งด้วยเช่นกัน

 

เมื่อวัดกันแล้ว แม็คไกวร์ และ ลินเดอเลิฟ ที่ได้ลงเล่นในจำนวนนาทีใกล้เคียงกัน ก็มีสถิติเกมรับที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดนทั้งคู่เก็บคลีนชีทได้ 6 นัดเท่ากัน และ เสียประตูไป 40 ลูก ยามยืนประจำการในแผงหลังให้ต้นสังกัด

 

 

อัตราการวิ่งเฉลี่ย และ การจ่ายบอลในรูปแบบต่างๆ

 

 

แม็คไกวร์วิ่งเฉลี่ย 8.76 กิโลเมตร ต่อเกมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา น้อยกว่าลินเดอเลิฟนิดๆ (8.88 กิโลเมตร) แต่ก็ห่างจาก สมอลลิ่งพอตัว (9.36 กิโลเมตร) ส่วนของ โจนส์ และ ไบยี่ นั้นน้อยกว่าคนอื่นหลายเท่า เนื่องจากโอกาสสนามที่มีไม่มากเท่ากับ 3 คนแรก (7.05 และ 4.95 กิโลเมตร ตามลำดับ)

 

แต่สถิติเรื่องความแม่นยำในการจ่ายบอล โจนส์ กลับทำได้ดีกว่าคนอื่นแบบไม่น่าเชื่อถึง 92.6 เปอร์เซนต์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว มากกว่า สมอลลิ่ง (86.2), ไบยี่ (87.1) และ ลินเดอเลิฟ (89.2) รวมถึงตัวแม็คไกวร์ด้วย (85.6)

 

อย่างไรก็ตาม อดีตกองหลังเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็จ่ายบอลต่อเกมมากที่สุด เฉลี่ย 56.4 ครั้งต่อเกม มากกว่า สมอลลิ่ง (39.8), โจนส์ (41.9), ไบยี่(25.2) และ ลินเดอเลิฟ (49.7) แบบขาดลอย

 

เรื่องการจ่ายบอลยาว แม็คไกวร์ก็ทำได้ดีกว่าคนอื่นค่อนข้างชัดเจน โดยทำไปเฉลี่ย 6.2 ครั้งต่อเกม มากเกือบ 3 เท่า ของกองหลังปีศาจแดงทั้งหมด (สมอลลิ่งและลินเดอเลิฟอยู่ที่ 2.1, โจนส์ 2.2 ครั้ง และ ไบยี่ 1.6 ครั้ง)

  

 

การสนับสนุนเกมรุก

 

 

ในจุดๆนี้ หากแม็คไกวร์ได้เข้ามาค้าในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด จริงๆ เขาจะช่วยเพิ่มประธิทธิภาพการเล่นเกมรุกจากลูกตั้งเตะได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นลูกฟรีคิกหรือ ลูกเตะมุม ก็ดี

 

กองหลังวัย 26 ปี ยิงประตูให้เลสเตอร์ได้ 3 ลูกในฤดูกาลที่ผ่านมา มากกว่า เซ็นเตอร์แบ็คของแมนยูไนเต็ดรวมกันทั้งหมด (สมอลลิ่งและลินเดอเลิฟยิงคนละลูก)

 

นอกจากนี้ แม็คไกวร์ยังมีค่าเฉลี่ยยิงประตู 1 ครั้งต่อเกม มากกว่าสมอลลิ่ง (0.5) และ ไบยี่, โจนส์ และ ลินเดอเลิฟ (ทั้งหมด 0.3) ซึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมา เขายังยิงเข้ากรอบมากถึง 13 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่สูงพอสมควรในตำแหน่งกองหลัง มากกว่ากองหลังของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทุกคน แบบชัดเจน (ไบยี่ และ ลินเดอเลิฟ ยิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียว, โจนส์และสมอลลิ่งยิงตรงกรอบ 2 ครั้ง)

 

หลังจากที่เทียบสถิติทั้งหมดของกองหลังในทีม และ ปราการหลังที่เป็นเป้าหมายในการเสริมทัพซัมเมอร์นี้ หลายสถิติก็บ่งบอกชัดเจนว่า แม็คไกวร์ทำได้ดีกว่าหลายเท่าตัว โดยเฉพาะการทำเกมรุก, การจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมทั้งลูกสั้นหรือยาวก็ตาม หรือ การเล่นลูกกลางอากาศด้วย แม้จะอยู่หลายจุดที่แข้งเลสเตอร์ยังสู้แข้งปีศาจแดงไม่ได้ แต่ว่าตัวเลขเหล่านั้นก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันแบบไม่เห็นฝุ่นเลย

 

อย่างไรก็ตาม ต่อให้แฟนบอลยูไนเต็ดไม่ต้องตามดูสถิติแบบระเอียดยิบแบบที่เราหามา เสียงส่วนใหญ่ก็คงต้องการเห็นกองหลังหน้าใหม่มาอุดรอยรั่วนี้ มากกว่าอยากจะให้กองหลังที่มีอยู่ในทีมปีศาจแดงทั้ง 4 คน ทำมันพังเหมือนปีที่ผ่านๆมา แน่นอน