ดูไว้ให้ดี : 12 แข้งสาวที่น่าจับตามองในบอลโลกหญิง 2019

 

ทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลที่หลายคนเฝ้ารอมากที่สุดในฟุตบอลหญิงคงหนีไม่พ้น ศึกฟุตบอลโลก 2019 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะแข่งเปิดสนามกันนัดแรกในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทัพเลอ เบลอส์ เอาชนะแข้งเนื้ออ่อนโสมขาวไปได้ 4-0

 

จากฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วใน 4 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนว่าวงการลูกหนังหญิงต่างมีการพัฒนาและเต็มไปด้วยแข้งสาวที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยพรสวรรค์มากมาย

 

แม้ว่าแฟนบอลชาวไทยส่วนใหญ่จะไม่รู้จักนักเตะหญิงส่วนใหญ่ในโลกนี้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะ UFA ARENA ได้คัดเลือกแข้งสาวที่เรามองว่าพวกเธอจะโชว์ฟอร์มได้สะเด่าไม่แพ้ฟุตบอลชายเลย

 

และนี่คือ 12 แข้งสาวจาก 12 ชาติที่เรามองว่าน่าจะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้กัน

 

 

อูจีนี่ เลอ ซอมแมร์ (ฝรั่งเศส)

 

 

ดาวยิงสูงสุดทัพตราไก่หญิงคนปัจจุบัน, อูจีนี่ เลอ ซอมแมร์ ซึ่งซัดไปแล้ว 74 ตุงทุกรายการ ตามหลัง มาริเน็ตต์ ปีชอน ดาวยิงสูงตลอดกาลของทีมชาติฝรั่งเศสแค่ 7 ลูกเท่านั้น ด้วยตัวเลขเหล่านั้นบ่งบอกเป็นอย่างดีว่า กองหน้าวัย 30 ปี เก่งกาจเพียงใดยามอยู่ในกรอบเขตโทษ

 

ในระดับสโมสร เลอ ซอมแมร์ ก็ยิงประตูมากถึง 257 ลูก ในทุกรายการที่ลงเล่นให้โอลิมปิก ลียง พร้อมพาทีมโอแอลคว้าแชมป์ทั้งในและนอกประเทศมากมาย เช่น แชมป์ลีก 9 สมัยซ้อนตั้งแต่ปี 2011, แชมป์แฟรนช์ คัพ 7 สมัย และ ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีก 6 สมัย ซึ่งฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพาแข้งเนื้ออ่อน เลอ เบลอส์ คว้าแชมป์โลกสมัยแรกได้

 

 

จี โซ ยุน (เกาหลีใต้)

 

 

ในทีมแทกุกหญิงคงไม่มีใครโดดเด่นไปกว่า จี โซ ยุน กองกลางเบอร์หนึ่งของทีม ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับเชลซี ใน เอฟเอ วูเมน ซุปเปอร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา แม้จะไม่สามารถป้องกันแชมป์ลีกได้ก็ตาม

 

จุดเด่นอีกอย่างนึงของ จี โซ ยุน คือการยิงประตูที่เฉียบคม แม้จะเล่นในตำแหน่งกองกลาง สถิติดาวยิงสูงสุดในทีมชาติเกาหลีใต้ที่เธอทำได้ถึง 54 ลูกจาการลงเล่น 115 นัด ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แม้จะออกสตาร์ทด้วยการพ่ายเจ้าบ้านไป 4-0 แต่เชื่อว่าด้วยความสามารถของเธอและเพื่อนสาวในทีมจะช่วยเกาหลีใต้มีลุ้นไปไกลกว่าศึกฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วในแคนาดาแน่นอน

 

 

อเล็กซานดร้า โป๊ป (เยอรมัน)

 

 

หากจะพูดกองหน้าหญิงที่ร่างกายแข็งแกร่ง แต่ก็เต็มไปด้วยทักษะที่เหนือชั้น ต้องยกให้กับ อเล็กซานดร้า โป๊ป หัวหอกหญิงทีมชาติเยอรมัน ที่เพิ่งพาโวล์ฟบวร์ก ต้นสังกัดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ 3 ปีซ้อน รวมถึงแชมป์ยุโรปมาได้ด้วยก่อนหน้านี้ในปี 2013 และ 2014 ซึ่งเป็นช่วงที่เธอกลายเป็นตัวหลักในทีมชาติพอดี

 

เส้นทางของแข้งสาววัย 28 ปีในทีมชาติ ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่พอสมควรในระดับเยาวชน โดยคว้าแชมป์โลกชุดยู 17 และ 20 ในปี 2008, 2010 ตามลำดับ แต่ในชุดใหญ่โป็ปทำได้แค่แชมป์ชุดโอลิมปิกในปี 2016 เท่านั้น ซึ่งในปีนั้นตัวเธอก็หวังว่าจะพาทีมอินทรีเหล็กกลับมาคว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 3 ให้ได้ หลังทำได้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2007 หรือเกือบ 12 ปีมาแล้ว

 

 

ซาแมนธ่า เคอร์ (ออสเตรเลีย)

 

 

ซาแมนธ่า เคอร์คือหนึ่งในกองหน้าที่ครบเครื่องที่สุดในวงการลูกหนังหญิง หลังทำสถิติมากมายใน เนชั่นแนล วูเมน ซ็อคเกอร์ ลีก ที่อเมริกา ไม่ว่าจะเป็นเป็นดาวยิงสูงสุดของลีก (ุ61 ประตู), ยิงมากที่สุดในหนึ่งนัด (4 ประตู), ยิงมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล (17 ประตู), แฮตทริกมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล (2 ครั้ง) ทั้งหมดนี้เคอร์ทำได้ด้วยแค่เพียง 25 ปีเท่านั้น

 

แต่เธอไม่ได้เก่งแค่ในระดับสโมสรอย่างเดียว เพราะในทีมชาติออสเตรเลีย เคอร์ ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แถมโชว์แววเก่งมาตั้งแต่เป็นดาวรุ่งแล้ว หลังติดทีมจิงโจ้ครั้งแรกด้วยวัยเพียง 15 ปีเท่านั้นในปี 2009 และกลายเป็นตัวหลักมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเธอพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมเพื่อช่วยออสเตรเลียไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ในศึกครั้งนี้

 

 

มาร์ต้า (บราซิล)

 

 

แข้งสาว มาร์ต้า วิเอร่า ดา ซิลวา หรือที่หลายคนเรียกเธอสั้นๆว่า ‘มาร์ต้า’ ถือเป็นแข้งเนื้ออ่อนระดับตำนานอย่างแท้จริง และเป็นหนึ่งในแข้งที่ดีที่สุดในโลกของวงการฟุตบอลหญิง โดยมาร์ต้าคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากฟีฟ่าถึง 6 สมัยในปี 2006, 2007, 2008, 2009, 2010 และ 2018 อีกทั้งยังครองตำแหน่งดาวยิงสูงสุดในบอลโลกหญิงตลอดกาลที่ 15 ประตู

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้แข้งสาววัย 33 ปีจะคว้ารางวัลในระดับสโมสรกับทีมต่างๆทั้งในบราซิล บ้านเกิดและยุโรปมากมาย แต่ในทีมชาตินั้น มาร์ต้ายังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้เลยซักรายการเดียว ใกล้เคียงที่สุดคือรองแชมป์โลกปี 2007 และเหรียญเงินโอลิมปิก 2 สมัย (2004, 2008) และในฟุตบอลครั้งนี้ที่แดนน้ำหอมคือโอกาสสุดท้ายที่มาร์ต้าจะพาทีมเซเลเซาคว้าแชมป์และกลายเป็นตำนานอย่างไร้ข้อกังขา

  

 

นิลล่า ฟิชเชอร์ (สวีเดน)

 

 

หลังจากหมดยุคของล็อตต้า เชลลิน เมื่อปี 2018 คนที่มีประสบการณ์มากที่สุดของทัพไวกิ้งสาวคงหนีไม่พ้น นิลล่า ฟิชเชอร์ กองหลังจอมเก๋าวัย 34 ปี ที่ลงเล่นให้ทีมชาติมากกว่า 153 นัด และพาทีมบ้านเกิดลุยฟุตบอลโลกมาแล้ว 4 ครั้ง (รวมครั้งล่าสุดที่ฝรั่งเศสด้วย)

 

ปราการหลังชาวสวีดิชโด่งดังสุดขีดตอนค้าแข้งกับทีมโวล์ฟบวร์ก ในบุนเดสลีก้าหญิง พร้อมพาทีมหมาป่าคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 3 สมัย และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 สมัย โดยในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ฟิชเชอร์ ก็ไม่ต่างจาก มาร์ต้า สตาร์ดังทีมชาติบราซิล ที่น่าจะได้โชว์ฝีเท้าบนฟลอ์หญ้าในรายการนี้เป็นปีสุดท้าย แต่อย่างน้อยเธอก็หวังว่าจะได้มีโอกาสรับใช้ชาติต่อไปในโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นปีหน้า   

 

 

สเตฟ ฮิวจ์ตัน (อังกฤษ)

 

 

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว แข้งสิงโตสาวสามารถทะลุขึ้นมาคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลกได้อย่างไม่มีใครคาดคิด ณ ประเทศแคนาดา ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณฟอร์มการเล่นของกัปตันทีมคนเก่งอย่าง สเตฟ ฮิวจ์ตัน ที่เล่นเกมรับได้อย่างเหนื่ยวแน่น และ แข็งแกร่ง จนก้าวขึ้นไปเป็นกองหลังหลังอันดับต้นๆในวงการฟุตบอลหญิงของยุโรปได้

 

ปัจจุบันทีมชาติอังกฤษในยุคของ ฟิล เนวิลล์ อดีตนักเตะชื่อดัง ตัวของแข้งสาววัย 31 ปี ก็ยังได้รับความไว้วางใจให้ส่วมปลอกแขนกัปตันทีมต่อไป หลังโชว์ฟอร์มเด่นกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในลีกผู้ดีหญิงและพาทีมเรือใบหญิงคว้าแชมป์ เอฟเอ วูเม่น คัพ ในฤดูกาลล่าสุดมาครองอีกด้วย

 

 

คริสติน ซินแคลร์ (แคนาดา)

 

 

กัปตันคนเก่งอย่าง คริสติน ซินแคลร์ อยู่รับใช้ทีมชาติแคนาดามานานเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว ไม่แปลกใจหากเธอจะถือครองสถิติต่างๆมาอย่างยาวนาน ทั้งติดทีมชาติแคนาดามากที่สุด (280 นัด), ยิงประตูมากที่สุดในทีมชาติ (181 ประตู)  และเคยลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกมาแล้วถึง 4 ครั้ง

 

ในครั้งล่าสุดที่ฝรั่งเศสนี้ กองหน้าสโมสรพอร์ทแลนด์ ธอร์นส มีโอกาสทำลายสถิติยิงประตูมากที่สุดในโลกของ แอบบี้ วอมแบช อดีตกองหน้าเบอร์หนึ่งของอเมริกา ที่ไว้ 184 ประตูตลอดการลงเล่นให้ทีมชาติ เพราะฉะนั้นแค่ 3 ประตูในทัวร์นาเม้นต์ คงไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าฝีเท้าของซินแคลร์จะทำได้อย่างแน่นอน

 

 

วิเวียนเน่ มีเดม่า (ฮอลแลนด์)

 

 

ถ้าจะถามว่า วิเวียนเน่ มีเดม่า ยอดเยี่ยมแค่ไหนหากเทียบกองหน้าระดับโลกในปัจจุบัน? เธอเหลือแค่ 3 ประตูก็จะทำสถิติดาวยิงสุดในทัพออรันเย่หญิงที่ 60 ประตู ด้วยเพียง 22 ปีเท่านั้น! แค่นี้ก็น่าจะทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลซัลโวประจำทัวร์นาเม้นต์ด้วย ซึ่งพร้อมจะพาทีมชาติฮอลแลนด์ต่อยอดความสำเร็จ หลังความแชมป์ยูโรมาในปี 2017

 

หัวหอกหญิงชาวดัชต์เก่งกาจมาตั้งแต่เป็นดาวรุ่งอยู่ในบ้านเกิดกับ ฮีเรนวีนแล้ว ก่อนฝีเท้าจะไปเข้าตา บาเยิร์น มิวนิคในปี 2014 พร้อมพาทีมเสือใต้คว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัย จากนั้นจึงย้ายมาอยู่กับอาร์เซน่อลในปี 2017 และระเบิดฟอร์มเก่งในฤดูกาลล่าสุดจนคว้าดาวซัลโวลีกผู้ดี พ่วงด้วยรางวัล PFA มาครองหลังพาทีมปืนใหญ่หญิงคว้าแชมป์เอฟเอ วูเม่น ซุปเปอร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ  7 ปี

 

 

สุชาวดี นิลธำรงค์ (ไทย) 

 

 

ในทัพชบาแก้วชุดนี้มีผู้เล่นส่วนใหญ่ที่แฟนบอลชาวไทยคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น สุนิสา สร้างไธสง, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, ดวงนภา ศรีตะลา หรือ กาญจนา สังข์เงิน แต่มีนักเตะหน้าใหม่อีกคนที่น่าจับมองที่สุดในตอนนี้ นั่นก็คือ “มิรันดา สุชาวดี นิลธำรงค์” ศูนย์หน้าดาวดัง ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน นั่นเอง

 

แข้งสาววัย 22 ปี มีรูปร่างสูงใหญ่กว่า 175 เซนติเมตร ซึ่งเป็นส่วนสูงที่แข้งสาวไทยไม่ค่อยมีให้เห็นนัก ทำให้ทัพชบาแก้วจะมีกองหน้าที่สามารถเบียดปะทะกับคู่ต่อสู้ และเล่นลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี  ซึ่งมิรันด้าเองยังมีทักษะอื่นๆที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการครองบอล และบังบอล แถมยังเล่นได้ทั้งเล่นได้ทั้งกลางรับ, กลางรุก และกองหน้า อีกด้วย น่าจะทำให้ทีมชาติไทยแข็งแกร่งกว่าฟุตบอลโลกที่แคนาดาแน่นอน  

 

 

อเล็กซ์ มอร์แกน (สหรัฐอเมริกา)

 

 

อาการบาดเจ็บทำให้เธอไปไม่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมไปถึงในฟุตบอลโลกปี 2015 ด้วย แต่เมื่อไหร่ที่ อเล็กซ์ มอร์แกน กลับมาฟิตเต็มร้อยอีกครั้ง เธอก็ ยังเป็นกองหน้าที่รวดเร็วหาตัวจับยาก พร้อมหาช่องว่างได้เก่งที่สุดคนนึงด้วย

 

แต่ว่าตัวแข้งสาววัย 30 ปี เป็นมากกว่ากองหน้าสูตรสำเร็จทั่วไปในกรอบเขตโทษ เนื่องจากเธอสามารถยืนถ่างออกมาตำแหน่งปีกหรือตัวริมเส้นได้อย่างไม่เขอะเขิน บวกกับความเร็วที่กล่าวไปข้างต้นจะทำให้อเมริกามีความหลากหลายในการเจาะแนวรับของคู่แข่งได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

 

 

อิวาบุจิ มานะ (ญี่ปุ่น)

 

 

แม้ตัวของเธอจะเล็กมากๆ เมื่อเทียบกับนักเตะหญิงทั่วไปในโลกนี้ แต่ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ อิวาบุจิ มานะ ยอดเยี่ยมน้อยลงไปเลย ด้วยสไตล์การลากเลื้อยที่คล่องแคล่วและการพาบอลที่รวดเร็ว ทำให้หลายคนมองว่า ลีลาฝีเท้าของอิวาบุจิ แอบมีส่วนคล้ายกับลีลาของลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะบาร์เซโลน่าอยู่ไม่น้อยเลย

 

น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บทำให้เธอไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้ในทีมบาเยิร์น มิวนิค เมื่อปี 2014-2017 จนต้องย้ายกลับมาเรียกความั่นใจอีกครั้งกับ ไอนัค โกเบ เลโอเนสซ่า สโมสรในบ้านเกิดจนถึงปัจจุบัน

 

แข้งสาววัย 26 ปีเป็นนักเตะที่ติดทัพนาเดชิโกะมาตั้งแต่ปี 2010 และอยู่ในชุดแชมป์โลกปี 2011 ด้วย โดยล่าสุดกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้ง พาทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์เอเชียในปีที่ผ่านมา พร้อมกับคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในทัวร์นาเม้นต์นั้นมาครองด้วย และในฟุตบอลครั้งนี้ อิวาบุจิ น่าจะเป็นแข้งสาวทแดนซามูไรที่โดดเด่นไม่แพ้เพื่อนร่วมทีมเด่นๆอย่าง คูมะไก ซากิ, ซาคากูจิ มิซูโอะ หรือ ซูกาซาวะ ยูอิกะ เลยล่ะ