ศึกพรีเมียร์ลีกของอังกฤษนอกจากบรรดาทีมที่ต่อสู้ลุ้นแชมป์และลุ้นไปเตะฟุตบอลยุโรปกันอย่างดุเดือดในกลุ่มท็อป 6 แล้ว ครึ่งล่างของตารางก็สนุกไม่แพ้กัน กับการชิงชัยเพื่ออยู่รอดต่อการหนีตกชั้นบนลีกสูงสุด เพราะถ้าใครล่วงลงไปอยู่ลีกรองแล้วละก็ มันจะเป็นการเสียหายหลายแสนเลยทีเดียวในเรื่องของรายได้ที่เข้าสู่สโมสร เมื่อเปรียบเทียบกับทีมที่ได้ไปต่อ ส่วนทีมใดและสโมสรไหนจะโดนคาดการณ์ว่าต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนอย่างหนักเพื่อการอยู่รอด งานนี้ทีมงาน Ufa Arena.com ได้จัด 5 อันดับทีมที่ต้องหนีตายมาให้ติดตามกันว่ามีค่ายไหนกันบ้าง
1.นอริช ซิตี้
เมื่อซีซั่นก่อนนอริช ซิตี้ คือทีมที่คว้าอันดับ 1 ของศึกเดอะแชมเปี้ยนชิพ และได้โควต้าเลื่อนชั้นมายังบนลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ โดยพวกเขาได้ตั๋วใบนี้ตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาลกาลด้วยซ้ำ
แม้จะเป็นพกดีกรีคว้าแชมป์เดอะแชมเปี้ยนชิพและเป็นทีมแรกที่ได้เลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่พวกเขาก็เป็นตัวเต็งลำดับต้นๆเลยทีเดียวที่ถูกคาดหมายว่าจะล่วงกลับไปอยู่ในลีกเดิมของตัวเอง
เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน มีการเสริมทัพที่น่าสนใจก็คือ พวกเขาไปคว้าตัวดาวยิงจากศึกบุนเดสลีกาในเยอรมันอย่างโจซิป เดอร์มิช กองหน้าจากโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัคมาเติมคมเพื่อความอยู่รอด ซึ่งดาวยิงชาวสวิสเซอร์แลนด์จะช่วยทีมได้มากน้อยแค่ไหนนั้นงานนี้ก็คงต้องติดตามให้กำลังใจกันต่อไปสำหรับแฟนบอลของนอริช
2.นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
สาลิกาดงมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในช่วงซัมเมอร์นี้เมื่อราฟาเอล เบนิเตชกุนซือคนเก่าที่ดันต้องมาแยกทางกับสาลิกาดงไปแบบน่าเสียดาย ทั้งที่เขาเป็นคนทุ่มเททุกอย่างให้กับสโมสรแห่งนี้มาก แถมยังพาทีมโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดเป็นปีที่สองติดต่อกันหลังจากเลื่อนชั้นมาจากเดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพเมื่อสองปีก่อน
ส่วนคนที่เข้ามาแทนที่นายใหญ่ชาวสเปนนั่นก็คือ สตีฟ บรูซ โค้ชมากประสบการณ์ที่ผ่านการคุมทีมระดับกลางและเล็กๆมานับไม่ถ้วนทั้ง ฮันเดอร์สฟิลด์ทาวน์, วีแกนแอธเลติก, คริสตัล พาเลซ, เบอร์มิงแฮมซิตี, ซันเดอร์แลนด์, ฮัลล์ซิตี้ .แอสตันวิลล่า,เชฟฟิลด์เวนส์เดย์
ในส่วนของตัวผู้เล่นนั้นพวกเขาเสียอโยเซ่ เปเรซไปให้กับเลสเตอร์ซิตี้แต่ก็ได้โจลิงตัน กองหน้าชาวบราซิลเลี่ยนมาจากฮอฟเฟนไฮม์ แถมล่าสุดยังไปคว้า อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง ของนีซและยืมเจโทร วิลเลมส์ แบ็คซ้ายสัญชาติดัตช์ จากสโมสรไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต
บรูซนั้นเคยพาฮัลล์ ซิตี้เข้าชิงถ้วยเอฟเอคัพกับอาร์เซน่อลเมื่อปี 2014 แต่ก็แพ้ไปในที่สุดทั้งยิงนำไปก่อนถึง 2 ลูก แต่สำหรับงานใหม่นี้นี่คือบททดสอบครั้งสำคัญของเขาเลยทีเดียวว่าจะพานิวคาสเซิลบินไปไกลแค่ไหนหรือว่าจะตกฮวบลงมายิ่งกว่าเก่า เพราะดูแล้วแฟนบอลทูนอาร์มี่ต่างร้องยี้กันเป็นแถวและทำใจล่วงหน้าไว้เลยว่าทีมไม่น่ารอดจากการตกชั้น ถ้าบรูซยังคุมทีมอยู่
3.เซาแธมป์ตัน
ฤดูกาลที่แล้วในช่วงต้นซีซั่นถึงช่วงกลางฤดูกาลพวกเขากระท่อนกระแท่นมากกับการคุมทัพของ มาร์ค ฮิวจ์ส และจมดิ้งอยู่ก้นตารางจนในที่สุดแล้วสโมสรก็ต้องแยกทางกับโค้ชชาวเวลส์รายนี้ และแต่งตั้ง ราล์ฟ ฮาเซน ฮัทเทิล เข้ามาสานงานต่อจนกระเสือกกระสนและจบอันดับ 16 แบบเฉียด
ส่วนในช่วงหน้าร้อนนี้ ทีมของกุนซือชาวออสเตรียเงียบเชียบเป็นป่าช้าเลยทีเดียวกับการเสริมทัพในตลาดซื้อขายของนักบุญ เมื่อพวกเขาไม่ได้นักเตะระดับมีชื่อเสียงเข้าร่วมทีมเลยสักรายในช่วงปิดซีซั่นนี้
ดูจากสภาพการแล้ว ปีนี้คงหมดเวลาของนักบุญแดนใต้แล้วที่จะโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุด เพราะสโมสรดูไม่มีความกระตือรือร้นกับการอยู่รอดเลย มิหน่ำซ้ำอาจจะเสียผู้เล่นตัวหลักไปด้วยเพราะมีข่าวว่า มาริโอ ลามิน่ากองกลางคนสำคัญตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรทั่วยุโรปในขณะนี้
4.เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
นับเป็นการรอคอยถึง 12 ปีเลยทีเดียวกว่าแฟนบอลของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จะเห็นทีมรักเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาอยู่บนลีกสูงสุดอีกครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขาไต่เต้าเขยิบมาเล่นบนพรีเมียร์ลีกต้องย้อนกลับไปปี 2006 โน้นเลยและจากนั้นในปีต่อมาเจ้าดาบคู่ก็ล่วงลงไปเล่นลีกรองอีกรอบ จนกระทั่งเมื่อฤดูกาลที่แล้วพวกเขาเข้าป้ายเป็นอันดับสองและได้โควต้าเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติ
ซึ่งบททดสอบในคราวนี้นั้นใหญ่หลวงนักที่พวกเขาจะต้องเจอเพราะทุกทีมล้วนมีคุณภาพด้วยกันทั้งนั้นในหมู่ทีมที่คาดว่าจะหนีตายในฤดูกาลนี้ ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดบวกกับเพิ่งกลับขึ้นชั้นมาในช่วงเกือบ 1 ทศวรรษ คาดว่ามันจะเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อนแน่นอนกับสไตล์บอลบนลีกสูงสุดที่นับวันมาตรฐานยิ่งสูงขึ้นทุกๆปี
ในส่วนของตัวผู้เล่นของพวกเขานั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากจากปีก่อนที่ช่วยพากันลุ้นชั้นขึ้นมา จะมีก็แค่ไปเอาราเวล มอริสัน อดีตเด็กฝึกหัดของแมนฯยูไนเต็ดมาแบบฟรีๆหลังนักเตะไร้สังกัดอยู่ ดูแล้วถ้าไม่เสริมแกร่งมากกว่านี้คงรอดยากแน่นอนสำหรับทีมจากเมืองเชฟฟิลด์
5.ไบร์ทตัน
ถ้าให้เอ่ยสักหนึ่งสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก ที่ทุกคนอาจจะไม่ค่อยได้ติดตามมากนักและมีแฟนฟุตบอลแค่เพียงเศษเล็กๆ หรืออาจจะลืมไปแล้วว่าพวกเขายังเป็น 1 ใน 20 สโมสรที่อยู่บนพรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ ซึ่งทีมนั้นก็คือไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน นั่นเอง
ฤดูกาลแล้วพวกเขาจบอันดับ 16 ของตาราง โดยได้คะแนนไป 36 แต้มเฉือนหน้าคาร์ดิฟฟ์ทีมอันดับ 17 ที่เป็นลำดับสุดท้ายที่จะล่วงลงไปอยู่ในเดอะแชมเปี้ยนชิพอยู่แค่สองคะแนนเท่านั้น เรียกได้ว่าลุ้นจนหยดสุดท้ายแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว
ในส่วนของตัวผู้เล่นและขุมกำลังในซีซั่นนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย ยังคงอิงผู้เล่นชุดเดิมเป็นหลักและหากจะต้องลุ้นหนีตกชั้นอีกพวกเขาต้องพึ่งพาผู้เล่นคนสำคัญตัวเก่าๆอย่าง ลูวิส ดังส์,พาสคาล โกรสส์ รวมทั้งเกลนน์ เมอร์เรย์ดาวซัลโวประจำทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ซัดในลีกไป 10 ลูกและมีผลไม่น้อยกับการที่ทำให้พวกเขาได้ลงเล่นบนลีกสูงสุดต่อไปในซีซั่นนี้ดูท่าแล้วน่าจะเป็นอีกฤดูกาลที่หนักอึ้งของคริส ฮิวตันกุนซือของทีมอีกเช่นเคยกับการพาทีมเพื่ออยู่รอดต่อไปในซีซั่นนี้
