หัวหน้าเปาลีกสูงสุดแดนผู้ดียอมรับว่า VAR ปรากฏข้อผิดพลาดใหญ่ไป 4 ครั้งใน 4 เกมแรกของพรีเมียร์ลีก
ไมค์ ไรลี่ย์ หัวหน้าผู้ตัดสินของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า VAR ปรากฏข้อผิดพลาดถึง 4 ครั้ง และควรได้รับการแก้ไขคำตัดสิน
ลีกลูกหนังยอดนิยมเบอร์หนึ่งของโลกได้นำ VAR หรือ การใช้วีดีโอช่วยตัดสิน เข้ามาใช้ในการแข่งขันเป็นครั้งแรก ซึ่งมีอยู่หลายครั้งที่ระบบช่วยตัดสินนี้ถูกแฟนบอลด้วยโจมตีด้วยข้อหาสารพัด โดยหลักมักจะบอกกว่า VAR พลาดช็อตสำคัญที่ควรเรียกใช้
ซึ่งทาง ไมค์ ไรลี่ย์หัวหน้าเปาพรีเมียร์ลีกก็ออกมารับว่า VAR พลาดไปจริงๆถึง 4 จังหวะ ซึ่งควรได้รับการเปลี่ยนคำตัดสินในตอนนั้น โดย 4 จังหวะนั้นประกอบไปด้วย
1) ปล่อยให้ ฟาเบียน ชาร์ ยิงประตูให้ นิวคาสเซิ่ล ตามตีเสมอ วัตฟอร์ด 1-1 ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีจังหว
2) ยูริ ตีเลมันส์ กองกลางเลสเตอร์ ซิตี้ รอดพ้นใบแดง หลังจากย่ำใส่ คัลลั่ม วิลสัน กองหน้าบอร์นมัธ
3) ไม่เป่าจุดโทษให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจาก เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา ปีกบอร์นมัธ เหยียบเท้า ดาบิด ซิลบา ในกรอบเขตโทษ
4) ไม่เป่าจุดโทษให้กับ เวสต์แฮม หลังจาก เซบาสเตียน ฮัลแลร์ ถูก ทอม ทรายบูลล์ แข้งบอร์มัธ ดึงล้มในกรอบ 18 หลา
Note Mike Riley doesn't feel any VAR intervention missed on a few other high-profile calls, including:
– Lamela's foul on Rodri in Man City v Spurs
– Kane's penalty appeal vs. Newcastle
– Cahill red card v Man United*VAR couldn't award Villa a goal vs. Palace as play stopped
— Dale Johnson (@DaleJohnsonESPN) September 12, 2019
อย่างไรก็ตาม เหล่าแฟนบอลจากโลกออนไลน์ก็ทักท้วงว่าช็อตที่ VAR พลาดไปไม่ได้มีแค่นั้น เพราะยังมีทั้งช็อตที่ เอริค ลาเมล่า ทำฟาวล์ใส่ โรดรี้ แข้งแมนซิตี้, จุดโทษของแฮร์รี่ เคน ในเกมที่พบนิวคาสเซิล หรือ ใบแดงที่แกรี่ เคฮิลล์ ควรได้ในเกมที่คริสตัล พาเลซ เอาชนะแมนยูไนเต็ดไป 2-1
