ต้องใช้เวลา! 6 สาเหตุเมสซี่ยังหาฟอร์มเก่งบนลีกชาวนาไม่ได้

เมสซี่

สุดยอดแข้งชาวอาร์เจนตินา เพิ่งตัดสินใจย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาอยู่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แบบไม่มีค่าตัวเมื่อช่วงซัมเมอร์ ซึ่งถือเป็นดีลที่ช็อควงการลูกหนังโลกไม่น้อยทีเดียว

การมาของ ลิโอเนล เมสซี่ ถูกตั้งความคาดหวังจากแฟนบอลเมืองหลวงฝรั่งเศส ว่าเขาจะนำความสำเร็จมากสู่สโมสรแบบที่เคยทำได้กับ บาร์เซโลน่า และเป้าหมายสูงสุดคือการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

อย่างไรก็ตามสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม หลังผลงานช่วงออกสตาร์ทซีซั่น 2021/2022 กับต้นสังกัดใหม่ของ เมสซี่ ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งได้ และลงเล่นไปแค่เพียง 8 นัด จาก 16 นัดแรกของฤดูกาล ยิง 3 ประตู นับเป็นฟอร์มที่น่าผิดหวังไม่น้อยสำหรับนักเตะที่ถูกยกย่องว่าดีที่สุดของโลก ณ เวลานี้

วันนี้ UFAARENA จึงจะขอไปดูกันว่า 6 สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ ยังไม่สามารถทำผลงานที่ดีบน ลีก เอิง ฝรั่งเศส มันคืออะไรกันแน่นอน และดาวเตะเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 6 สมัย จะผ่านมันไม่ได้หรือไม่

 

ยังไม่เข้ากับเพื่อนร่วมทีม

เป็นเรื่องธรรมดาของนักเตะทุกคนที่ตัดสินใจย้ายทีมและต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งหลายคนสามารถปรับตัวได้ และไม่น้อยเช่นกันที่ปรับตัวไม่ได้ แม้ถูกยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลก ณ เวลานี้ ทว่า ลิโอเนล เมสซี่ เองก็ต้องปรับตัวไม่น้อยเช่นกัน กับการมาเล่นให้กับยอดทีมแห่งกรุงปารีส

ถึงแม้จะมีเพื่อนร่วมทีมเก่าอย่าง เนย์มาร์ และ อังเดร ดิมาเรีย ซึ่งลงเล่นร่วมกันในนามทีมชาติอาร์เจนติน่า ทว่า เมสซี่ ยังเหลือเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคนที่รอให้เขาทำความเข้าใจและปรับจูนการเล่นให้ตรงกัน

นอกจากนั้นหากย้อนกลับไปสมัยอยู่กับ บาร์เซโลน่า แข้งเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 6 สมัย ถือเป็นศูนย์กลางของทีมภายใต้รูปแบบการเล่นซึ่งเขาคุ้นเคยมานานกว่า 2 ทศวรรษ ทว่าการมาอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แม้ถูกยกย่องให้เป็นนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวยังไม่ถือเป็นศูนย์กลางของทีมแบบที่เป็นกับ “ต่างดาว” มาตลอด เพราะผู้เล่นอื่นรอบตัวเขาไม่ว่าจะเป็น เนย์มาร์, คีเลียน เอ็มบัปเป้ รวมถึง อังเคล ดิ มาเรีย นับว่าเป็นผู้เล่นระดับท็อปคลาสเช่นกัน

อย่างไรก็ตามหากเขาสามารถปรับตัวเข้ากลับเพื่อนร่วมทีมได้เมื่อไร มั่นใจได้เลยว่า เมสซี่ จะคืนฟอร์มเก่งของตัวเองแน่นอน โดยเฉพาะการเล่นร่วมกับสองแนวรุกที่ดีที่สุดของโลก อย่าง เนย์มาร์ และ เอ็มบัปเป้ หากทั้งสามคนจูนกันติดคงน่ากลัวไม่แพ้ตำนานสามประสาน MSN เนย์มาร์, ซัวเรซ และ เมสซี่ ที่เคยช่วยกันพา บาร์เซโลน่า ครองความยิ่งใหญ่เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว

 

แรงกดดันหลังแยกทาง บาร์เซโลน่า

ถือเป็นอีกประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่น้อยเช่นกัน กับแรงกดดันของแข้งวัย 34 ปี สำหรับการย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาค้าแข้งบนลีกสูงสุดเมืองน้ำหอม ท่ามกลางการจับตามองของแฟนบอล, คนวงการลูกหนัง และสื่อมวลชนทั่วโลก ซึ่งนี่อาจมีส่วนที่คอยตามกวนใจเขาอยู่ตอนนี้ และเป็นผลทำให้ไม่สามารถเรียกฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองออกมาได้

ต้องยอมรับว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลิโอเนล เมสซี่ ถูกตั้งคำถามถึงเรื่องความสำเร็จ ว่าแท้จริงแล้วเขาคือสุดยอดนักเตะจริงหรือไม่ เนื่องจากนับตั้งแต่ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ “ต่างดาว” เมื่อปี 2004 เจ้าตัวลงเล่นท่ามกลางเพื่อนร่วมทีมฝีเท้าระดับโลกมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น โรนัลดินโญ่, เดโก้, ชาบี เอร์นานเดซ และ อังเดรส อิเนียสต้า ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยสนับสนุนความสำเร็จของดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ มาตลอด

เพราะฉะนั้นนี่อาจเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันของแข้งเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาล “อาซูลกราน่า” สำหรับการพิสูจน์ฝีเท้ากับการลงเล่นให้สโมสรอื่นที่ไม่ใช่ บาร์เซโลน่า พร้อมกับความคาดหวังจากแฟนบอล ที่ต้องการเห็นเจ้าตัวทำผลงานที่ดีที่สุด และพาสโมสรคว้าแชมป์เหมือนที่เคยทำได้มาตลอด สำคัญสุดคือถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป้าหมายอันดับ 1 ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เวลานี้

นอกจากนั้นนี่ยังเป็นการก้าวออกจากเซฟโซนตามรอยคู่ปรับสำคัญอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งตัดสินใจแยกทาง เรอัล มาดริด มาเล่นกับ ยูเวนตุส เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จสุดๆ ก่อนย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือสิ่งเดียวที่ เมสซี่ ยังดูเป็นรองสุดยอดนักเตะชาวโปรตุเกส แบบชัดเจนที่สุด

 

อายุที่มากขึ้น

แม้เคยสร้างความยิ่งใหญ่ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาบนโลกลูกหนัง ทุบสถิติมาแล้วมากมาย ทว่าหนึ่งสิ่งที่ เมสซี่ รวมถึงนักเตะอีกหลายคนไม่สามารถเอาชนะได้ คือเรื่องของอายุที่มากขึ้นทุกปี และต้องยอมรับว่าสำหรับแข้งเบอร์ 30 เปแอสเช นี่อาจเป็นช่วงสุดท้ายสำหรับเส้นทางอาชีพการเล่นฟุตบอลของเขาเองในวัย 34 ปี

ต้องยอมรับสไตล์การเล่นของ ลิโอเนล เมสซี่ เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเริ่มขยับตัวน้อยลงและเล่นแบบเน้นสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนด้วยการจ่ายหรือเปิดเยอะขึ้น ไม่ใช่รูปแบบเลี้ยงบอลแหวกแนวรับคู่ต่อสู้เหมือนสมัยยังเป็นดาวรุ่งหรือช่วงพีคสุดในการค้าแข้ง

แม้เจ้าตัวตัดสินใจย้ายจาก ลาลีกา สเปน มาเล่น ลีก เอิง ฝรั่งเศส ซึ่งชื่อชั้นดูเป็นรองพอสมควร แต่เอาเข้าจริงความเข้มข้นในการแข่งขันไม่ลดน้อยลงจากเดิมเท่าไรนัก และด้วยอายุที่เลยเลขสามมาแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่แฟนบอลปารีส จะได้เห็นความสุดยอดของ เมสซี่ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ บาร์เซโลน่า อย่างในอดีต

 

ร่างกายยังไม่สมบูรณ์

นับเป็นเรื่องที่น่าจะมีผลพอสมควรต่อฟอร์มการเล่นของแข้งป้ายแดง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง นั่นคือสภาพร่างกายของเจ้าตัว ซึ่งดูยังไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ หลังกำศึกหนักตลอดซีซั่น 2020/2021 รวมถึงเพิ่งมีอาการเจ็บบริเวณหัวเข่าเมื่อช่วงต้นฤดูกาล

ย้อนกลับซีซั่นที่แล้ว ลิโอเนล เมสซี่ ลงสนามไปทั้งหมด 47 เกมรวมทุกรายการ กับ “ต่างดาว” แถมยังต้องลงเล่นนามทีมชาติอาร์เจนตินา ในศึก โคปา อเมริกา 2021 ช่วงซัมเมอร์ 7 นัด ก่อนพา “ฟ้าขาว” คว้าแชมป์รายดังกล่างได้สำเร็จ และมันส่งผลกระทบไม่น้อยเกี่ยวกับสภาพร่างกายของแข้งวัย 34 ปี ที่ลงเล่นไปแค่ 8 นัด จากทั้งหมด 16 เกมแรก และลงสนามครบ 90 นาที เพียง 5 นัด เท่านั้น

ด้วยสภาพร่างกายที่ยังไม่สมบูรณ์ส่งผลให้ เมสซี่ ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองได้ อย่างไรก็ตามหากเจ้าตัวฟิตเต็มที่เมื่อใด และลงสนามแบบต่อเนื่อง มั่นใจได้เลยว่าเขาจะกลับมาทำผลงานที่ดีอีกครั้งแน่นอน

 

ไม่คุ้นเคยกับบอลฝรั่งเศส

แม้เคยอยู่กับสโมสรระดับโลกอย่าง บาร์เซโลน่า ลงเล่น ลาลีกา สเปน หนึ่งในลีกที่ดีที่สุดของยุโรป และเผชิญหน้ากับผู้เล่นระดับท็อปมาแล้วมากมาย ทว่าการย้ายมาเล่น ลีก เอิง ฝรั่งเศส ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ยังคงต้องเรียนรู้และปรับตัวไม่ต่างจากนักเตะคนอื่น

ถึงจะเป็นลีกที่มาตรฐานต่างจากที่สเปน พอสมควร ทว่าสำหรับนักเตะเบอร์ 1 ของโลก เขาจำเป็นต้องเรียนรู้จังหวะการเล่น, ฟุตบอลสไตล์ที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงคู่แข่งหน้าใหม่ทั้งหมด ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องยากไม่น้อยสำหรับ เมสซี่ ที่เพิ่งลงสนามแบบเต็มเกม 90 นาที แค่เพียง 5 นัด เท่านั้น

ฉะนั้นแล้วอาจต้องให้เวลา เมสซี่ พอสมควรในการทำความเข้าใจกับสไตล์บอลลีกชาวนา หากสามารถปรับตัวได้เมื่อไร เขาจะกลับมาระเบิดฟอร์มเก่งอีกครั้ง และเดินหน้าถล่มประตูคู่แข่งแบบกระจุยกระจายแน่นอน

 

เปแอสเช มีปัญหาในทีม

นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ส่งผลต่อผลงานของ เมสซี่ รวมถึงเพื่อนร่วมทีมรายอื่นไม่น้อย สำหรับความวุ่นวายและปัญหามากมายที่กำลังเกิดขึ้นในถิ่น ปาร์ค เดอ แปรงซ์ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับอนาคตของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะจบลงเช่นไร และดูเหมือนจะรบการสมาธิผลงานยามลงสนามของเจ้าตัวพอสมควร

ขณะที่ทางฝั่ง เนย์มาร์ ผลงานของเขาดรอปลงอย่างน่าใจหาย ตลอดช่วงออกสตาร์ทซีซั่นนี้ ย้อนกลับไปในเกมที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาบ้าน 2-1 ดาวเตะชาวบราซิล ถูกสื่อฝรั่งเศส ตัดเกรด 3 เต็ม 10 หลังโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังสุดๆ

ยังไม่นับเรื่องราวระหว่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ดูจะมีปัญหากับ ลิโอเนล เมสซี่ เล็กน้อย หลังกุนซือรายดังกล่าวตัดสินใจเปลี่ยนแข้งชาติเดียวกัน ออกจากสนามช่วงครึ่งหลัง ในเกมชนะ โอลิมปิก ลียง 2-1 เมื่อเดือนกันยายน จะเกิดเป็นประเด็นใหญ่โตหลังจบเกม

จากกล่าวมาทั้งหมด ล้วนส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของนักเตะแต่คนไม่น้อย ต้องรอดูกันต่อไปว่าปัญหาของสโมสรจะจบลงเช่นไร และหากทุกอย่างจบลงด้วยดี เมื่อนั่น เปแอสเช รวมถึง เมสซี่ น่าจะกลับมาทำผลงานที่ดีอีกครั้งแน่นอน

 

เจ็บปวด! เมสซี่เผยบาร์ซ่าไม่เคยขอให้เล่นฟรี

เมสซี่