ต้อนรับวันเด็ก : ชีวิตวัยเด็กของ 12 แข้งดังที่คุณอาจไม่รู้

 

มนุษย์บนโลกใบนี้ย่อมมีชีวิตในวัยเด็กที่แตกต่างกัน ซึ่งหลายคนอาจจะมีทั้งดีและแย่ปะปนกันไป และไม่ผิดนักหากจะบอกว่าความลำบากในวัยเด็กถือเป็นแรงผลักดันให้ประสบผลสำเร็จในชีวิตได้

 

นักเตะชื่อดังเหล่านี้ก็เช่นกัน กว่าพวกเขาจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และชีวิตวัยเด็กของพวกเขาก็ไม่ได้สุขสบายนัก แต่พวกเขาก็ผ่านอุปสรรคเหล่านั้นและมีชีวิตที่ดีได้อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

 

เพื่อให้เข้ากับช่วงวันเด็กของบ้านเรา ทาง UFA ARENA จะพาไปดูเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กของแข้งดังทั่วโลกที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน แต่ซึ่งจะมีใครบ้างนั้นลองเข้าไปอ่านกันเลย

 

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

 

ซีอาร์7 เป็นลูกคนเล็กของครอบครัวในบรรดาพี่น้องสามคน ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะมาเดรา ในอดีต มาเรีย โดโลเรส อเวยรู แม่ของเขา เคยคิดจะทำแท้งเขามาก่อนเนื่องจากฐานะทางครอบครัวนั้นยากจนมาก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมีเขาต่อไป

 

 พอโรนัลโด้โตขึ้นที่บ้านก็ส่งเขาไปเรียนในแผ่นดินใหญ่ที่โปรตุเกส แต่การที่เขาต้องอยู่ห่างจากครอบครัวตั้งแต่เด็ก ไม่แปลกนักที่เขาจะนอนร้องไห้อยู่ในห้องทุกวัน ซ้ำร้ายยังโดนเพื่อนๆล้อเรื่องพูดสำเนียงเหน่อๆ จนทำให้โรนัลโด้เข้ากับใครแทบไม่ได้เลย

 

นอกจากนี้ ดาวเตะจอมสับยังมีพ่อที่ติดเหล้าอย่างรุนแรง และในช่วงที่เริ่มมีชื่อเสียงกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่อของเขาก็เสียชีวิตลงจากโรคโรคพิษสุราเรื้อรัง  แข้งแดนฝอยทองจึงสาบานกับตัวเองว่าจะไม่กินเหล้าเด็ดขาด

 

 

ลิโอเนล เมสซี่

 

 

สตาร์ร่างเล็กชาวอาร์เจนไตน์เติบโตในบ้านที่มีฐานะปานกลางค่อนไปทางยากจน เมสซี่เป็นเด็กที่เล่นบอลได้ยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เขาตัวเล็กกว่าเพื่อนในวัยเดียวกันมาก จึงโดนหวดลงนอนกลิ้งอยู่ที่พื้นสนามเป็นประจำ

 

 และที่แย่ไปกว่า เขาได้พบกว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตและส่งผลกับกระดูกในร่างกาย แน่นอนว่าครอบครัวของเขาไม่มีทางจ่ายเงินค่ารักษาได้อยู่แล้ว แต่โชคก็เข้าข้างเมสซี่หลังแมวมองบาร์โซโลน่าได้มาเห็นฟอร์มการเล่นของเขา เลยอาสาออกค่ารักษาให้ทั้งหมดแล้วพาเมสซี่และครอบคัวไปอยู่สเปนตั้งแต่อายุ 13 ปี และช่วยให้เขากลายเป็นนักเตะระดับโลกได้อย่างทุกวันนี้

 

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช 

 

 

ก่อนอิบราฮิโมวิชจะมีจิตใจที่เข้มแข้งอย่างปัจจุบัน เขาต้องเผชิญปัญหาการหย่าร้างของพ่อแม่จนต้องแยกทางกันในวัยเด็ก โดยเขาอยู่กับพ่อที่ติดเหล้าและมักโดนทุบตีประจำ เพราะที่บ้านไม่มีอะไรจะกินเลย  แต่เห็นแบบนี้ดาวยิงร่างโย่งชอบไปโรงเรียนมากๆในตอนเด็ก นั่นเป็นเพราะเขาจะได้เล่นกีฬาที่คลั่งไคล์อย่างฟุตบอลและมีอาหารให้กินนั่นเอง

 

วีรกรรมในวัยขาสั้นของเขาก็แสบไม่แพ้ตอนโต ทั้งโดนเอาค้อนไม้ตีหัวจนไม้หัก, ขโมยจักรยานเด็กเล่น นั่นเป็นเพราะไม่มีใครซื้อของเล่นให้เขา พอเติบโตและมีฐานะที่ดีขึ้นมาเขาจึงพยายามทำครอบครัวของเขาให้อบอุ่นที่สุดอย่างในตอนนี้

 

และตอนอิบราเล่นบอลเยาวชน ชื่อบนหลังคือ ‘ซลาตัน’ แต่เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิต เลยเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ‘อิบราฮิโมวิช’ เพื่อเป็นเกียรติแด่พ่อของเขา

 

 

ฟรองค์ ริเบรี่

 

 

ริเบรี่เป็นนักเตะที่สู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก แม้เขาเลงเล่นให้ทีมฟุตบอลระดับเยาวชน ก็ยังต้องแบ่งเวลาไปช่วยงานก่อสร้างที่พ่อของเขาทำงานอยู่ เนื่องจากครอบครัวของเขามีรายได้ไม่มากนัก 

 

เมื่อครั้งที่ริเบรี่อายุได้ 2 ขวบ ก็โชคร้ายประสบอุบัติทางรถยนต์ เป็นเหตุทำให้หน้าของเขาเสียโฉม และต้องเย็บกว่า 100 เข็มจนเกิดรอยแผลเป็นบนหน้า แต่ตัวเขาก็ออกมาบอกว่า อุบัติเหตุครั้งนั้นกระตุ้นให้เขามีความมุ่งมั่นและช่วยให้เขามาอยู่ตรงจุดนี้ได้

 

เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค

 

 

ก่อนจะกลายเป็นกองหลังที่ยอดเยี่ยมแบบทุกวันนี้ เขาเคยเป็นนักเตะร่างเล็กและเคลื่อนที่ได้ช้าพอสมควรในตอนเด็กๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาไปได้ไม่รอดกับ วิลเล่ม ทเว สโมสรในบ้านเกิด ที่ดูแย่กว่านี้คือเมื่อปี 2010 เขาต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากฝีที่อันตรายในท้อง โชคดีที่การผ่าตัดนั้นเป็นไปได้ด้วยดี

 

นอกจากนี้ในช่วงวัยรุ่นของเขาเมื่อ 10 ปีก่อน นอกจากต้องตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมฟุตบอลแล้ว ปราการหลังแดนกังหันลมยังต้องรับงานเสริมเป็นเด็กล้างจานล้างหม้อในร้านอาหารแถวบ้านด้วย

 

 

คิเลี่ยน เอ็มบับเป้

 

 

เอ็มบับเป้เป็นนักเตะที่เกิดมาในครอบครัวนักกีฬาอย่างแท้จริง โดยที่พ่อของเขาเป็นโค้ชฟุตบอล และ แม่เป็นอดีตนักกีฬาแฮนด์บอล ซึ่งแข้งชาวฝรั่งเศสคลั่งไคล้เกมลูกหนังมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว บ้าจนพ่อของเขาบอกว่าลูกชายสามารถนั่งดูแมตช์การแข่งขันได้เป็น 4-5 เกมติดต่อกัน โดยไม่เบื่อเลย

 

แม้เขาจะเติบโตมาในย่านที่มีทั้งความรุนแรงและความวุ่นวาย ณ กรุงปารีส แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเส้นทางสายลูกหนังของ หัวหอกเลือดน้ำหอม เลย แถมยังแสดงให้เห็นความยอดเยี่ยมในฝีเท้าตั้งแต่อายุ 6 ขวบ คว้ารางวัลมามากมาย จนทำให้เพื่อนๆในวัยเดียวกันต่างอิจฉาความสำเร็จนั่นด้วย

 

 

แกเร็ธ เบล

 

 

ปีกจรวดรายนี้นับว่าโชคดีกว่าคนอื่นพอสมควร เพราะเบลเติบโตในครอบครัวฐานะปานกลางที่ส่งลูกเรียนในโรงเรียนกีฬาทั่วไป แต่เจ้าตัวก็ดันเล่นกีฬาเก่งทุกชนิด โดยเฉพาะกรีฑาและวิ่งที่ล้ำหน้าเกินเพื่อนๆในวัยเดียวกัน ครูพละของเบลเลยแนะนำให้ลองเล่นฟุตบอลแบบจริงจังดู

 

และทุกอย่างก็ดูจะไปได้สวย หลังฝีเท้าไปเข้าตาแมวมอง เลยลองไปฝึกกับอคาเดมี่ดูเล่นๆ แล้วก็กลับมาเรียนต่อ จากนั้นพออายุ 17 เขาตัดสินใจไปฝึกฝนอย่างจริงจังกับเซาแธมป์ตัน จนกลายเป็นนักเตะดาวรุ่งของทีม และค่อยๆมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆในเวลาต่อมา

 

 

เมซุต โอซิล

 

 

โอซิลเป็นลูกของครอบครัวตุรกีที่อพยพเข้ามาอยู่อาศัยในเยอรมัน ซึ่งเขาย้ายมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และในตอนเด็กเขาก็ไม่ได้รับการยอมรับมากเท่าไหร่เพราะเรื่องเชื้อชาติของเขา แต่ด้วยความสามารถท้างด้านลูกหนังก็ช่วยทำให้ผู้คนยอมรับในตัวเขามากขึ้น รวมไปถึงยกระดับฐานะของครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย

 

นอกจากฟุตบอลแล้ว แข้งปืนใหญ่รายนี้ยังมีความชื่นชอบในการเล่นหมากรุกตั้งแต่เด็ก รวมไปถึงวิชาคณิตศาสตร์ในห้องเรียนด้วย นี่จึงไม่น่าแปลกใจนักที่เขาจะนำความรู้ตรงนั้นมาปรับใช้ให้เข้ากับกีฬาฟุตบอลได้

 

 

มาร์โค รอยส์

 

 

รอยส์เป็นแฟนตัวยงและนักเตะในอเคเดมี่ของดอร์ทมุนมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยได้โอกาสลงเล่นซักที ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พ่อแม่ของเขาจะเครียดพอสมควร เพราะได้ทุ่มเทสนับสนุนลูกชายด้านฟุตบอลเต็มที่ตามแบบฉบับครอบครัวเยอรมันทั่วไป

 

สุดท้ายรอยส์จึงลองไปคัดตัวที่ เวส อาเลน ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลเล็กๆท้องถิ่นที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรนัก แม้ตอนแรกตัวเขาไม่อยากมาเท่าไหร่ แต่พอไปถึงที่นั่นก็พบว่าที่นี่คือศูนย์รวมแข้งเยาวชนที่เสือเหลืองไม่ต้องการ และที่นั่นได้ทำให้เขาได้พบเพื่อนซี้ที่ชื่อ เควิน โกรสครอยซ์ ด้วย

 

ทั้งคู่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นฟุตบอลด้วยกันอย่างเต็มที่จนไปเข้าตาแมวมอง แต่รอยส์ก็ยังรอคอยทีมที่เขารักมาเรียกตัวอยู่ต่อไป แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จึงตัดสินใจไปเล่นให้ โบรุสเซียมึนเช่น กลัดบัค แทน และความพยายามก็ไม่เคยทำร้ายคนที่ตั้งใจ หลังจากที่สร้างชื่อกับสิงห์หนุ่มได้ รอยส์ก็ได้กลับไปเล่นกับทีมในฝันของเขาเสียที

 

 

เนย์มาร์

 

 

จากเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่สุดแสนจะลำบาก ปัจจุบันเนย์มาร์กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก  แต่กว่าเขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย พ่อของเขาที่ยอมแพ้และล้มเหลวกับการค้าแข้งในบราซิล ต้องทำงานถึง 3 อาชีพเพื่อให้ครอบครัวพออยู่พอกิน จนไม่มีเวลาให้เขาเท่าไหร่นัก อีกทั้งพวกเขายังไม่มีแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านด้วยซ้ำ

 

แม้ไม่ได้มีบ้านหลังใหญ่โต แต่โชคดีที่ครอบครัวของเนย์มาร์ยังเต็มไปความอบอุ่นจากพ่อแม่ และน้องสาวของเขาทั้งสองคน ช่วยให้เขาอยู่มุ่งมั่นในเส้นทางสายลูกหนัง จนกลายเป็นแข้งเบอร์ต้นๆของโลกในตอนนี้

 

 

ลูก้า โมดริช

 

 

โมดริชได้รับผลกระทบจากไฟสงครามตั้งแต่วัยเด็ก หนักไปกว่านั้น คุณปู่ที่เขารักถูกฆาตกรรมไปต่อหน้าต่อตาตอนอายุแค่ 6 ขวบ ทำให้พ่อของเขาจำเป็นต้องเข้าร่วมกับกองทัพ ส่วนตัวเขาและครอบครัวที่เหลือก็ต้องอพยพลี้ภัยจากบ้านมาพักอาศัยในโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อรักษาชีวิตให้รอด

 

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าความโหดร้ายจากสงครามในวันนั้น ปลุกกระตุ้นความเป็นนักสู้ให้กับประชาชนชาวโครแอตทุกคน และหนึ่งในนั้นก็คือโมดริช โดยตัวเขาได้ใช้ฟุตบอลในการสร้างชีวิตใหม่ของตัวเองและครอบครัวขึ้นมาอีกครั้งหลังสงคราม จนในตอนนี้เขาได้กลายเป็นกองกลางระดับตำนานของวงการฟุตบอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

โอเล กุนนาร์ โซลชาร์

 

 

เพชรฆาตหน้าทารกเกิดมาในครอบครัวนักกีฬาที่แสนสุขในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งพ่อของเขาเป็นนักกีฬามวยปล้ำที่เป็นแชมป์ระดับประเทศถึง 5 ปีติดต่อกัน ซึ่งทำให้โอเล่สนใจในกีฬานี้เหมือนพ่อของเขา 

 

แต่ 3 ปีที่เล่นกีฬาชนิดนี้ เขามักจะถูกจับทุ่มลงกับพื้นเป็นประจำ เนื่องจากร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแรงอะไร แถมยังเป็นเด็กตัวเล็กซะอีก ทำให้พ่อแม่แนะนำว่าเขาควรเลิกเอาดีกับกีฬาชนิดนี้ดีกว่า ซึ่งเป็นอันสิ้นสุดครอบครัวมวยปล้ำตั้งแต่วันนั้น

 

อย่างไรก็ตาม โชลชาร์ก็ได้พบกับกีฬาชนิดใหม่ที่ทำให้เขาหลงใหลและสนใจเป็นที่สุด นั่นก็คือกีฬาฟุตบอล หลังจากที่เขาได้ดูรายการ ‘แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์’ ของบีบีซี ที่ฉายในบ้านเกิด ซึ่งในครั้งนี้ พ่อแม่ของเขาก็สนับสนุนลูกชายอย่างเต็มที่จนได้ดีอย่างทุกวันนี้ 

 

และที่สำคัญที่สุด แฟนปีศาจแดงอย่าตกใจล่ะว่าลิเวอร์พูลคือรักแรกของโซลชาร์ในเกมกีฬาลูกหนัง