ถอยหลังลงคลอง ?

ในฐานะสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” เชื่อเหลือเกินว่าพี่น้องเพื่อนฝูงที่มีใจรักใน “ปืน” กระบอกดียวกัน อารมณ์ตอนนี้มีแต่ความ “หดหู่” และ “ระเหี่ยวใจ”

 

จาก “บิวตี้ฟูลอาร์เซนอล” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความคลั่งไคล้ ฟุตบอลที่สวยงามสไตล์ อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่ต่างจาก “เวทย์มนต์” ที่ชักพาความรู้สึกแบบไม่รู้ตัว

 

แม้ช่วง “ช็อต” ที่ทีม “ปืนใหญ่” ไร้แชมป์ใดๆ นานอยู่ 9 ปี ก็ยังคงเชื่อมั่นมาตลอดว่าหากโลกของฟุตบอลมีกติกาเหมือนบาสเก็ตบอล “NBA”

 

มีการกำหนดเพดานค่าจ้างนักกีฬา ทุกสโมสรมีงบประมาณในระดับเดียวกัน กุนซือมาดระเมียดจากแดนน้ำหอมคือยอดกุนซือแห่งยุคอย่างไม่ต้องสงสัย

 

การเป็นหนี้จากการสร้างสนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม คือการทำ “หมัน” ความสำเร็จของสโมสร เพราะทำให้ทีมต้อง “ประหยัด” ในทุกๆ อย่าง แม้กระทั่งงบประมาณในการทำทีม

เวนเกอร์ ต้อง “กัดก้อนเกลือกิน” ทำทีมด้วยงบที่จำกัด หลายครั้งหลายคราต้องปาดน้ำตายอมเสียนักเตะกำลังสำคัญที่ผลัดหน้ากันออกแทบทุกปีแบบไม่เต็มใจ

 

แต่สุดท้ายโลกแห่งความจริงไม่เคยโกหกใคร เรื่องเงินอาจจะมีส่วนอยู่บ้าง แต่การกระเด็นตกเก้าอี้ของชายแก่วัย 69 ปีคือการตามโลกไม่ทัน

 

พูดง่ายๆ คือเรื่องของ “แท็กติก” ไม่มีมุกใหม่ๆ ยิ่งสู้ก็ยิ่งโดนจับทาง ยิ่งนานวันผลงานก็ยิ่งดิ่งเหวไม่ได้ “เทพ” เกาะท็อปโฟร์ได้เหมือนในวันวาน

 

การจากไปของ เวนเกอร์ เป็นไปตามวัฎจักรฟุตบอล แต่ก็ไม่รู้ทำไมคนที่เข้ามาแทนอย่าง อูไน เอเมรี่ ถึงได้ดูน่า “สงสาร” แบบบอกไม่ถูก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ unai emery sad

อาร์เซนอล ในวันที่ไม่มี เวนเกอร์ ก็ยังคงเป็น อาร์เซนอล ที่มัธยัสถ์เหมือนเดิม ทั้งๆ ปลดหนี้สนามไปแล้ว ตั๋วเข้าชมก็แพงเป็นอันดับต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก

 

แต่งบประมาณในแต่ละฤดูกาลก็ยังถูกจำกัดจำเขี่ย ปีก่อนดีหน่อยมี สเวน มิลินสตัด หัวหน้าแมวมองระดับเทพการซื้อขายจึงรวดเร็วฉับไวได้ตัวดีๆ แบบ โซคราติส, แบรนด์ เลโน่ และ ลูคัส ตอร์เรร่า แบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อย

 

ผิดกับซัมเมอร์นี้ชนิด “หน้ามือเป็นหลังเท้า” ทุกอย่างเป็นไปอย่างทุลักทุเล การมีงบประมาณให้ช็อปปิ้งเพียง 40 ล้านปอนด์ กลายเป็นเรื่อง “ตลก” ให้ทีมอื่นเม้าท์มอย

 

มีข่าวกับนักเตะไปทั่ว แต่สุดท้ายโดนเรียกค่าไถ่ก็สู้ไม่ไหว เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนลีกก็จะเป็นฤดูกาลใหม่ แต่ อาร์เซนอล ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

 

จริงแล้วก็ไม่น่าแปลกใจเพราะขนาด เอดู กาสปาร์ ยังเพิ่งถูกแต่งตั้งมาเป็นผู้อำนวยการเทคนิค ทั้งๆ ที่ตำแหน่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับการเสริมนักเตะเข้ามาสู่ทีม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โลร็อง โกเซียลนี

กรณีของ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ ล่าสุดก็เป็นอีกผลกระทบที่แสดงให้เห็นถึงความ “อ่อนแอ” ของผู้บริหารของ อาร์เซนอล ทำไมถึงปล่อยให้นักเตะ “กล้าหือ” กับทีมแบบนี้ แถมคนที่ทำเรื่อง “งามไส้” ยังเป็นถึงกัปตันทีมเบอร์ 1

 

เคสนี้ยังไงแนวรับชาวฝรั่งเศส ก็ผิดเต็มประตู ทว่าเท่าที่อ่านข้อมูลจากแหล่งข่าววงในอย่าง เดวิด ออร์นสไตน์ นักข่าวของ บีบีซี ก็ระบุว่าเรื่องนี้มีการเจรจามาสักระยะแล้วแต่เคลียร์กันไม่ลงตัว

 

ทำไม อาร์เซนอล ถึงปล่อยให้นักเตะเหลือสัญญาปีสุดท้ายแล้วค่อยมาเจรจา เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 33 ปี ไม่ใช่เคสแรกด้วย เพราะก่อนหน้านี้ก็ลูกผีลูกคนกับทั้ง เมซุต โอซิล และ อเล็กซิส ซานเชซ

 

สุดท้ายเลือกต่อเพลย์เมกเกอร์ตาโปน และยังดีที่ขาย “ชายเล็ก” ให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทั้งๆ ที่สัญญาเหลืออีกเพียง 6 เดือนเท่านั้น

 

อารอน แรมซี่ย์ ก็เป็นอีกหนึ่งที่ทีม “ปืนใหญ่” ปล่อยปละละเลย สุดท้ายไม่ได้กำทั้งขี้ ไม่ได้กำทั้งตด นักเตะเลือกย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว

 

และตลอดฤดูกาลก็ใช้งานดาวเตะทีมชาติเวลส์ แบบแทบนับนิ้วได้ การเจรจาสัญญาใหม่ที่ไม่ลงตัวและยืดเยื้อมันมีผลต่อสมาธิของนักเตะ รวมถึงแท็กติกของตัวกุนซืออีกด้วย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

จากทีมลุ้นแชมป์กลายเป็นทีมลุ้นท็อปโฟร์ จากทีมลุ้นท็อปโฟร์อาจจะเหลือแค่เป็นทีมท็อปซิกต์ การถูก สเปอร์ส ทำอันดับดีกว่ามา 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ทั้งๆ ที่เคยผูกปีข่มมากว่า 20 ปี

 

มันคือสัญญาณที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่าทีมดังจากนอร์ทลอนดอนกำลัง “ถอยหลังลงคลอง”

 

วันนี้ถามใจแฟน อาร์เซนอล ดู หากพวกเขามีความสุขจริง ที่อังกฤษคงไม่มี “Kroenke Out” ตั้งแต่ไก่โห่แบบนี้หรอก