ถึงลุ้นหนีตาย! ปืนใหญ่จะเป็นอย่างไรถ้าไร้โอบาเมย็อง

หลังจากยืดเยื้อมานานตั้งแต่เดือนมกราคม ในที่สุด “ข่าวดี” ที่สุดที่แฟนบอล อาร์เซนอล รอคอยก็เกิดขึ้นจนได้ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง กองหน้ากัปตันทีมคนเก่งจรดปากกาขยายสัญญาอยู่กับทีมไปอีก 3 ปี

 

เหมือนกับที่อดีตนักเตะหลายๆ คนเคยว่าไว้โดยเฉพาะ เอียน ไรท์ ที่ออกตัวเรื่องนี้แรงกว่าใครๆ ว่าการต่อสัญญากับ โอบา คือการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของทีม “ปืนใหญ่” มากกว่าการคว้าผู้เล่นหน้าใหม่คนใดๆ เสียอีก

 

งานนี้ต้องบอกว่าเรื่องจริงเลย ขนาด อาร์เซนอล ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ หัวหอกกาบอง ยังตะบันไปถึง 22 ประตูเป็นรองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ตามหลัง เจมี่ วาร์ดี้ เพียงลูกเดียวเท่านั้น

 

งานนี้ให้เห็นภาพกันง่ายๆ ว่าทำไม โอบาเมย็อง ถึงได้สำคัญกับ อาร์เซนอล นักหนา วันนี้เราจะมาเปิดสถิติหากทีม “ปืนใหญ่” ไม่มีเขาในซีซั่นที่ผ่านมา จะมีผลงานเป็นอย่างไร แย่ถึงขั้นสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ขนลุกได้เลย

1.จำนวนประตูหายไปครึ่ง

 

อย่างที่แฟนบอลรู้กันดี โอบาเมย็อง ซีซั่นที่ผ่านมาซัดในพรีเมียร์ลีก ไปทั้งหมด 22 ประตู เชื่อหรือไม่ว่านั้นคือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนประตูทั้งหมดที่ อาร์เซนอล ทำได้ในลีกสูงสุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ขาด 6 ลูกจะเป็นครึ่งหนึ่ง)

 

38 เกมทีม ปืนใหญ่ ยิงไป 56 ประตูน้อยกว่าซีซั่น 2018-19 ถึง 17 ประตู และดีที่สุดในเป็นอันดับ 8 เท่ากับอันดับที่พวกเขาจบ หากวัดจำนวนประตูได้เทียบกับอีก 20 ทีมในลีกเดียวกัน

 

ถ้าไม่มี โอบาเมย็อง บอกเลยว่าเกมรุกของ อาร์เซนอล คงดูไม่จืด เพราะเมื่อดูอันดับ 2 อย่าง อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ที่ยิงได้แค่ 10 ประตู มันน้อยกว่าเกินกว่า 2 เท่าด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับหัวหอกชาวกาบอง

 

สมแล้วที่แฟนบอลเรียก โอบาเมย็อง ว่า “เดอะ แบก” ของ อาร์เซนอล ในยุคนี้

2.มีแต้มมากกว่าทีมตกชั้น 2 คะแนน

 

มันไม่ใช่แค่จำนวนประตูที่ยิงได้เกือบจะเป็นครึ่งหนึ่งของสโมสรเท่านั้นที่ทำให้ โอบาเมย็อง สำคัญ แต่เพราะหัวหอกวัย 31 ปี มักจะยิงประตูสำคัญๆ ให้ทีมได้เสมอ หรือพูดภาษาชาวบ้านก็ประตูตัดสินเกม ทั้งพาทีมชนะ หรือตีเสมอเก็บ 1 แต้ม

 

มีถึง 13 เกมที่ประตูของหัวหอกกาบอง มีความสำคัญกับทีมมากๆ อาทิการยิงประตูชัยเหนือ นิวคาสเซิ่ล, เบิร์นลี่ย์ และ แอสตัน วิลล่า รวมถึงการเหมา 2 พาทีมเก็บ 3 แต้มจาก เอฟเวอร์ตัน และ วัตฟอร์ด

 

ตามข้อมูลของ เดอะ ซัน ระบุว่า อาร์เซนอล จะหายไปถึง 20 คะแนน หากตัดไม่มีประตูของ โอบา ซึ่งจะทำให้ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จาก 56 คะแนน จะเหลือแค่ 36 คะแนน มากกว่าทีมตกชั้นทั้ง วัตฟอร์ด และ บอร์นมัธ เพียง 2 แต้มเท่านั้น

3.ไม่ได้แชมป์เอฟเอ คัพ

 

สถานการณ์ของ มิเกล อาร์เตต้า ที่สามารถคลี่คลายไปในทางที่ดีจากซีซั่นที่ผ่านมา ผลงานสำคัญเลยคือการที่พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ เพื่อกลบเกลื่อนผลงานในลีกที่ล้มเหลวที่สุดในรอบหลายๆ ปี

 

ตรงนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ โอบาเมย็อง แบบชัดเจนมากๆ หัวหอกกาบอง ไม่ได้ลงเลยตั้งแต่รอบ 3 จนถึงรอบ 8 ทีม แต่เล่นเพียงแค่ 2 นัดในเกมรอบรองฯ กับรองชิงชนะเลิศ ซึ่งเจ้าตัวซัดได้ทั้งสองนัด

 

โดยเกมรอบรองเหมา 2 พาทีมชนะ แมนฯ ซิตี้ ก่อนยิงอีก 2 ประตูในเกมกับ เชลซี ซึ่งเป็นประสิทธิภาพที่ “คมกริบ” มากๆ เพราะใช้โอกาสน้อยแค่ 2-5 ครั้งต่อเกมเท่านั้นเอง

 

งานนี้พูดได้เต็มปากเลยว่าไม่มี โอบาเมย็อง ไม่มีแชมป์ เอฟเอ คัพ สำหรับกูนเนอร์ส แน่ๆ

4.อาร์เตต้า อาจไม่เล่น 3-4-3

 

หัวหอกวัย 31 ปี ไม่ได้สำคัญแค่การยิงประตูให้ทีมเท่านั้น สไตล์การเล่นของเขาก็หาคนแทนได้ยาก โดยเฉพาะการเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวซ้าย ที่มักจะหุบเข้าในไปเป็นกองหน้าตัวที่สอง หรือลากตัดเข้ามาปั่นโค้งๆ เสียบเสาไกล

 

คนที่ใกล้เคียงที่สุดก็น่าจะเป็น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ แต่หัวหอกดาวรุ่งแซมบ้าก็เจ็บยาว อันนี้เทียบง่ายๆ เลย 17 เกมที่เจ้าตัวสตาร์ตตัวจริงในยุค มิเกล อาร์เตต้า โดนเปลี่ยนตัวออกเพียงแค่นัดเดียว เท่ากับว่าเล่นครบ 90 นาทีถึง 15 เกม (อีกเกมโดนไล่ออกนัดเจอ พาเลซ)

 

แสดงให้เห็นว่า โอบา นั้นสำคัญกับแผนของ อาร์เตต้า ทั้ง 4-2-3-1 และ 3-4-3 มากๆ ถึงขนาดเปลี่ยนใครแทนไม่ได้เลย สมมติถ้าไม่มีหัวหอกกาบอง ดูแล้วกุนซือสแปนิช น่าจะเจองานที่หนักกว่านี้เยอะ และอาจจะขนมุกอื่นมาปั้น ปืนใหญ่ แทน

5.ปืนใหญ่ หากองหน้าตัวใหม่ซัมเมอร์นี้

 

ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยจากข้อแรกและข้อสอง ถ้าไม่มี โอบาเมย็อง อาร์เซนอล จะยิงได้น้อยกว่าเดิมเกือบครึ่ง จะเสียแต้มอีก 20 คะแนน ถ้าทีมมีผลงานอย่างงี้จริงๆ ยังไงก็ต้องหากองหน้าคนใหม่มาอย่างแน่นอน

 

เอาแค่หัวหอกวัย 31 ปีไม่ต่อสัญญาใหม่ซัมเมอร์นี้ แค่นี้ก็ทำให้การเสริมทัพของ อาร์เตต้า ป่วนไปหมด เพราะกองหน้าตัวใหม่ที่ฝีเท้าระดับ โอบา บอกเลยว่าหายากมากๆ ในตอนนี้ และต่อให้มีก็คงจะต้องมีค่าตัวที่สมน้ำสมเนื้อเท่านั้นถึงจะดึงมาร่วมทีมได้

 

และถ้าทีมต้องเอางบก้อนใหญ่ไปลงที่กองหน้า บอกเลยมีส่งผลกระทบไปทุกๆ ตำแหน่ง เราอาจไม่มีเงินพอซื้อ กาเบรียล ไม่กล้าจ่ายค่าเหนื่อยๆ สูงๆ รอใจ วิลเลี่ยน และอาจจะต้องทำใจที่จะไม่ได้ลุ้นกับ ฮุสเซ็น อาอูอาร์ และ โทมัส ปาร์เตย์ ในโค้งสุดท้ายด้วย