ชัยชนะ 6 นัดติดต่อกันของทัพ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด นับเป็นผลงานที่น่าสมราคาแชมป์เก่าอย่างยิ่ง ในฟุตบอลลีกกระทิงดุ ลาลีกา สเปน ในฤดูกาลนี้
“คาร์เล็ตโต้” คาร์โล อันเชล็อตติ นำทัพ “ราชันชุดขาว” ออกสตาร์ทดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987-88 ที่ปีนั้นคว้าชัย 6 เกมรวดเช่นกัน ซึ่งต้องบอกว่าในซีซั่นนี้ บรรดาแข้งแกนหลักในทีมยังคงทำผลงานได้อย่างโดดเด่นไม่ว่าจะเป็น คาริม เบนเซม่า ,วินิซิอุส จูเนียร์ ,ลูก้า โมดริช ,โทนี่ โครส หรือ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้
นอกจากนั้น แสงสปอร์ตไลท์ ยังได้ฉายแสงส่องไปยังแข้งหน้าใหม่อย่าง ออเรลิยง ชูอาเมนี่ ที่ “โลส บลังโกส” ทุ่มทรัพย์ทุบคลังซื้อมาด้วยค่าตัวสูงถึง 80 ล้านยูโร เมื่อช่วงซัมเมอร์จาก โมนาโก ซึ่งแม้จะเป็นเวลาไม่นาน แต่ดาวเตะวัย 22 ปีทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ก็ทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และจะบอกว่านี่คือการสานความสุดยอดของ คาเซมิโร่ ได้แบบไร้รอยต่อก็คงจะไม่ผิดเพี้ยนนัก
เพราะเหตุใดทำไม ชูอาเมนี่ ถึงดีพอที่จะยึดตำแหน่งตัวจริงของ เรอัล มาดริด ชุดนี้ได้อย่างรวดเร็ว และมีแววจะก้าวขึ้นมาเป็นกองกลางเบอร์ 1 ของโลกในอนาคตอันใกล้ UfaArena จะพาไปหาคำตอบกัน
ได้รับโอกาสทองอย่างทันท่วงที
การย้ายเข้ามาของ ชูอาเมนี่ ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว แม้เขาจะมีค่าตัวที่สูงมาก แต่ในตอนแรก “อันเช่” ยังไม่ได้ต้องการให้เขาก้าวมายึดตำแหน่งตัวจริงรวดเร็วขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อ คาเซมิโร่ อำลาทีมไปร่วมทัพ แมนฯยูไนเต็ด นั้นทำให้โอกาสของดาวเตะฝรั่งเศส เปิดกว้างขึ้นมาทันที และด้วยศักยภาพ ,ความมั่นใจ ,เล่นได้ตามระบบที่วางไว้ และความเข้าใจในเกม ถึงเวลานี้เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าดีพอที่จะกลายเป็น กองกลางตัวรับคนใหม่ของสโมสรแห่งนี้ไปอีกนานแสนนาน
การยืนตำแหน่งที่หลากหลาย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มาดริด ลงเล่นในระบบ 4-3-3 เป็นหลัก โดยมี คาเซมิโร่ ที่จะยืนอยู่หน้าแผงกองหลัง คอยปัดกวาดก่อนส่งบอลให้ โทนี่ โครส หรือ ลูก้า โมดริช คอยขับเคลื่นเกมให้แผงแนวรุก แต่บทบาทของ ชูอาเมนี่ ที่เข้ามานั้นค่อนข้างน่าสนใจ แน่นอนว่าเขาจะถูกจับยืนในตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 6 เฉกเช่นเดียวกับ คาเซมิโร่ แต่จากที่เห็นมาตลอดหลายนัด จะเห็นได้ว่า อันเชล็อตติ นั้นให้อิสระเขาในการเติมเกมขึ้นมาสูง สามารถพาบอลไปกับตัวเพื่อทะลุทะลวงได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงสร้างสรรค์เกมด้วยการแอสซิสต์บอลจังหวะสวนกลับได้อีกด้วย อย่างที่เราได้เห็นในเกมล่าสุดที่ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1 ที่ ครอสบอลเข้าไปให้ โรดรีโก้ ยิงประตูให้กับทีม
อีกหนึ่งสิ่งที่เราได้เห็นการพัฒนาของ มาดริด ชุดนี้ คือการที่ ชูอาเมนี่ นั้นสามารถครองบอลได้ดีกว่า คาเซมิโร่ แบบเห็นได้ชัด ที่สำคัญคือสามารถเล่นบอลในที่แคบได้ดีเอามากๆ รวมไปถึงจังหวะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่สามารถเปลี่ยนจากเกมรับให้เป็นเกมรุกได้อ่ยางน่าทึ่ง ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่สร้างความแตกต่างออกไป
ยกระดับเกมเพรสซิ่งได้อย่างน่าทึ่ง
ชูอาเมนี่ สร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะ กองกลางที่แย่งบอลเก่งที่สุดคนหนึ่งของลีกยุโรป ในสมัยตอนเล่นให้กับ โมนาโก เขาสามารถยืนในแผงมิดฟิลด์ได้หมดไม่ว่าจะเป็น กองกลางตัวรับคนเดียว หรือเล่นแบบมีมิดฟิลด์สองคน นั่นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเขาที่มีอิทธิพลต่อเกมในสนาม
ในปัจจุบันกับ มาดริด ชูอาเมนี่ ยังคงสามารถอ่านเกมได้อย่างเฉียบขาด และมีความหลากหลายในการเอาชนะคู่ต่อสู้ เมื่อสามารถแย่งบอลจากคู่แข่งในลาลีกาได้เฉลี่ย 12.9 ครั้ง ต่อ 90 นาที นอกจากนั้นด้วยความสูง 187 เซนติเมตรทำให้เขาสามารถโหม่งแย่งบอลชนะคู่แข่งสูงถึง 78.6 เปอร์เซนต์ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาสามารถคอยช่วยปกป้องเกมรับของทีมได้ก่อนจะถึงแผงแนวรับอย่างดีเยี่ยมสุดๆ
แกนนำแผงมิดฟิลด์ ราชันชุดขาว ยุคต่อไป
การย้ายไปของคาเซมิโร่ ทำให้เกิดการพูดถึงมากมายในแดนกลางว่าใกล้ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนยุคแล้วใช่หรือไม่ เนื่องจาก ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส นั้นก็โรยรามากขึ้นทุกวัน และยังมีเรื่องของการอิ่มตัวเพราะได้แชมป์มามากมายกับทีม โดยนอกจากเวลานี้ ชูอาเมนี่ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทน ดาวเตะบราซิลแล้ว ในอนาคตอันใกล้เราจะได้เห็น เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า ที่จะขึ้นมาเป็นตัวจริงอีกรายแน่นอน หลังเวลานี้เจ้าตัวก็ได้โอกาสสอดแทรกอยู่บ่อยครั้งในฐานะตัวสำรอง ขณะที่เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ที่เวลานี้ไประเบิดฟอร์มโดดเด่นนตำแหน่งกองหน้าฝั่งขวา อาจจะได้ขยับกลับมาเล่นในตำแหน่งที่เขาถนัดอีกครั้ง หรือในซัมเมอร์หน้าบิ๊กดีลที่แฟนราชันชุดขาว หลายคนรอคอยอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม ดาวโรจน์ทีมชาติอังกฤษจาก โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ ก็มีโอกาสได้เข้ามาสร้างยุคใหม่ไปกับทีมเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชูอาเมนี่ตามรอย : ส่อง 9 แข้งมาดริดที่คว้ามาจากลีกเอิง
