ทางออกโลกลูกหนัง ในวันที่โรคระบาดคุกคาม

สิ่งที่ไม่อยากให้เกิด ในที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้ คำถามที่ว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเอายังไง หลังผลกระทบจากหลายๆ ลีกเริ่มทวีความรุนแรง

 

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คือลีกแรกใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ที่ต้องเผชิญหน้ากับ “โควิด-19” และเป็นแม่แบบในการรับมือทั้ง “เลื่อน” ทั้ง “ปิดสนามแข่ง” พวกเขาลองมาหมดแล้ว

 

แต่ทุกอย่างมีขีดจำกัดในตัวมันเอง อัพเดตล่าสุด 13 มีนาคม อิตาลี ป่วยด้วยเชื้อไวรัสตัวนี้ไปแล้ว 15,113 คน และเสียชีวิตสูงถึง 1,016 คน มากที่สุดหากไม่นับ จีน ที่เป็นจุดเริ่มต้น

 

แน่นอนว่ามันฝืนไม่ไหวจริงๆ ในที่สุดลูกหนังเมืองมักกะโรนี ต้องเลื่อนการแข่งขันแบบไร้กำหนด ขณะที่ สเปน ก็ตามมาติดๆ โดยลองเชิงหยุดทั้งบอลลีกและบอลถ้วยไปก่อนที่ 2 สัปดาห์

 

ส่วนในวันนี้ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ก็ประกาศเลื่อนแบบไม่มีกำหนด ส่วน บุนเดสลีกา ที่ตอนแรกอยากจะเตะทิ้งทวนในสัปดาห์นี้ แต่สุดท้ายสู้กระแสต่อต้านไม่ไหวประกาศด่วนพักยาวไปถึงวันที่ 2 เม.ย.เช่นกัน

 

อังกฤษ ชนวนเหตุเริ่มจาก เอวานเกลอส มารินาคิส นักธุรกิจชาวกรีซ ที่เป็นเจ้าของทีม โอลิมเปียกอส และ ฟอเรสต์ ที่ยอมรับว่าติดเชื้อเมื่อต้นสัปดาห์ ทว่าวีกก่อนเข้าชมทั้งเกม แชมเปี้ยนชิพ และยูโรป้าลีกนัดเจอ อาร์เซนอล

หลังจากเลื่อนเกมที่ ปืนใหญ่ จะเปิดบ้านพบ แมนฯ ซิตี้ ในกลางสัปดาห์ ทางสมาคมฟุตบอลเมืองผู้ดีเหมือนจะยังดื้อดึงที่จะแข่งต่อในสุดสัปดาห์นี้

 

ทว่าการติดเชื้อของ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของ “เดอะ กันเนอร์ส” กลายเป็นฟ้าผ่าเปรี้ยงเดี้ยงที่สั่นสะเทือนไปทั้งลีก บทสรุปจากการประชุมด่วนคือทุกลีก ทุกถ้วยเลื่อนยาวไปถึง 3 เมษายน

 

ภายในวันเดียวกัน คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย กลายเป็นนักเตะคนแรกของพรีเมียร์ลีกที่ติดเชื้อ หลังจากนั้นตามเพียบทั้ง เบนฌาแม็ง เมนดี้ ที่ต้องกักตัวหลังมีคนในครอบครัวมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อ โควิด-19

 

เอฟเวอร์ตัน สั่งนักเตะและสตาฟฟ์ในทีมชุดใหญ่เก็บตัวทุกคนต้องกักตัวเองเพื่อรอประเมินอาการ ด้าน วัตฟอร์ด ก็เช่นเดียวกัน ไนเจล เพียร์สัน ตัวกุนซือรับเองว่ามีนักเตะเข้าข่ายจะติดเชื้อเช่นกัน

 

บอร์นมัธ ก็ตกเป็นข่าวหลัง อาร์เทอร์ โบรุค กับเจ้าหน้าที่อีก 4 คนต้องอยู่ในสถานะเฝ้าระวัง หลังมีอาการคล้ายๆ จะป่วยด้วยเชื้อโคโรน่าไวรัส

 

หลังจากนี้เชื่อว่าทิศทางของการกระจายของเชื้อไวรัส น่าจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โอกาสที่จะเห็นนักเตะหรือสตาฟฟ์โค้ชออกข่าวว่าป่วยเพิ่มยังไงก็ต้องมีแน่นอน

 

คำถามที่แฟนบอลสงสัยคือแนวทางหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร บทสรุปของฟุตบอลีกมีกี่แนวทางที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเท่าที่ตามจากกูรูหลายๆ คนวิเคราะห์มองเห็นภาพชัดๆ อยู่เพียง 3 วิธี

1.ยกเลิกฤดูกาลนี้

เป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับทีมฟุตบอล โดยเฉพาะกลุ่มทีมจ่าฝูงที่อาจจะต้อง “น้ำตาตกใน” กลืนไม่เข้้าคลายไม่ออก แชมป์ก็อยากได้ แต่ก็ขัดวิกฤติโรคร้ายไม่ได้

 

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ล้อเล่น เพราะหลายๆ ลีกอย่าง อิตาลี หรือ ฝรั่งเศส ก็เริ่มมีการถกเรื่องนี้แล้ว เพราะสถานการณ์ของพวกเขารุนแรงกว่าประเทศอื่นๆ การรีบตัดสินใจแก้ปัญหาดูจะเร่งด่วนกว่าใครๆ

 

ข้อดีของวิธีนี้คือเสมือนการตัดตอนโอกาสการแพร่เชื้อร้าย ไม่สร้างสถานที่ที่อาจจะเป็นจุดร่วมพล ซึ่งตามนโยบายของสาธารณสุขโลกไม่ต้องการให้มีการรวมพลเกิน 100 คนอยู่แล้ว

 

อย่างไรก็ตามข้อเสียมันต้องมีแน่ เช่นวิธีการคิดบทสรุปจะเอายังไง จะยกผลประโยชน์ตามผลงานบนตารางคะแนนล่าสุด หรือจะโมฆะผลทั้งหมดไปแบบดื้อๆ

 

ถ้าไม่ันับผลฤดูกาลนี้ แล้วทีมที่จะได้ไปเล่นในฟุตบอลยุโรปฤดูกาลถัดไป ทีมที่จะตกชั้นหรือขึ้นชั้นจะใช้โควต้าแบบใด ทำยังไงถึงจะยุติธรรมกับทุกฝ่าย

 

เคยอ่านผ่านๆ ขอเสนอแนะของบางลีก อาจจะไม่มีทีมตกชั้น แถมจะเพิ่มทีมที่ได้ขึ้นชั้นอีก งานนี้บอกเลยประเทศไหนเลือกแบบนี้เตรียมปวดหัวในฤดูกาลต่อไปได้เลย

2.แข่งแบบปิดสนามให้จบตามเวลาเดิม

 

อันนี้ถือว่าสุ่มเสี่ยงมากๆ เพราะถ้าตามเวลาเดิมเชื่อว่าปัญหาเชื้อไวรัสโควิด-19 น่าจะยังไม่คลี่คลายอย่างแน่นอน

 

ตรงนี้ปัญหามีแน่ โดยเฉพาะตัวนักเตะที่หลายๆ ฝ่ายแทบจะไม่มีใจลงสนาม อย่างล่าสุดก็ ธิอาโก้ อัลคันทาร่า ที่ทวีตเตอร์ด่า เดเอฟเบ ที่ตอนแรกไม่ยอมเลื่อนเหมือนลีกอื่นๆ

 

ถึงแม้่จะปิดสนามไม่ให้แฟนบอลเข้า แต่ตอนนี้โรคมันระบาดมายังนักเตะด้วยกันแล้ว ดังนั้นพื้นที่สีเหลี่ยมสีเขียวก็คือจุดเสี่ยงที่ใครๆ ก็อยากเลี่ยงทั้งนั้น

 

จุดดีมีข้อเดียวคือทุกอย่างยังคงรันไปตามระบบ ไม่ต้องไปสร้างเงื่อนไขอื่นให้ต้องปวดหัว แต่เอาเข้าจริงเชื่อว่าฝ่ายบริหารของแต่ละลีกมีจริยธรรมมากพอ ยังไงวิธีนี้ก็น่าจะเป็นไปได้ยาก หากทุกอย่างยังคลุมเคลืออยู่

3.รอโรคหายขาดแล้วกลับมาแข่งต่อ

 

อันนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดต่อทุกๆ ฝ่าย คือรอให้เชื้อโควิด-19 หยุดการแพร่ระบาดในระดับที่ไว้ใจได้ ค่อยกลับมาฟาดแข้งกันใหม่

 

ถ้าข้อนี้เกิดได้จริงน่าจะแฟร์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสโมสรที่กำลังขั้วทั้งแชมป์ ทั้งหนีตาย หรือโควต้าบอลยุโรปต่างๆ รวมถึงแฟนบอลที่จะได้ตามเชียร์ทีมรักในสนามเหมือนเช่นกิจวัตรประจำวัน

 

ข้อนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปด้วย ที่อาจจะต้องเลื่อนการแข่งขัน ยูโร 2020 รอบสุดท้ายเป็น ยูโร 2021 แทน เพื่อให้ฟุตบอลลีกมีวันและเวลามากพอที่จะเตะเก็บแมตช์ตกค้างกันได้

 

อย่างไรก็ตามปัญหาหลักที่เป็นอุปสรรคต่อวิธีนี้ก็คือ “โคโรน่าไวรัส” ที่ไม่มีใครรู้ได้ว่าจะยุติเมื่อไหร่ ต้องรอนานแค่ไหน 1 เดือน 2 เดือน หรือเลวร้ายอาจจะบานปลายถึงต้นฤดูกาลหน้าเลยด้วยซ้ำ