การกลับมาติดทีมชาติฝรั่งเศสของ คาริม เบนเซม่า กองหน้าจาก เรอัล มาดริด ที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมไปนับตั้งแต่ปี 2015 ที่มีข่าวฉาวเกี่ยวข้องกับเทปลับจนอดไปเล่นในศึกยูโร 2016 และไม่เคยติดทัพตราไก่อีกเลยมาจนกระทั่งล่าสุด เขาถูกเรียกติดทีมอีกครั้งเพื่อลุยศึก ยูโร 2020ซัมเมอร์นี้
อย่างไรก็ตาม เบนเซม่า ไม่ใช่นักเตะคนแรกที่หลุด หรืออำลาจากทีมชาติไป แล้วกลับมาลงสนามให้กับทีมอีกครั้งในเวลาต่อมา วันนี้ UFAARENA จะมานำเสนอ 9 สตาร์ดังที่กลับมาติดทีมชาติหลังอำลาทีมไป
จอมทัพตราไก่เคยประกาศอำลาทีมชาติไปหลังจบศึกยูโร 2004 ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าได้คิดเรื่องนี้เอาไว้แล้วตั้งแต่ก่อนรายการนี้ โดยรายการดังกล่าว ฝรั่งเศสจอดป้ายแค่รอบ 8 ทีมเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ซีดาน ก็กลับมาลงเล่นให้ทีมชาติอีกครั้งด้วยเหตุผลว่ามีเสียงลึกลับบอกให้กลับมา
โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นซีดานเปิดเผยว่า “ในคืนนึง ช่วงตี 3 ผมตื่นขึ้นมาแล้วได้คุยกับใครบางคน มันเป็นเรื่องลี้ลับ ไม่ต้องพยายามไปหา คุณไม่เจอหรอก มันเป็นใครบางคนที่คุณไม่มีทางได้เจอ ผมอธิบายไม่ได้จนกว่าจะได้เจอด้วยตัวเอง คนๆนั้นมีอยู่อยู่จริง แต่ทั้งหมดมันมาจากที่ที่ไกลมาก และหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงผมก็ตัดสินใจกลับมาเล่นให้ทีมชาติ”
ก่อนที่สุดท้าย ซีดานจะกลับมาลงรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศสลุยศึกฟุตบอลโลก 2006 พร้อมพาทีมทะลุไปถึงนัดชิงชนะเลิศกับทีมชาติอิตาลี ก่อนที่จะมีช็อตจำอย่างการไปเอาหัวโหม่งใส่ มาร์โก้ มาร์เตรัซซี่ จนโดนใบแดงไล่ออก ซึ่งผลก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทัพตราไก่ และเป็นการปิดฉากเส้นทางของเขากับทีมชาติไปอย่างเป็นทางการ
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ย้อนไปเมื่อ 5 ปี ก่อนหลังศึกยูโร 2016 ที่จบด้วยความผิดหวังของทีมชาติสวีเดนที่ตกรอบไปตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าสตาร์เด่นของทีมก็ประกาศที่จะเลิกเล่นให้ทีมชาติทันที ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 34 ปีแล้วในเวลานั้น ทำให้ในศึกฟุตบอลโลก 2018 เราจึงไม่ได้เห็นเขาวาดลวดลายกับทัพไวกิ้ง แต่พวกเขาก็สามารถไปได้ไกลถึง รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อย่างไรก็ตามสำหรับตัว ซลาตันเองยังคงสามารถเล่นในระดับสูงกับ เอซี มิลาน ได้ด้วยวัย 39 ปี และยิงได้มากถึง 17 ประตู จาก 27 นัดแม้จะมีอาการบาดเจ็บตามรบกวน นั่นทำให้ทีมชาติสวีเดนเรียกตัวเขากลับมาช่วยทีมอีกครั้งในศึกยูโร 2020 ที่เลื่อนมาเตะกันในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้เจ้าตัวจะเพิ่งได้รับอาการบาดเจ็บไปในช่วงท้ายซีซั่น แต่ก็ยังเร่งเรียกความฟิตเพื่อให้กลับมาช่วงทัพไวกิ้งให้ทัน
ดานี่ อัลเวส
ในรายของ อัลเวส ไม่ได้นับว่าเป็นการประกาศอำลาทีมชาติ เนื่องจากเจ้าตัวเคยยืนยันว่าจะเล่นให้ทัพแซมบ้าต่อไป เพียงแค่เจ้าตัวไม่ได้ถูกเรียกติดทีมมาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2019 ซึ่งล่าสุดทาง ติเต้ นายใหญ่ทีมชาติบราซิล ก็เรียก อัลเวส ในวัย 38 ปี กลับมาติดทีมอีกครั้งเพื่อลุยศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
ด้านนายใหญ่แซมบ้าออกมาเปิดเผยถึงการเรียกอดีตแนวรับบาร์เซโลน่า กลับมาติดทีมอีกครั้งว่า “อัลเวส กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี และมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่กับทีมชาติ ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เราไม่มีเวลาให้ฟื้นฟูร่างกายมากนัก แต่เขากำลังอยู่ในช่วงพีคเกี่ยวกับสภาพร่างกาย อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนที่มีทักษะด้านการเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม และนั่นคือสิ่งที่ดีสำหรับทีมชุดนี้” โดยมีคิวลงเตะกันในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ พบกับ โคลอมเบีย, เวเนซุเอลา, เอกวาดอร์ และ เปรู
เวนย์ รูนี่ย์
ดาวยิงสิงโตคำรามถูกเรียกติดทีมชาติครั้งสุดท้ายในเกมอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2016 ในรายการฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนยุโรป ซึ่งเจ้าตัวก็สามารถทิ้งผลงานไว้อย่างยอดเยี่ยมจากการพาทีม ชนะ 3 เสมอ 1 แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับมาติดทีมชาติอีกเลย แม้จะยังไม่ได้แขวนสตั๊ดก็ตาม แน่นอนว่ารวมถึงเกมฟุตบอลโลก 2018 ที่พวกเขาลุยเข้าไปถึงรอบชิงก็ด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ทัพสิงโตคำรามก็เรียก รูนี่ย์กลับมาลงเล่นให้ทีมชาติอีกครั้ง เพื่อจารึกสถิติการลงสนามไว้ให้ครบ 120 นัด ด้วยการจัดเกมกระชับมิตรกับทีมชาติ สหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลานั้นเจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับ DC ยูไนเต็ด ในเมเจอร์ลีกซ็อคเกอร์ เป็นการกลับมาเพื่อปิดฉากเส้นทางกับทีมชาติในฐานะนักเตะที่ลงสนามมากที่สุดเป็นอันดับสองของทัพผู้ดี รองจาก ปีเตอร์ ชิลตัน ตำนานมือกาวของทีมที่ลงไป 125 นัด
ฟาบิโอ กวายาเรลล่า
กองหน้าตัวเก๋าของซามพ์โดเรียไม่มีชื่อติดทีมชาติอิตาลีมาตั้งแต่ ยูโร 2010 ซึ่งก่อนหน้านั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้เป็นตัวหลักของทีมแต่อย่างใด และไม่ใช่ขาประจำของทีมชาติ หลังจากปี 2010 เขาก็ไม่เคยติดทีมชาติอีกเลยจนกระทั่งฤดูกาล 2018/19 ที่เขากลับมาระเบิดฟอร์มเก่งอีกครั้งในวัย 36 ปี จากการรั้งตำแหน่งดาวซัลโวของลีกที่ 26 ประตู
ด้วยผลงานดังกล่าวทำให้เขาถูกเรียกกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในเกมคัดเลือกยูโร 2020 แถมยังได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมกับ ลิชเทนส์ไตน์ ซึ่งเจ้าตัวก็กดไป 2ประตู 1 แอสซิสต์ ในเกมนั้นพาทีมถล่มคู่แข่งไปถึง 6-0 พร้อมจารึกชื่อเป็นนักเตะที่ออายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ในทีมชาติอิตาลี ด้วยวัย 36 ปี กับ 54 วัน
ซานติ การ์ซอล่า
การต้องว่างเว้นจากการติดทีมชาติไปของ การ์ซอล่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าไม่น้อย เนื่องจากเขาไม่ได้ประกาศอำลาทีมชาติเพราะเรื่องของอายุ หรือโดนตัดออกจากทีมจากฟอร์มการเล่นที่ตกลงไป แต่เขาต้องจำใจลาทีมชาติไปเนื่องจากประสบกับอาการบาดเจ็บหนักที่ข้อเท้าในปี 2016 โดยอาการเจ็บดังกล่าวเป็นอาการบาดเจ็บที่เขาเคยเจอมาก่อนแล้วในปี 2013
แต่ในครั้งนี้เจ้าตัวต้องพักรักษาตัวยาวนานถึง 2 ปี และร้ายแรงถึงขั้นเกือบต้องตัดขา ก่อนที่สุดท้ายเขาจะกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง กับการได้ไปอยู่กับ บียาร์เรอัล หลังจากนั้นเขาก็ได้โอกาสกลับมาติดทัพกระทิงดุอีกครั้งในรอบ 4 ปี ในเกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก แถมยังยิงได้ 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์จากการลงสนาม 4 นัดที่กลับมาคืนทัพ
ลิโอเนล เมสซี่
หลังจากผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่ากับการลงเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนติน่า ทำให้ตัวเมสซี่เองมักถูกเป็นเป้าวิจารณ์อยู่เสมอในฐานะสตาร์หลักของทีม นั่นทำให้สตาร์จากบาร์ซ่าก็ตัดสินใจประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติหลังพลาดคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา เมื่อปี 2016 สร้างกระแสฮือฮาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะแฟนบอลชาวอาร์เจนไตน์ที่ต่างช็อคไปตามๆกัน
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงการอำลาในช่วงสั้นๆเท่านั้น ก่อนที่จะกลับมาช่วยทีมอีกครั้งในเกมฟุตบอลโลก 2018 แต่ก็จอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมเท่านั้น แต่ก็ถือว่าการกลับมารอบนี้เป็นการกลับมาช่วยทัพฟ้าขาวอย่างถาวร หลังจากออกไปพักรักษาแผลใจจากความผิดหวังมาก่อนหน้านี้
จานลุยจิ บุฟฟ่อน
นายทวารทีมชาติอิตาลีประกาศอำลาทีมไปหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ทัพอัซซูรี่ไปได้ไกลแค่รอบคัดเลือกเท่านั้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ อิตาลี ไม่ได้ไปเล่นในรายการฟุตบอลโลกรอบสุกท้ายนับตั้งแต่ปี 1958 นั่นทำให้เจ้าตัวตัดสินใจอำลาทีมชาติด้วยวัย 39 ปี
โดย บุฟฟ่อน กล่าวผ่านโซเชี่ยล มีเดียของตัวเองว่า “ผมไม่เสียใจในส่วนของตัวเองหรอกนะ แต่เสียใจกับแฟนบอลอิตาลีทุกคน เราล้มเหลว มันน่าเสียใจที่จบลงแบบนี้ อนาคตของฟุตบอลอิตาลีมีอยู่แน่ เพราะเรามีความภาคภูมิใจ ความสามารถ ความมุ่งมั่น และหลังจากล้มเหลวเราจะหาทางกลับมายืนหยัดได้เสมอ”
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นบุฟฟ่อนก็กลับมามาลงสนามให้ทีมชาติอรกครั้งในเกมกระชับมิตรกับ อาร์เจนติน่า ในช่วงหลังจบฟุตบอลโลก 2018 ไม่นานจากนั้น แม้จะเป็นการกลับมาที่ไม่สวยงามเท่าไรเนื่องจากเป็นฝ่ายแพ้ไป 2-0
รอย คีน
ย้อนไปในศึกฟุตบอลโลก 2002 กองกลางพันธุ์เดือนจากปีศาจแดงมีปัญหาอย่างหนักกับ ผู้จัดการทีมชาติในเวลานั้นอย่าง มิค แม็คคาธี เนื่องจากไม่พอใจในการเตรียมทีมเพื่อลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ก่อนจะมีเรื่องฟาดปากกันจนบานปลายไปจนถึงขั้นที่ คีน โดนถอดออกจากทีมชาติชุดนั้น ส่วน ไอร์แลนด์ก็ทะลุไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
2 ปี ถัดมาหลังจากที่ แม็คคาธี คู่กรณีของเขาออกจากตำแหน่งกุนซือไป คีนก็กลับมาเล่นให้ทีมชาติอีกครั้งในศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก อีก 9 เกมแม้ในครั้งนี้ทัพยักษ์เขียวจะไม่สามารถทะลุเข้าไปเล่นในเกมรอบสุดท้ายได้ก็ตาม
ยูโร 2020 : ได้เวลา! ปานเดฟประกาศเลิกเล่นทีมชาติหลังจบยูโร