ทีมไหนก็อยากได้: “เมสซี่” ย้ายแล้วไปไหน ?

 

 

แล้ววันที่สาวก “อาซูลกราน่า” ทุกหมู่เหล่าไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาถึง …

 

 

 

ลีโอเนล เมสซี่ ดาวเตะกัปตันทีม บาร์เซโลน่า ตัดสินใจแล้วว่าเขาต้องการอำลาถิ่น คัมป์ นู ทันทีในซัมเมอร์นี้ พร้อมกับได้ส่งแฟกซ์แจ้งให้ทางสโมสรได้รับทราบไปแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 

 

 

 

ในสัญญาฉบับปัจจุบันมีการระบุว่า เมสซี่ สามารถขอย้ายทีมได้หลังการแข่งขันในแต่ละฤดูกาลจบลง แต่เงื่อนไขคือมันต้องเกิดขึ้น ภายในวันที่ 10 มิถุนายนของแต่ละปีเท่านั้น

 

 

 

แต่ฤดูกาลนี้ทุกอย่างแตกต่างไป เพราะแม้เส้นตายในข้อสัญญาดังกล่าวจะหมดลงไปแล้ว แต่ดาวเตะอาร์เจนไตน์ มองว่าการที่ซีซั่นนี้ทีมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เงื่อนไขดังกล่าวสามารถจะถูกขยายออกไปได้ ขณะเดียวกันสัญญาของเขา ยังมีเงื่อนไขที่ว่าสามารถยุติสัญญาฝ่ายเดียวได้เช่นกัน

 

 

 

 หมายความว่าตั้งค่าฉีกสัญญาไว้ 700 ล้านยูโร ก็ไม่มีผลอะไรถ้าเจ้าตัวต้องการย้ายทีมจริง

 

 

 

 ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แฟนบอลบาร์ซ่า ได้ออกมาประท้วงสโมสร พร้อมกับเรียกร้องให้ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสร ซึ่งหลายคนมองว่า เป็นตัวปัญหาทั้งหมด ลาออกจากตำแหน่งประธานเดี๋ยวนี้

 

 

 

ในฤดูกาลที่ผ่านมา กระแสข่าวเชี่ยวกราดเหลือเกินกับเรื่องที่ เมสซี่ นั้นมีปัญหากับ บอร์ดบริหารของบาร์ซ่า  และเป็นประเด็นมาตั้งแต่ตอนที่เขา ออกมาสวนกลับ เอริค อบิดัล ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของทีม ที่วิจารณ์ว่ามีนักเตะบางรายไม่ทุ่มเทมากพอ จากนั้นเขาก็ยังมีปัญหากับ  กีเก้ เซเตียน อดีตกุนซือ รวมไปถึงทีมงานสต๊าฟโค้ชของ เซเตียน ด้วย

 

 

 

ส่วนผลงานของทีมฤดูกาลนี้ก็ดำดื่งลงเหวตั้งแต่กลับมาเตะอีกครั้งหลังพักยาวจากโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นลาลีกา สเปน ที่โดน เรอัล มาดริด แซงคว้าแชมป์หน้าตาเฉย จน เมสซี่ ต้องออกมาบอกว่าถ้าทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็เตรียมโบกมือลาในถ้วยยุโรป ได้เลย

 

 

 ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริง เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ทัพ “อาซูลกราน่า” ต้องพบกับผลงานที่ย่าแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในถ้วยยุโรปด้วยการพ่าย บาเยิร์น มิวนิค 2-8  

 

และที่เรียกว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายก็ว่าได้ ก็คือการที่กุนซือคนใหม่อย่าง โรนัลด์ คูมัน  แสดงความชัดที่จะโละแข้งตัวหลักหลายรายออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ หนึ่งในนั้นคือ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงเพื่อนรักของเขา  นอกจากนี้ยังแจ้งให้ ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ทราบด้วยว่าจะไม่ได้รับสิทธิ์พิเศษอะไรในถิ่น คัมป์ นู อีกต่อไป นับจากนี้

 

 

ถึงเวลานี้ทุกอย่างขาดสะบั้น  และแม้ว่า บาร์เซโลน่า จะนำเรื่องสัญญาออกมากางว่า  เมสซี่ ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนี้ได้ และต้องอยู่กับทีมจนถึงปีหน้าตามสัญญา แต่นั่นมันก็เป็นแค่เรื่องในกระดาษ  เพราะใจของดาวเตะอาร์เจนไตน์ นั้นห่างออกไปไกลเกินกว่าที่จะกู่กลับแล้ว

 

 

จากนี้ไปจะมีสโมสรใดบ้างที่ มีโอกาสคว้าตัว เมสซี่ ไปร่วมทัพ เราจะพามาวิเคราะห์กัน

 

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

นี่คึอตัวเต็งอันดับ 1 ที่จะคว้า เมสซี่ ไปครอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้   ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (CAS) ตัดสินให้ “เรือใบสีฟ้า”เป็นฝ่ายชนะคำร้องอุทธรณ์  จากคดีละเมิดกฏแฟร์เพลย์ทางการเงินอย่างรุนแรง  ทำให้ ซิตี้ จะมีสิทธิ์ไปเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าตามเดิม 

 

 

            การมาที่นี่จะทำให้ เมสซี่ จะได้พบเจอเจ้านายเก่าที่ปลุกปั้นพาเขาก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกอย่างเต็มตัวอย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า ผู้ซึ่งกำลังจะเข้าสู่สัญญาปีสุดท้ายในถิ่น เอติฮัด เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีเฟร์ราน โซเรียโน่ ที่เป็นประธานบริหารของทีม ซึ่ง โซเรียโน่ ก็รู้จักเมสซี่ดี เพราะในอดีตเคยเป็นรองประธานสโมสรบาร์ซ่ามาก่อน  รวมไปถึงในแนวรุกของทีมที่มี  เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร่ เพื่อนซี้ของเมสซี่ อยู่ที่นั่นอีกคน

 

            ที่สำคัญ นี่อาจจะเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของ เป๊ป ที่จะพาทีมก้าวไปสู่การคว้าแชมป์ยุโรปให้ได้ ก่อนที่เขาจะอำลาทีมไปด้วย 

 

 

โอกาสเซ็นสัญญา 9/10

 

 

 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

หากพูดถึงเรื่องการเงิน ยูไนเต็ด ไม่เป็นรองสโมสรใดในโลกอย่างแน่นอน หากไม่เชื่อลองดูตอนที่พวกเขาถวายเงินจ่ายค่าเหนื่อยให้กับ อเล็กซิส ซานเชส ได้ 

 

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าดีลนี้จะเป็นไปได้ก็คือดาวเตะวัย 33 ปี อาจจะไม่เหมาะกับการสร้างทีม คลาสออฟ 2020 ตามที่ โซลชา ต้องการ เพราะสิ่งที่กุนซือนอร์วีเจี้ยน กำลังแสดงให้เห็นอยู่ในเวลานี้คือเขาพยายามที่จะสร้างทีมที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งเป็นแกนหลัก เพื่ออนาคตระยะยาวซะมากกว่าการดึงซูเปอร์สตาร์ที่นับถอยหลังวันแขวนสตั๊ดเข้ามาสู่ทีม

 

 

 

โอกาสเซ็นสัญญา 5/10

 

 

 

 

อินเตอร์ มิลาน

 

 

เท่าที่จำได้ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ไม่มีสโมสรไหนแสดงความชัดเจนในความต้องการคว้าตัว ลีโอเนล เมสซี่ มาร่วมทัพเท่ากับ “เนรัซซูรี่้” อีกแล้ว           

 

 

ชื่อของดาวเตะอาร์เจนไตน์ นั้นตกเป็นข่าวกับทีมแกร่งจากเมือง มิลาน มาโดยตลอด ก็เนื่องจาก สตีเว่น หยาง ประธานสโมสรชาวจีน นั้นแสดงความชัดเขนว่าต้องการดึงตัวนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกเข้ามาร่วมทัพ แม้จะต้องเสียเงินไปมากแค่ไหนก็ตาม

 

 

ขณะเดียวกัน มัสซิมิเลียโน่ มิราเบลลี่ อดีตผู้อำนวยการของสโมสร ก็ได้ยอมรับเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนว่า เมสซี่ นั้นคือเป้าหมายเบอร์ 1 ของทีมมานานหลายปี และเป็นสิ่งที่ ท่านประธานสโมสรระบุเอาไว้ตั้งแต่ช่วงเข้ามาเทคโอเวอร์ทีมแรกๆด้วยซ้ำ

 

 

อินเตอร์ นั้นเคยเสนอราคาให้กับ บาร์เซโลน่า มาแล้วหนหนึ่ง แต่ก็ต้องถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป และเชื่อว่าพวกเขาพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อคว้า ดาวเตะอาร์เจนไตน์ เข้าสู่ถิ่น จูเซปเป้ เมอัซซ่า อย่างแน่นอน ที่สำคัญคือ  Pirelli บริษัทยางรถระดับโลก   ผู้สนับสนุนหลักของสโมสรนั้นก็พร้อมจะทุ่มเงินเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อให้ฝันในครั้งนี้เป็นจริงซะด้วย

 

 

โอกาสเซ็นสัญญา 8/10

 

 

 

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

 

 

เปแอสเช คือสโมสรที่มีนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกอยู่ในทีมถึง 2 คนคือ เนย์มาร์ และ เอ็มบั๊ปเป้ แล้วทำไมพวกเขาจะมีนักเตะที่ค่าเหนื่อยที่แพงที่สุดอยู่ในทีมอีกซักคนไม่ได้ ?

 

 

มีรายงานมาตลอดเวลาว่า เนย์มาร์ ต้องการที่จะย้ายกลับไปสู่โรงเรียนเก่าอย่าง คัมป์ นู เพื่อได้กลับไปเล่นกับแข้งที่รู้ใจเขามากที่สุดคนหนึ่งอย่าง เมสซี่  แต่ถึงเวลานี้ทุกอย่างกลับตาลปัด และโอกาสที่ยอดแข้งอาร์เจนไตน์ จะย้ายมาที่กรุง ปารีส กลับมีโอกาสสูงมากกว่าแล้ว

 

 

เรื่องเงินทุนไม่ต้องพูดถึง นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสร ประกาศเอาไว้แล้ว หลังพวกเขาต้องน้ำตาร่วงในรอบชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ว่าจะทำทุกวิถีทางที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้ แล้วคุณลองคิดดูว่าหากทีมไหนก็ตามที่มี เนย์มาร์ ,เอ็มบั๊ปเป้ และ เมสซี่ เล่นด้วยกันในแนวรุก โอกาสที่จะคว้าถ้วยยุโรป จะมีมากแค่ไหน

 

 

โอกาสเซ็นสัญญา 8/10

 

 

 

 

ยูเวนตุส

 

นี่อาจเป็นฝันของแฟนบอลทุกคนที่จะได้เห็นสองสุดยอดนักเตะแห่งทศวรรษ อย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี่ อยู่ในทีมเดียวกัน และถึงเวลานี้มันก็มีโอกาสเป็นจริงซะแล้ว

 

 

ก่อนหน้านี้เชื่อว่าคงไม่มีใครคาดคิดเหมือนกันว่า ยูเวนตุส จะคว้าตัว โรนัลโด้ เข้ามาสู่ถิ่น อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว และหากครั้งนี้พวกเขาจะทำเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้า เมสซี่ มาอีกราย มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินฝัน

 

 

ปัญหาอยู่ที่ว่า อันเดรีย ปีร์โล่  กุนซือคนใหม่ของทีม นั้นพร้อมหรือไม่ที่จะคว้านักเตะอายุขนาดนี้เข้าสูสโมสร เพราะก่อนหน้านี้เขาเพิ่งทำการปฏิวัติทีมด้วยการโละแข้งรุ่นเดอะออกไปเพียบ และที่สำคัญเวลานี้ทัพ “เบียงโคเนรี่” ก็มีนักเตะในตำแหน่งนี้ ที่กำลังท็อปฟอร์มอย่าง เปาโล ดีบาล่า อยู่แล้วด้วย ทำให้แทบมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้าตัว เมสซี่ มาร่วมทัพซักเท่าไหร่

 

 

 

โอกาสเซ็นสัญญา 6/10

 

 

 

 

เมเจอร์ลีก ซ็อตเกอร์ และ ไชนีส ซูเปอร์ลีก

 

 

อาจจะเป็นเรื่องที่ยากไปหน่อยหาก ทีมใน เมเจอร์ลีก และ ไชนีสซูเปอร์ลีก จะทุ่มเงินเป็นสถิติโลกเพื่อคว้า เมสซี่ มาร่วมทัพ เพราะแรงจูงใจในเรื่องเงินน่าจะเป็นสิ่งท้ายๆ ที่แข้งดาวเตะอาร์เจนไตน์  ต้องการ

 

 

 เพราะถึงเวลานี้เจ้าตัว น่าจะมีเงินในบัญชี ที่เรียกว่าใช้ไป 10 ชาติก็ไม่มีวันหมด  ไม่ว่าจะจากเงินค่าเหนื่อย หรือรายได้จากสปอนเซอร์ที่เข้ามาไม่หยุดมาตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ค้าแข้งในถิ่น คัมป์ นู  และนี่คงเป็นตัวเลือกที่เราแทบจะตัดไปได้เลย

 

 

 

โอกาสเซ็นสัญญา 2/10

 

 

 

 

 

นีเวลล์ โอลด์ บอยส์

 

 

 

“การตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับ เมสซี่ เพื่อครอบครัว เราอยู่ในเงื่อนไขที่ดีที่สุดในบริบทของการตัดสินใจนี้ ตอนที่ ดิเอโก มาราโดน่า ย้ายมาเล่นให้เรา(1993-1994) ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้ เราเองก็เช่นกัน และเราหวังว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งกับ ลีโอ มันไม่ใช่เรื่องขายฝันนะ แต่มันอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก ทำไมแฟนบอลนีเวลส์จะฝันถึงการมีนักเตะที่ดีที่สุดในโลกมาเล่นให้เรา เวลาจะบอกเราเอง”

 

 

เมื่อช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา คริสเตียน เดอมิโก รองประธานสโมสร นีเวลส์ ได้ออกมาเปิดใจว่าเขาต้องการเห็น เมสซี่ กลับบ้านอีกครั้ง ก่อนที่จะแขวนสตั๊ด

 

 

ดาวเตะ อาร์เจนไตน์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งที่สโมสรแห่งนี้ ตั้งแต่ยังเป็นวัยเยาว์ 6 ขวบ และฉายแววยิงไปมากกว่า 500 ประตูให้กับทีมอคาเดมี่  ก่อนที่จะถูก บาร์เซโลน่า ดึงไปเข้า ลา มาร์เซีย ในวัย 14 ปี

 

 

หากการได้กลับบ้านที่ทุกคนรอต้อนรับด้วยความอบอุ่นอีกครั้ง แน่นอนว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้เขามีความสุขในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งอย่างแน่นอน  แต่ถึงเวลานี้ผู้เขียนมั่นใจว่า เมสซี่ ยังมีไฟมากพอที่พร้อมจะผจญภัยในลีกยุโรปต่อไปอีกซัก 3 ปี  และคงจะเร็วเกินไปสำหรับปลายทางที่จะกลับไปแขวนสตั๊ดที่ นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ ในเวลานี้

 

 

 

โอกาสเซ็นสัญญา 3/10

 

 

 

 

บาร์เซโลน่า

 

 

หัวใจที่ขาดสะบั้นลง ยากที่จะเชื่อมต่อกลับมาให้ดีดั่งเดิม อย่างไรก็ตาม โจเซป มาเรีย บาโตเมว ประธานสโมสรได้ยืนยันแล้วว่าจะพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อรั้งไม่ให้นักเตะระดับตำนานของสโมสรอำลาทีมแบบเลวร้ายเช่นนี้

 

 

ในช่วงเวลานี้สโมสร บาร์เซโลน่า กับ เมสซี่ อาจจะเป็นดั่ง น้ำมัน กับ เปลวไฟ ที่พร้อมเผาราดทุกอย่างให้มอดไหม้ แต่หากปล่อยเวลาไปซักพักเพื่อให้ทุกอย่างเย็นลง และนั่งคุยกันอีกครั้ง โอกาสที่ เมสซี่ จะอยู่กับทีมต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ฤดูกาลตามสัญญาที่เหลือก็มีเช่นกัน  เพราะทุกคนก็น่าจะรู้ว่าเขานั้นรักสโมสรแห่งนี้ไม่น้อยไปกว่าใครเลย 

 

 

 

โอกาสอยู่ต่อ 5/10

 

 

 

 

                                                DaboyG