ทุกปัญหามีทางออก : 5 วิธีแก้ปัญหาหลังสิงห์บลูโดนแบนห้ามเสริมทัพ

 

ปัจจุบันคงไม่มีสโมสรไหนพบกับวิกฤตครั้งใหญ่เท่ากับทีมจากอังกฤษที่มีชื่อว่า เชลซี อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหานอกสนามอย่าง การที่โรมัน อับบราฮิโมวิช เจ้าของสโมสรไม่สามารถเข้ามาในอังกฤษได้ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว หรือแผนสร้างสนามใหม่ที่เคยวางกันไว้ก็ถูกระงับอย่างไม่มีกำหนด

 

ขณะที่ผลงานของทีมก็อยู่ในขั้นติดลบ แม้จะผ่านเข้ารอบ 32 ทีมของยูโรป้า ลีกไปแล้วก็ตามเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ แต่รวมๆแล้วทีมก็ยังดูไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร, เมาริซิโอ ซาร์รี่ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังพาทีมผลงานแย่หรือแท็คติกที่ไม่มีความยืดหยุ่น, นักเตะเบอร์หนึ่งในทีมอย่าง เอเด็น อาซาร์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะต่อสัญญา และอาจจะย้ายทีมในฤดูกาลหน้า แต่เรื่องแย่ๆ มันยังไม่หมดแค่นั้น

 

สิงห์บลูเป็นสโมสรล่าสุดที่โดนโทษแบนห้ามเสริมทัพในตลาดนักเตะถึง 2 รอบ หรือ 1 ฤดูกาลเต็มๆ หลังละเมิดกฏการซื้อขายดาวรุ่งอายุต่ำกว่า 18 ปีของฟีฟ่า  และถูกปรับเป็นเงินมากกว่า 460,000 ปอนด์

 

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เชลซีโดนโทษเช่นนี้ และทีมดังระดับโลกอย่าง บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก มาดริด หรือ เรอัล มาดริด ก็เคยโดนมาแล้วเช่นกัน แต่ทุกปัญหามีทางออกเสมอ เรา UFA ARENA จึงของเสนอวีธีแก้ปัญหาในเรื่องนี้หลังจากที่สิงห์บลูโดนแบบไปแล้ว

 

 

ปล่อยให้ซาร์รี่พิสูจน์ฝีมืออีกปี

 

 

กุนซือชาวอิตาเลียนมีข่าวว่าจะโดนปลดในเร็วๆนี้ หากผลงานของทีมยังไม่กระเตื้องขึ้น แต่ทันทีที่มีข่าวนี้เกิดขึ้น ผู้บริหารของทีมคงต้องตัดสินใจกันใหม่เกี่ยวกับอนาคตของเมาริซิโอ ซาร์รี่แล้วล่ะ

 

ฤดูกาลนี้ทีมอาจจะได้ลุ้นแค่ คาราบาว คัพ  (ซึ่งพ่ายจุดโทษแก่เแมนซิตี้) กับ บอลยุโรปถ้วยเล็กก็จริง แต่หากถ้าทีมไล่ซาร์รี่ออกจริง ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะคว้ากุนซือชื่อดังมาร่วมทีมงานที่ลอนดอนได้ เพราะไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนหรอกที่อยากเข้ามาทำงานในทีมที่ไม่สามารถซื้อขายนักเตะที่เขาต้องการได้ แม้จะมีเงินมากมายแค่ไหนก็ตาม

 

เพราะฉะนั้นนี่เป็นโอกาสเหมาะเจาะที่อดีตกุนซือนาโปลีจะได้พิสูจน์ฝีมืออีกครั้ง หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์มาพอสมควรในฤดูกาลแรกที่อังกฤษ ไม่แน่เขาอาจจะพาเชลซีคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 7 ก็เป็นได้ ลองดูเป็ป กวาร์ดิโอล่ากับแมนซิตี้เป็นตัวอย่างสิ

 

 

ให้โอกาสดาวรุ่ง(จริงๆ)

 

 

เชลซีถือเป็นสโมสรที่มีดาวรุ่งมากพรสวรรค์อยู่ในทีมมากมาย สำหรับฟุตบอลในยุคใหม่นี้ แต่น้อยคนนักที่จะได้แจ้งเกิดในชุดใหญ่ เพราะสิ่งที่พวกเขาทำเป็นประจำคือ ดองนักเตะเหล่านั้น ไม่ก็ปล่อยยืมไปเรื่อยๆ จนบางคนได้ดิบได้ดีกับทีมอื่นๆมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู (น่าจะได้ดีมั้ง) หรือชื่อชั้นรองมาหน่อยอย่าง เบอร์ทราน ตราโอเร่, นาธาน อาเก้ ก็โชว์ฟอร์มได้ดีจนอดเสียดายแทนพวกเขาไม่น้อย

 

ณ ตอนนี้ เชลซีก็ยังไม่ขาดแข้งอายุน้อยที่มากความสามารถอยู่ ไม่ว่าจะเป็น คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, เคเนดี้, แทมมี่ อิบราฮิม, ชาร์ลี มูซอนด้า, เอธาน อัมปาดู และอีกหลายคนที่ไม่กล่าวถึง ซึ่งพวกเขามีแววไม่น้อยที่จะมีโอกาสโชว์ฝีเท้าในทีมชุดใหญ่อยู่แล้ว

 

และช่วงเวลาที่พวกเขาโดนแบนจากตลาดนักเตะ ทำไมไม่ลองใช้นักเตะดาวรุ่งแบบจริงจังบ้างล่ะ?  แน่นอน พวกเขาอาจจะต้องใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ซักระยะนึง แต่ละคนอาจจะมากน้อยไม่เท่ากัน แต่พวกเขาเหล่านั้นสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ เชลซีก็ไม่ต้องมานั่งเสียดายเหมือนครั้งที่เสียเดอ บรอยน์หรือ ลูกากูไปอีกแล้วล่ะ

 

 

เปลี่ยนนโยบายปล่อยยืมซะ

 

 

ในฤดูกาลนี้เชลซีคือสโมสรที่ปล่อยยืมนักเตะให้ทีมทั่วโลกถึง 41 คน มากที่สุดในยุโรป อาจจะในโลกด้วยซ้ำ ซึ่งนักเตะเหล่านี้สามารถจัดเป็นทีม 11 ตัวจริงได้เกือบๆ 4 ชุดเลย และนักเตะที่พวกเขาปล่อยยืมไปมีตั้งแต่ดาวรุ่ง เช่น แทมมี่ อิบราฮิม,ชาร์ลี มูซอนด้า ไปจนถึงนักเตะมีชื่อแล้วอย่าง อัลบาโร่ โมราต้า, ติมูเอ้ บากาโยโก้ หรือ มิตชี่ บัตชูอายี่ เลย

 

อย่างไรก็ตาม แม้การโดนแบนจะไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสำหรับเชลซีนัก แต่นี่ถือเป็นโอกาสอันมีค่าของนักเตะเหล่านั้นที่จะได้กลับมาพิสูจน์ฝีเท้าให้ตอนสังกัดที่แท้จริงอีกครั้ง ซึ่งในจำนวน 41 คนนั้นมีนักเตะที่มีฝีมืออยู่ไม่น้อยเลย และอาจจะช่วยให้สิงห์บลูกลับมาบินสูงอีกครั้งในฤดูกาลหน้า

 

หากเชลซียอมเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ดูซักตั้ง ยังไงทั้งสองฝ่ายก็มีแต่ได้กับได้ นักเตะมีความสุขกับการได้ลงสนาม ส่วนสโมสรก็มีนักเตะฝีเท้าดีให้เลือกใช้ แถมถ้าใครโชว์ฟอร์มได้ดี พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับการได้นักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม จริงมั้ยล่ะ?

 

 

ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ

 

 

แต่ถ้าทีมของเสี่ยหมีไม่สามารถรอได้ถึง 1 ปีสำหรับการซื้อนักเตะใหม่เข้ามาจริงๆ เนื่องจากนักเตะในทีมเหล่านี้ดูไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ, ไม่มีแรงจูงใจในการเล่น หรือเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ทางออกที่หลายๆฝ่ายมองไว้ก็คือ การยื่นอุธรณ์กับฟีฟ่า จากนั้นค่อยไปร้องกับศาลกีฬาโลกหากไม่ได้ลดโทษแบนตามที่ต้องการ

 

อย่างไรก็ตามการขอลดหลั่นโทษนั้นไม่ใช่เรื่องที่สโมสรกับฟีฟ่าจะเคลียร์กันได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน เพราะกินเวลาอย่างเร็วที่สุดเกือบปี แต่อย่างน้อย หากอยู่ในช่วงรอผลอุทธรณ์ก็อาจเป็นการซื้อเวลา ทำให้ทีมยังมีโอกาสรีบซื้อนักเตะเข้ามาได้ในช่วงเปิดตลาดซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

 

 

ศึกษาทีมที่โดนแบนมาก่อน

 

 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เชลซีไม่ใช่ทีมแรกที่ห้ามซื้อนักเตะเข้ามา เพราะฉะนั้นการเตรียมการที่ดีที่สุดคือการศึกษาทีมที่เคยโทษแบนเคสเดียวกันมาก่อน นั่นก็คือ บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก มาดริด และ เรอัล มาดริด

 

ในกรณีของเรอัล มาดริด เชลซีควรศึกษาช่องทางและวิธีการในการลดหลั่นโทษแบบที่ โลส บลังโกสเคยทำได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องดูวิธีที่บาร์ซ่าและตราหมีใช้ในช่วงวิกฤตแบบนี้ด้วย

 

โดยเฉพาะทีมของดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ที่ต้องพบเจอสถานการณ์เดียวกับเชลซีตอนนี้ เนื่องจากทันทีที่พวกเขาโดนโทษแบนแล้ว นักเตะตัวเก่งอย่าง อองตวน กรีซมันน์ ยังมีข่าวย้ายทีมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยังรั้งแข้งดังให้ค้าแข้งอยู่กับทีมต่อไปได้จนถึงตอนนี้ ถ้าหากซาร์รี่สามารถทำให้อาซาร์อยู่กับทีมได้เช่นนั้นจริงๆ แฟนๆเชลซีคงมองเขาในมุมที่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม