ทุ่มเงินไม่ช่วยอะไร: ทำไมสิงห์บูล์สเปิดฉากฤดูกาลนี้ไม่สวยงาม

 

ก่อนที่ฤดกาลนี้จะเปิดฉากขึ้น เหล่าแฟนบอลจากทั่วโลก ต่างจับจ้องไปที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ฤดูกาลที่พวกเขาทุ่มเงินไปกว่า 240 ล้านปอนด์  เสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

 

 

 แต่ถึงเวลานี้จากผลงานที่ออกมา ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ยังไม่ได้แสดงให้เห็นทางที่จะไปสู่ความสำเร็จในบั้นปลายได้เลย  ทั้งที่พวกเขาถูกยกเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้ลุ้นแชมป์ก็ตาม  

 

 

 

แม้พรีเมียร์ลีกเกมล่าสุดจะเพิ่งบ้านถล่มเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 4-0 แต่แทบทุกประตูนั้นต่างเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือนทั้งสิ้น ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขานั้นต้องพ่าย ลิเวอร์พูล คาบ้าน ซ้ำยังไล่ตามตีเสมอน้องใหม่อย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-3 ก่อนที่จะต้องตกรอบ คาราบาว คัพ ด้วยการพ่าย ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส นั่นคือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับทีมที่เสริมทัพตัวผู้เล่นมากมายขนาดนี้   

 

 

ผิดตรงไหนก็ไม่รู้สำหรับ แลมพ์ และทัพ สิงห์บูล์ส งั้นวันนี้เราจะลองมาชำแหละดูกันว่า ทำไมเชลซี ถึงไม่เป็นดั่งหวังในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ 

 

 

เกมรับที่เล่นกันย่ำแย่สุดๆ 

 

หากคุณได้ชมเกมที่ทัพ สิงห์บูล์ส โดน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซัดในครึ่งแรก 3 ประตู ทุกคนคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือจุดที่ทีมจำเป็นต้องแก้ไขโดยด่วน  รีช เจมส์ ยังแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีอะไรเหนือกว่า เซซาร์ อัซปิลิกัวเอต้า ในตำแหน่งแบ็กขวา 

 

ส่วนแบ็กซ้ายเมื่อเวลานี้ ยังใช้งาน เบน ชิลเวลล์ ไม่ได้ กับกลายเป็นว่า มาร์กอส อลอนโซ่ ยังคงเป็นบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ต่อไป ส่วนคู่เซ็นเตอร์ การประเดิมสนามที่เปรียบดั่งฝันร้ายของ ติอาโก้  ซิลวา เชื่อว่าจะทำให้เขาต้องใช้เวลาปรับตัวอีกซักระยะ

 

ขณะที่ เคิร์ต ซูม่า ,อันเดรียส คริสเตียนเซ่น หรือ ฟิกาโย โทโมริ ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าดีพอสำหรับทีมเลย ไม่ต้องนับถึง อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่กำลังจะลาทีมไป และหากจะบอกว่านี่คือปัญหาที่ใหญ่สุดของทีมในเวลานี้คงไม่แปลก

 

 

ยังหาตำแหน่งที่ดีที่สุดของนักเตะตัวเองไม่ได้ 

 

 

 

จากประวัติศาสตร์ของทีมที่ประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก ทุกสโมสรจำเป็นต้องมีแกนหลักของทีม ที่สามารถฝากความหวัง และสามารถยืนระยะได้แบบยาวๆแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ 11 ตัวจริงของ แลมพาร์ด นั้นเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านักเตะในทีมตัวเองนั้นเล่นได้แข็งแกร่งที่สุดตรงไหนในสนาม

 

 

ตลอดระยะเวลา 41 นัดที่ แลมพาร์ด คุมเชลซี ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน เขาเลือกผู้เล่นแนวรับใช้งานสลับไปสลับมาถึง 20 คน ขณะที่ฤดูกาลนี้ กองกลางของทีมนั้นมีการเปลี่ยนมา 3 หนแล้ว  ส่วนแนวรุก ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงตัวความหวังที่ซื้อมาใหม่ เริ่มต้นกับทีมในฐานะหมายเลข 9 หรือตำแหน่งหน้าเป้า แต่ผ่านไปไม่นานเขาก็ถูกเขยิบมาเล่นในตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้ายบ้าง ฝั่งขวาบ้าง 

 

 

แต่ที่แสดงให้เห็นว่าสับสนที่สุดก็คือ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จอมทัพทีมชาติเยอรมนี ที่ทีมคว้ามาด้วยค่าตัวสถิติสโมสร ถึงเวลานี้ยังดูเหมือนว่าจะปรับตัวเข้ากับทีมไม่ได้ซะงั้น และตำแหน่งที่ดีที่สุดอยู่ตรงไหน  นี่คือสิ่งที่ แลมพาร์ด ต้องค้นหาให้เจอโดยเร็วที่สุด 

 

 

ร่ำร้องหาตำแหน่งกองกลางตัวรับ  

 

 

ในระบบ 4-2-3-1 ของ เชลซี นั้นมีหนึ่งตำแหน่งที่ แลมพาร์ด ต้องการมาเนิ่นนานนั่นก็คือ ตำแหน่งกองกลางตัวโฮลบอล ที่อยู่หน้าแนวรับของทีม ซึ่งตำแหน่งนี้ เขาไม่ต้องการใช้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลงไปเล่นเนื่องจากมองว่า ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส นั้นเคลื่อนที่ได้ดีเกินกว่าจะมายืนตัวต่ำ  

 

 

ส่วน มัตเตโอ โควาซิช นั้นดูเหมือนจะเขยิบไปเล่นในเกมรุกซะมากกว่า ขณะที่ จอร์จินโญ่ ที่นอกจากการจ่ายบอลแม่นยำในระยะสั้น ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวเชื่อมเกมซะมากกว่า  นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม แลมพาร์ด ถึงต้องการ ดีแคลน ไรซ์ มาร่วมทัพ แม้ว่าจะถูกตั้งค่าตัวสูงถึง 70 ล้านปอนด์  เพราะอาจจะมองว่าเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายนั่นเอง 

 

 

 

นักเตะใหม่ยังต้องใช้เวลาปรับตัว 

 

 

  การคาดหวังว่าเมื่อเซ็นสัญญาแข้งใหม่เข้ามา แล้วทีมจะลื่นไหลไร้รอยต่อ แม้ว่าแข้งเหล่านั้นจะเป็นแข้งระดับบิ๊กเนม ที่ถูกทุ่มเงินซื้อมาจากสโมสรอื่น นั้นเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ เพราะนี่คือเรื่องจริง ไม่ใช่เกม FM หรือ ฟีฟ่า ที่จะง่ายขนาดนั้น  

 

 

ฮาเวิร์ตซ์ ค่าตัว อยู่ที่ 89 ล้าปนอนด์ ,ติโม แวร์เนอร์ 53 ล้านปอนด์ ,เบน ชิลเวลล์ 50 ล้านปอนด์ ขณะเดียวกัน ฮาคิม ซิเยค ที่ซื้อมา 36 ล้านปอนด์ ก็ยังไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ หรืออย่าง เอดูอาร์ด เมนดี้ นายทวารที่ย้ายมาเพื่อเข้ามากดดันฟอร์มการเล่นของ เกปา อาร์ริซาร์บาลาก้า  ทุกคนต่างต้องการเวลาในการปรับตัว และเชื่อว่าทุกอย่างคงไม่ลงตัวในเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน เผลอๆอาจต้อง 6 เดือนเป็นอย่างน้อย 

 

 

 

หลายแข้งยังดีไม่พอสำหรับทีม

 

 

กำลังสำรองคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในระยะยาว แต่จากที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่แสดงให้เห็นว่ายังมีหลายแข้งที่ดูแล้ว ไม่ได้ดีพอที่ช่วยแก้สถานการณ์ของเกมได้ และส่อแววโดนโละออกจากทีมก่อนตลาดจะปิด ไม่ว่าจะเป็น  มาร์กอส อลอนโซ่ ,อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ,เอเมอร์สัน ปัลมิเอรี่ ,ติเอมูเอ บากาโยโก้ และ รูเบน รอฟตัสชีค หลังก่อนหน้านี้ก็ปล่อย รอส บาร์คลีย์ ไปให้กับ แอสตัน วิลล่า ยืมตัวมาแล้ว

 

 

 

ทำสงครามเย็นกับนักเตะตัวเอง 

 

 

ดูเหมือนว่า แลมพาร์ด นั้นจะมีปัญหากับนักเตะตัวเองหลายคนในช่วงเวลาที่ผ่านมา อย่างล่าสุดก็ มาร์กอส อลอนโซ่ ซึ่งเขานั้นโมโหฟอร์มวิงแบ็กชาวสเปนอย่างหนักในเกมที่เจ๊า เวสต์บรอมวิช นอกจากนี้ยังมีปัญหากับ รือดิเกอร์ รวมไปถึงยังเคยขับไล่ ลุยซ์ ออกจากทีมทีมเมื่อฤดูกาลก่อนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่เขาจำเป็นต้องสะสางโดยด่วน  เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมานักต่อนักแล้วในการมีปัญหากับนักเตะสุดท้ายจบไม่สวยซักราย

 

ปัญหาอาการบาดเจ็บตามเล่นงาน 

 

 

 

เชลซี เปิดฉากฤดูกาลนี้ แบบที่ทีมยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก เพราะทั้ง คริสเตียน พูลิซิช หมายเลข 10 คนใหม่ หรือแข้งที่เพิ่งซื้อมาอย่าง ฮาคิม ซิเยค รวมไปถึงดาวรุ่งอย่าง บิลลี่ กิลมัวร์ นั้นต่างได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้นและยังไม่ได้เล่นให้กับทีมเลย และบางทีอาจต้องรอให้ทีมนั้นสมบูรณ์เต็มสูบก่อนที่จะตัดสินว่า แลมพาร์ด นั้นดีพอสำหรับทัพ สิงห์บูล์ส หรือไม่ 

 

 

 

                                               DaboyG

 

 

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-8788813/Where-going-wrong-Frank-Lampard-big-spending-Chelsea.html