มีรายงานว่าเดอะแม็กพายใกล้ที่จะขายสโมสรให้กับกลุ่มทุนของโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียในราคา 300 ล้านปอนด์
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บินซาลมานแห่งซาอุดีอาระเบียได้ขอซื้อสโมสรนิวคาสเซิลยูไนเต็ดจากไมค์ แอชลี่ย์เจ้าของคนปัจจุบัน ในราคา 300 ล้านปอนด์ โดยดีลดังกล่าวใกล้จะได้บทสรุปเต็มที
บินซาล เป็นหัวหน้ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกองทุนความมั่งคั่งอธิปไตยของซาอุดิอาระเบียและยังเป็นพันธมิตรกับนักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอังกฤษอย่างสองพี่น้องตระกูลรูเบนอีกด้วย
เช่นเดียวกับ อแมนด้า สเตฟลีย์ นักธุรกิจสาวของเมืองผู้ดีที่เป็นพาร์ทเนอร์ของกลุ่มทุนของโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าชายบินซาลมานให้เป็นคนดูแลเรื่องการเจรจากับแอชลีย์ในการยื่นข้อเสนอให้สาลิกาดงพิจารณา
สเตฟลีย์ เคยมีส่วนร่วมในการช่วยให้กลุ่มอาบูดาบีครอบครองสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในปี 2008 และนับตั้งแต่นั้นมาเรือใบสีฟ้าก็กลายเป็นทีมแถวหน้าของประเทศและของยุโรป
สำหรับกองทัพ ทูนอาร์มี่ คงจะตื่นเต้นน่าดูชมเลยทีเดียว? ใช่เลย บินซาลมาน พร้อมแล้วที่จะยุติการครองราชย์อันยาวนานของแอชลีย์ในช่วง 13 ปี และจะนำเม็ดเงินจำนวนมหาศาลถึง 7 พันล้านปอนด์ มาให้กับสโมสรจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เริ่มต้นปฏิวัติสร้างทีมกันใหม่
ความร่ำรวยที่เขามีนั้น จะทำให้เจ้าตัวติดท็อปลิสต์ลำดับ 4 ในรายชื่อเศรษฐีของเจ้าของสโมสรระดับพรีเมียร์ลีกและพร้อมผลักดันให้นิวคาสเซิลก้าวไปเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ให้จงได้
นอกจากบินซาลมานจะติดอยู่ที่ 4 ของรายชื่อเจ้าของที่รวยที่สุดในพรีเมียร์ลีกแล้ว แต่ยังมีหาเศรษฐีอีกหลายรายที่อยู่ในสถานะเดียวแบบเขา
ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปส่องกันหน่อยว่า เจ้าของที่รวยที่สุด 10 อันดับแรกในพรีเมียร์ลีกมีใครกันบ้าง
10.เซาแธมป์ตัน
เกา จีเฉิง – มูลค่า 3.1 พันล้านปอนด์
ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้ซื้อสโมสรในราคา 210 ล้านปอนด์เมื่อ 3 ปีก่อน แต่เซาแธมป์ตันต้องดิ้นรนอย่างหนักกับการหนีตกชั้นตั้งแต่เขาเข้ามาครอบครอง ส่วนอันดับในตารางพรีเมียร์ลีกของทีมนักบุญในขณะนี้ พวกเขาอยู่ห่างจากโซนตกชั้นอยู่พอสมควร
ดูเหมือนว่า จีเฉิง ต้องการลาออกจากการเป็นเจ้าของในถิ่นเซนต์แมรี่ส์ และเขาได้วางแผนขายกิจการสโมสรเอาไว้แล้ว โดยวางราคาไว้ที่ 250 ล้านปอนด์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
9.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ตระกูลเกลเซอร์ – มูลค่า3.6 พันล้านปอนด์
เมื่อพิจารณาจากสถานะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่น่าแปลกใจที่ปีศาจแดงตกลงมาอยู่ในอันดับนี้
การเข้ามาบริหารของตระกูลเกลเซอร์ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลเร้ด เดวิลส์สักเท่าไรนับตั้งแต่ฮุบกิจการเต็มรูปแบบในปี 2005 นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แฟนบอลกลุ่มหนึ่งแยกตัวออกมา และสร้าง ทีมเอฟซี ยูไนเต็ด แห่งแมนเชสเตอร์ขึ้นมาเพื่อทำการประท้วง
ฤดูกาลที่ผ่านมามีเศรษฐีหลายรายยื่นเรื่องขอซื้อสโมสรจากเจ้าของชาวอเมริกัน ซึ่งพวกเขาได้ตั้งราคาไว้สูงถึง 1 พันล้านปอนด์ ส่วนการเจรจาต่างๆนั้นมีอันต้องสะดุดลง เพราะคู่หูแดนมะกัน มองดูแล้วว่าไม่มีใครมีศักยภาพมากพอ
8.ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์
โจ ลูวิส – 3.9 พันล้านปอนด์
หลายต่อหลายคนอาจนึกว่า แดเนียล เลวี่ เป็นเจ้าของสโมสรสเปอร์ส แต่จริงๆแล้วเจ้าของตัวจริงก็คือ โจ ลูวิส นักธุรกิจชาวอังกฤษที่ควบคุมกิจการทุกอย่างในบ้านหลังนี้
ลูอิสเป็นนักลงทุนหลักในกลุ่มทาวิสต็อกและเพิ่งได้รับการพาดหัวข่าวท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าว่าเขาเลือกที่จะลดค่าแรงของพนักงานในสโมสร แต่บรรดานักเตะและทีมงานโค้ชยังคงได้ค่าแรงเต็มจำนวน
7.เลสเตอร์ ซิตี้
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา – มูลค่า 4.6 พันล้านปอนด์
นักธุรกิจชาวไทยมีธุรกิจเกี่ยวกับด้านค้าปลีกในกลุ่มคิงพาวเวอร์และขึ้นไปเป็นเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ แทนพ่อวิชัยที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกหลังเกมที่สุนัขจิ้งจอกเปิดบ้านเสมอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ในปี 2018
ก่อนที่เขาจะจากไปเสี่ยวิชัยเคยเป็นเจ้าของทีมจิ้งจอกสยาม หลังเข้าเทคโอเวอร์ในปี 2011 เขาพาสโมสรระดับกลางๆก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกดังเทพนิยายในฤดูกาล 2015/16
6.วูล์ฟแฮมป์ตัน
โฟซุน อินเตอร์เนชั่นแนล / กั่ว กวงฉาง – มูลค่า 5.4 พันล้านปอนด์
กวงฉาง เป็นคนที่รวยที่สุดลำดับที่ 50 ในประเทศจีน เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มการลงทุน โฟซุน ที่ซื้อสโมสรวูล์ฟแฮมป์ตัน จากเดอะ แชมเปี้ยนชิพเมื่อ 3 ปีที่แล้วในราคา 45 ล้านปอนด์
ตั้งแต่นั้นมาหมาป่าได้รับการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก และจบเป็นอันดับที่ 7 ของตารางเป็นรองแค่กลุ่มบิ๊ก 6 และได้ไปเตะในถ้วยยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปีของสโมสร
5.แอสตัน วิลล่า
นาสเซฟ ซาวิริส, เวส อีเดนส์ – มูลค่า 6.6 พันล้านปอนด์
ทั้งคู่ซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ วิลล่า ในปี 2018 นาสเซฟ เป็นคนที่รวยที่สุดในโลกลำดับที่ 252 และเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอียิปต์ซึ่งคาดว่าเขาน่าจะมีทรัพย์สินรวมกันกว่า 36 พันล้านปอนด์
นาสเซฟ เป็นหนึ่งในสามพี่น้องที่ควบคุมกลุ่มออราสคอม ซึ่งเป็นกลุ่ม บริษัท ที่ดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยว,การก่อสร้างและการสื่อสารโทรคมนาคม
นักธุรกิจชาวอเมริกัน อีเดนส์ เชี่ยวชาญด้านการจัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยงและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสิงห์ผงาด นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของร่วมของทีมมิลวอกี้ บัคส์ ในศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ
4.นิวคาสเซิล
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน – มูลค่า 7 พันล้านปอนด์
บิน ซัลมาน เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ซาอุดิและเป็นประธานในกองทุนการลงทุนสาธารณะของซาอุดิอาระเบีย และจะเข้าควบคุมกิจการของนิวคาสเซิล 80% หากการเทคโอเวอร์เป็นจริง
ความมั่งคั่งส่วนตัวของเจ้าชายนั้นมีมูลค่าถึง 7 พันล้านปอนด์ แต่มูลค่าโดยรวมของกลุ่ม พับลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์นั้นคิดว่าน่าจะเป็นเงิน 260 พันล้านปอนด์
3.อาร์เซนอล
สแตน โครเอ็นเก้ – มูลค่า8 พันล้านปอนด์
แม้จะมีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก แต่เจ้าของ เดอะกันเนอร์ก็ตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องอัดฉีดเงินจำนวนไม่น้อยให้กับผู้เล่นและทีมงานสต๊าฟโค้ชในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม
เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งของเขา โครเอ็นเก้ ถูกตำหนิว่าไม่ค่อยลงทุนในตลาดซื้อขายตัวผู้เล่นสักเท่าไร ซึ่งทำให้แฟน ๆ อาร์เซนอลผิดหวังมาก
ในทางกลับกันดูเหมือนว่าเจ้าของชาวอเมริกันรายนี้จะไปใส่ใจกับการจ่ายเงินสดเพื่อจัดการกับสินทรัพย์ของตัวเองในอีกด้านหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก
นอกจากปืนใหญ่แล้ว โครเอ็นเก้ ยังเป็นเจ้าของทีม อเมริกันฟุตบอลอย่างลอสแองเจลิส แรมส์, เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ในบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอและ โคโลราโด อวาแลนช์จาก ลีกฮอกกี้น้ำแข็ง
2.เชลซี
โรมัน อบราโมวิช- มูลค่า 9.2 พันล้านปอนด์
ดูเหมือนว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ เคน เบตส์ ขายสโมสรให้กับ อบราโมวิช ในราคา 140 ล้านปอนด์และจุดประกายความหวังให้ผู้เล่นหลายคน จนทำให้สโมสรของพวกเขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ในรอบเกือบ 50 ปี
17 ปีแล้วที่มหาเศรษฐีชาวรัสเซียเข้ามาทำธุรกิจในพรีเมียร์ลีก โดยการเซ็นสัญญานักเตะคนแรกของเขานั้นเป็นใครกัน พอจะมีใครทราบบ้างไหม? ซึ่งแข้งคนนั้นก็คือแบ็กขวาอย่าง เกล็น จอห์นสันที่ซื้อจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้วยราคา 6 ล้านปอนด์
มีการเปลี่ยนแปลงมากมายตั้งแต่นั้นมาหลังจากความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีก จากนั้นสิงห์บลูส์ก็ยังเพิ่มเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกอีก 3 สมัยและได้ถ้วยเอฟเอคัพถึง 5 ครั้งรวมไปถึงการชูถ้วยแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสรที่พวกเขายังไม่เคยสัมผัสมาก่อน
1.แมนเชสเตอร์ซิตี้
กลุ่มอาบูดาบี / ชีคแมนซูร์ – มูลค่า 17.7 พันล้าน
คงไม่มีใครแล้วที่จะร่ำรวยเท่ากับชายแห่งเอติฮัด ความมั่งคั่งที่รวมกันของชีคแมนซูร์และกลุ่มอาบูดาบีนั้นมีมากกว่า อบราโมวิชเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว
แมนซูร์ เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลอาบูดาบีและเป็นรองนายกรัฐมนตรีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และถ้าจะพูดว่าเจ้าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีอิทธิพลอย่างมากกับสโมสรแห่งนี้คงเป็นเรื่องที่ไม่เวอร์เกินไป
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 12 ปีที่แล้วกลุ่มทุนของเขาได้อัดฉีดงบประมาณไปมากมายโดยเฉพาะค่าเหนื่อยของผู้เล่นภายในทีมที่แมนซูร์ ต้องจ่ายนั้น เข้าใกล้แตะหลัก 1 พันล้านปอนด์เข้าไปทุกที