นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ เป็นหนึ่งในเกมสุดมันส์ที่แฟนบอลหลายคนตั้งตารอในทุกฤดูกาลที่ผ่านมา และได้มอบช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมให้ทั้งแฟน ๆ อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ในการพบกันล่าสุดครั้งที่ 204 กลายเป็นทีม ‘ปืนใหญ่’ ที่ได้เฮ หลังเปิด เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ถล่ม ‘ไก่เดือยทอง’ ไป 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 10 แซงหน้า สเปอร์ส ที่ 11 โดยมีลูกได้เสียดีกว่า
แน่นอนว่าแต้มที่ได้จากผลการแข่งขันอาจไม่ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แต่ชัยชนะในเกมแห่งศักดิ์ศรีแบบนี้ย่อมมีค่ามากกว่าสิ่งใดในสายตาของ เหล่า ‘กูนเนอร์ส’ หรือ ‘ยิด อาร์มี่’
UFA ARENA จึงขอพาไปพบกัน 10 เหตุการณ์แห่งความทรงจำในศึก นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ฟรีคิกของ แกสซ่า | ปี 1991
พอล แกสคอยน์ ดาวเตะระดับตำนานของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ครั้งหนึ่งก็เคยเป็นตัวแสบในสายตาแฟน ‘ปืนใหญ่’ หลังทั้ง 2 ทีมได้โคจรมาพบกันในศึก เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศฤดูกาล 1990-91
เริ่มเกมได้เพียง 5 นาที แกสซ่า ก็ทำให้เหล่า ‘ยิด อาร์มี่’ เฮกันลั่นสนามเวมบลี่ย์ หลังกดฟรีคิกสุดสวยให้ ไก่เดือยทอง ขึ้นนำไป 1-0 ก่อนโชว์ฟอร์มเด่นตลอดเกมให้ทีมเอาชนะอริร่วมเมืองไป 3-1 ช่วยให้ทีมเข้าชิง พร้อมคว้าแชมป์ในบั้นปลายเหนือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเวลาต่อมา
อองรีโซโล่ | ปี 2002
ไม่มีใครปฏิเสธถึงความยอดเยี่ยมของ เธียร์รี่ อองรี ในช่วงที่ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล และแม้แต่แฟนบอลของ สเปอร์ส เองก็ต้องยอมรับถึงความเก่งกาจของ ตำนานดาวยิง ‘ปืนใหญ่’ ผู้นี้
ในบรรดาประตูทั้งหมด 5 ลูกที่หอกชาวฝรั่งเศสยิงใส่ ‘ไก่เดือยทอง’ ไม่มีลูกไหนที่น่าจดจำเท่ากับปี 2002 แล้วที่ลากเลื้อยโซโล่คนเดียวตั้งแต่กลางสนาม ก่อนหลบแนวรับคู่แข่งและยิงด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมดีใจด้วยท่าสไลด์เข่าอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกนำมาสร้างเป็นแบบรูปปั้นของ อองรี หน้าสนาม เอมิเรสต์ สเตเดี้่ยม ด้วย
9 ประตูในเกมเดียว | ปี 2004
การแข่งขันในพรีเมียร์ลีก ขึ้นชื่อว่าเป็นการดวลกันระหว่างกุนซือจอมแท็คติกและยอดนักเตะ ซึ่งใครที่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำก่อนอาจพบความพ่ายแพ้ได้ทุกเมื่อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไปอย่างเช่นในเกมที่ อาร์เซน่อล บุกไปเยือน สเปอร์ส ถึง ไวท์ ฮาร์ท เลน ในปี 2004
‘ปืนใหญ่’ ถูกยิงขึ้นนำไปก่อน แต่สุดท้ายพวกเขาก็เป็นคว้าชัยไปครอง พร้อมด้วยการแข่งขันสุดมันส์กับ 9 ประตูที่เกิดขึ้นภายในเกมเดียว พร้อมถูกยกให้เป็นเกม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ที่ทำประตูกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาเคยพบกันในรอบ 112 ปี
การันตีแชมป์ไร้พ่ายในรังไก่ | ปี 2004
การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายในฤดูกาล 2003-04 ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมแล้วสำหรับ อาร์เซน่อล แต่ที่ทำให้เหล่าแฟน ‘กูนเนอร์ส’ ฟินยิ่งกว่านั้นคือการการันตีแชมป์ในรังเหย้าของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในเกมดาร์บี้
‘ยิด อาร์มี่’ อาจกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ เมื่อทีมของพวกเขาที่ตามหลัง 2-0 สามารถตามตีเสมอได้สำเร็จจากจุดโทษของ ร็อบบี้ คีน ในช่วงทดเวลาครี่งหลัง แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดยั้งให้ ‘ปืนใหญ่’ ได้ฉลองกับความสำเร็จในฤดูกาลนั้นแต่อย่างใด
ประตูมหัศจรรย์ของ เบนท์ลี่ย์ | ปี 2008
ดาวิด เบนท์ลี่ย์ เป็นหนึ่งในกองกลางมากพรสวรรค์ที่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นยอดแข้งได้อย่างที่หลายคนคาดหวัง แต่ย้อนกลับไปในช่วงพีกๆก็ไม่มีใครใน สเปอร์ส ที่โดดเด่นไปมากกว่าเขาแล้ว
ปีก ‘ไก่เดือยทอง’ ยิงนัดเปิดสนามในเกมดาร์บี้ลอนดอนเหนือ ด้วยลูกวอลเลย์สุดสวยระยะ 43 หลา หมดสิทธิ์ที่ เอ็มมานูเอล เอมมูเนีย จะป้องกันได้ ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยผลเสมอสุดมันส์ 4-4 แม้ สเปอร์ส จะตกเป็นฝ่ายตามหลังตลอดในเวลาต่อมาก็ตาม
ชัยชนะที่คุ้มค่าการรอคอย | ปี 2008
ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ปี 199 จนถึงเดือนมกราคมปี 2008 เป็นช่วงเวลาที่ สเปอร์ส ไม่สามารถเอาชนะทีมอริร่วมเมืองลอนดอนเหนือได้เลยแม้แต่หนเดียว
แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงในเกมเลก 2 ของลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ ‘ไก่เดือยทอง’ ภายใต้การดูแลของ ฆวนเด้ รามอส ที่เสมอไปในเกมแรก 1-1 กลับโชว์ฟอร์มกระฉูดถล่ม อาร์ซน่อล ด้วยสกอร์ 5-1 ก่อนก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ในบั้นปลายเหนือ เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศ และกลายเป็นแชมป์เมเจอร์รายการสุดท้ายที่สโมสรทำได้จนถึงปัจจุบัน
เมื่อ โรส ประเดิมสนาม | ปี 2010
Danny Rose’s finest moment in a #thfc shirt.
And what a debut… 🌹
pic.twitter.com/HSwe0AOr11— Harry Hotspur (@HarryHotspurWHL) January 30, 2020
การประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกถือเป็นเรื่องที่ดาวรุ่งหลายคนฝ้ารอ แต่สำหรับ แดนนี่ โรส แล้ว นี่เป็นเกมที่เขาไม่มีทางลืมแน่นอน เนื่องจากได้ลงเล่นในเกม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น
แค่ไม่สร้างความผิดพลาดในสนามก็คงเป็นสิ่งที่เจ้าตัวหวังไว้มากที่สุดแล้ว แต่ แบ็คซ้ายลูกหม้อ ไก่เดือยทอง กลับเป็นคนยิงประตูแรกให้กับทีมและเกมวันนั้น พร้อมช่วยให้ทีมเอาชนะ อาร์เซน่อล ไปได้ 2-1
ฮีโร่ที่ไม่มีใครคาดคิด | ปี 2010
#DerbyDay | Tottenham Hotspur staged a stunning comeback to win at Arsenal and wreck the Gunners' hopes of going top of the Premier League.
With Gareth Bale, Rafael Van Der Vaart and a last-minute winner from Younes Kaboul for Spurs.
🥰🤪😍#THFC #COYSpic.twitter.com/nu4c8Y0FI3
— Last Word On Spurs🎙 (@LastWordOnSpurs) September 1, 2019
แม้ว่า สเปอร์ จะเริ่มหาทางเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้หลังจากปี 2010 เป็นต้นมา แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขากลับมาคว้าชัยแบบที่ไม่มีใครคาดคิด
หลังโดนประตูของ ซามีร์ นาสรี่ และ มารูยาน ชามัค จนตามหลัง 2-0 ‘ไก่เดือยทอง’ ก็สิ้นสุดการรอคอยกว่า 17 ปี ในการบุกมาคว้าชัยในรังปืน จากการฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของ แกเร็ธ เบล และ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ก่อนที่ ยูเนส กาบูล จะกลายเป็นฮีโร่ของ ยิด อาร์มี่ ด้วยการกดประตูชัยชนะทดเวลาบาดเจ็บให้ทีมพลิกชนะ 3-2
วัลคอตต์โคตรปั่น | ปี 2014
เกมดาร์บี้สามารถทำให้ผู้เล่นแสดงพฤติกรรมหรือสร้างเรื่องปั่นๆได้เสมอ แม้แต่ ธีโอ วัลคอตต์ ที่เป็นนักเตะนิ่งๆเงียบๆ ไม่มีเรื่องปวดหัวให้ชวนนึกถึง ก็ได้รับความสนใจและถูกพูดถึงไม่น้อยจากเหตุการณ์ในเกมลอนดอนเหนือดาร์บี้ปี 2014
ปีกความเร็วสูง มีอาการบาดเจ็บหัวเข่าจนถูกเปลี่ยนตัวออกไปในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่พบ สเปอร์ส เมื่อเดือนมกราคมปี 2014 หลังโดนขว้างเหรียญและขวดน้ำใส่ เจ้าตัวก็ปั่นประสาทแฟนบอล ‘ไก่เดือยทอง’ ด้วยการชู 2 นิ้ว พร้อมมืออีกข้างที่ทำวงเป็นเลข 0 เพื่อเป็นการย้ำเตือนถึงผลการแข่งขันในขณะนั้น และก็จบลงด้วยสกอร์ 2-0 ตามที่ วัลคอตต์ ชูนิ้วบอก
จุดเริ่มต้นดาวซัลโวดาร์บี้ | ปี 2015
Remember when Harry Kane did this against Arsenal? 🎯pic.twitter.com/SBLpJDvMFI
— Goal (@goal) August 30, 2019
ครั้งหนึ่ง แฮร์รี่ เคน เคยเป็นหนึ่งในแข้งที่ฝึกฝนในทีมเยาาวชนของ อาร์เซน่อล ระหว่างปี 2001-2002 แต่ก็ถูกปล่อยตัวออกมา แต่เมื่อเวลาผ่านไปราวๆ 13 ปีต่อมา เขาก็กลายเป็นตัวแสบของ ‘ปืนใหญ่’ หลังแจ้งเกิดเต็มตัวกับ สเปอร์ส ทีมอริบ้านใกล้เรือนเคียงในลอนดอน
ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ กระซวกตาข่าย ‘กันเนอร์ส’ หนแรกในฤดูกาล 2014-15 พร้อมเหมา 2 ประตูช่วยให้ ไก่เดือยทอง เอาชนะไป 2-1 ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 ก่อนกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดที่ยิงประตูได้ในดาร์บี้ลอนดอนเหนือด้วยจำนวน 11 ประตู ในเวลาต่อมา
บทความที่เกี่ยวข้อง
