นักสอยมืออาชีพ! 5 แข้งเซ็นฟรียอดเยี่ยมของยูเวนตุส

 

ยูเวนตุส เพิ่งประกาศคว้าตัว อารอน แรมซีย์ มาร่วมทัพแบบไร้ค่าตัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวจะย้ายไปเล่นให้กับ เบียงโคเนรี่ ในฤดูกาลหน้าหลังหมดสัญญากับ อาร์เซน่อล ซึ่งก็คงไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะนี่คือสิ่งที่เราได้เห็นกันจนชินตาอยู่แล้วในช่วงหลายปีหลัง

 

และต่อไปนี้ คือ 5 นักเตะเซ็นฟรียอดเยี่ยมของทีมม้าลาย

 

เอ็มเร่ ชาน (จาก ลิเวอร์พูล)

 

แม้ ชาน จะยืนยันว่าไม่ต้องการอยู่กับ ลิเวอร์พูล อีกต่อไป แต่ในช่วงสัญญาปีสุดท้ายบนถิ่น แอนฟิลด์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ยังให้โอกาสกองกลางชาวเยอรมันลงสนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแทนความไว้วางใจของเจ้านายด้วยการทุ่มเทเกินร้อยในสนาม พร้อมเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้หงส์แดงไปไกลถึงรอบชิง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

 

โดยในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ก็เป็น ยูเวนตุส ที่คว้า ชาน มาร่วมทัพแบบไร้ค่าตัว ด้วยสัญญา 4 ปี อย่างไรก็ตาม อดีตเด็กปั้น บาเยิร์น มิวนิค กลับมีชีวิตที่ไม่ค่อยราบรื่นนักในสีเสื้อม้าลาย เนื่องจากเจ้าตัวถูกอาการบาดเจ็บถามหาอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อใดก็ตามที่สมบูรณ์พร้อม เขาก็เป็นตัวเลือกที่มักจะถูกใช้งานเสมอ ซึ่งด้วยวัยเพียง 25 ปี บวกกับการที่ ซามี่ เคดิร่า ล่วงเข้าสู่ช่วงปลายอาชีพการค้าแข้งแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นาน ชาน จะกลายมาเป็นแกนหลักในแดนกลางของเบียงโคเนรี่แน่นอน

 

ดานี่ อัลเวส (จาก บาร์เซโลน่า)

 

ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 แบ็คจอมบุกชาวบราซิเลี่ยน ตัดสินใจที่จะลองออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ หลังประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับ บาร์เซโลน่า และหมดสัญญาบนถิ่น คัมป์ นู พอดี ก่อนที่จะเป็น ยูเวนตุส ที่ยื่นสัญญา 2 ปีมาให้ อัลเวส พิจารณา และเจ้าตัวก็ไม่รีรอที่จะตอบรับข้อเสนอดังกล่าวจากยักษ์ใหญ่แดนมักกะโรนี

 

แม้อายุจะปาเข้าไปถึง 33 ปีในขณะนั้น แต่ อัลเวส ก็ยังเล่นได้สมกับที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นแบ็คขวาที่ดีที่สุดในโลก เมื่อเจ้าตัวทำไป 6 ประตู 7 แอสซิสต์ พร้อมช่วยให้ เบียงโคเนรี่ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในซีซั่น 2016-2017 อย่างไรก็ตาม อัลเวส อยู่โลดแล่นบนถิ่น ตูริน ได้เพียงปีเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะเลือกออกเดินทางแบบไร้ค่าตัวอีกครั้ง โดยมี ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นสถานีต่อไป และจนถึงตอนนี้ ดาวเตะแซมบ้าก็ยังคงบุกตะลุยทางฝั่งขวาให้กับ เปแอสเช ในเกมระดับสูงอยู่เลย

 

ซามี่ เคดิร่า (จาก เรอัล มาดริด)

 

มิดฟิลด์ทีมอินทรีเหล็ก ประสบความสำเร็จมาแล้วทุกถ้วยกับ เรอัล มาดริด ก่อนจะตัดสินใจถอดชุดขาวหลังหมดสัญญา แล้วโยกมาค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ในปี 2015 ซึ่งเจ้าตัวนั้นสามารถเข้ามาทดแทนการจากไปของ อาร์ตูโร่ วิดัล ได้พอดีเป๊ะ พร้อมกลายมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในแผงมิดฟิลด์ของทัพม้าลาย เมื่อได้ลงประสานงานร่วมกับ อันเดรีย ปิร์โล่ และ ปอล ป็อกบา

 

ซึ่ง 3 ฤดูกาลที่ เคดิร่า ลงประจำการในแดนกลางให้กับ เบียงโคเนรี่ เจ้าตัวสามาถพาทีมคว้า สคูเด็ตโต้ พ่วงด้วยแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ได้ทุกซีซั่น แม้ห้องเครื่องวัย 31 ปี จะเริ่มโรยราไปตามกาลเวลา แต่ด้วยฝีเท้าที่ยังไว้ใจได้ บวกกับประสบการณ์อันเชี่ยวกราก ทำให้เขาเป็นขุนพลคนสำคัญที่ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ยังต้องพึ่งพาอยู่เสมอ

 

ปอล ป็อกบา (จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

หากจะบอกว่าดีลนี้เป็นการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ยูเวนตุส ก็คงไม่ผิดนัก เพราะหลัง ป็อกบา หมดสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด เบียงโคเนรี่ ก็เดินเรื่องเซ็นมาแบบฟรีๆ ก่อนที่ในปี 2016 พวกเขาจะสามารถขายกลับคืนไปให้กับปีศาจแดง ด้วยมูลค่าถึง 89 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติโลกในเวลานั้น

 

โดยในช่วงเวลา 4 ฤดูกาลที่อยู่กับทีม จอมทัพเฟรนช์แมนถือเป็นนักเตะตัวหลักของ ยูเว่ ตั้งแต่ปีแรกยันปีสุดท้าย พร้อมสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ระดับโลกภายใต้ยูนิฟอร์มม้าลาย ซึ่งผลงานของเขา คือการช่วยให้ยอดทีมจาก ตูริน คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรียอา ได้ทุกซีซั่น ทั้งยังพาทีมซิวถ้วย โคปปา อิตาเลีย ได้อีก 3 สมัยด้วยกัน

 

อันเดรีย ปิร์โล่ (จาก เอซี มิลาน)

 

“เมื่อ อันเดรีย บอกผมว่าจะย้ายมาร่วมทีมกับเรา สิ่งแรกที่ผมคิดคือ โอ้ พระเจ้า! เพราะผู้เล่นระดับเขา ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีค่าตัว และผมคิดว่ามันเป็นการเซ็นสัญญาแห่งศตวรรษ” จานลุยจิ บุฟฟ่อน กล่าวหลัง ยูเวนตุส คว้าตัว ปิร์โล่ มาร่วมทีมในปี 2011

 

โดยในซีซั่นสุดท้ายกับ รอสโซเนรี่ ปิร์โล่ ในวัย 31 ปี ถูกลดบทบาทลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากผู้มีอำนาจบนถิ่น ซาน ซิโร่ ต่างมองว่าเขาหมดสภาพแล้ว ก่อนโดนปล่อยตัวออกมาเมื่อจบฤดูกาล และก็เป็น ยูเวนตุส ที่เข้ามารับช่วงต่อแบบฟรีๆ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นในตัวเรจิสต้าลายครามด้วยการมอบสัญญาระยะยาวถึง 4 ปี

 

หาก ปอล ป็อกบา คือดีลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเชิงธุรกิจ ดีลของ ปิร์โล่ ก็น่าจะถือเป็นดีลเซ็นฟรีที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเชิงลูกหนัง เพราะหลังจากเจ้าตัวย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของ ยูเวนตุส ในปี 2011 การรอคอยแชมป์ กัลโช่ เซเรียอา ของเบียงโคเนรี่นับตั้งแต่ถูกปรับตกชั้นเมื่อปี 2006 ก็สิ้นสุดลง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการผูกขาด สคูเด็ตโต้ ของทีมม้าลายจนถึงบัดนี้