หลังตามหาผู้จัดการทีมคนใหม่มานานรวม 2 เดือนกว่า ในที่สุด ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็แต่งตั้ง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เข้ามาคุมทัพอย่างเป็นทางการสำหรับฤดูกาล 2021-22 ที่กำลังจะเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม

 

กุนซือชาวโปรตุเกส ถือว่าเป็นผู้จัดการทีมได้รับการยกย่องเป็นเบอร์ต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่พา วูล์ฟแฮมป์ตัน เลื่อนชั้นขึ้นมาในลีกสูงสุด และเอาตัวรอดปลอดภัยด้วยสไตล์การโต้กลับที่รวดเร็วดุดัน มีความกระตุกจิตกระชากใจไม่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม นูโน่ อาจต้องเจองานช้างที่กำลังรอเข้าอยู่ในถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม พร้อมกับคำถามมากมายว่าเขาจะใช้เวลา 45 วันต่อจากนี้ในการเตรียมทีมอย่างไร ก่อนดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าในวันเปิดสนามฤดูกาลใหม่อีก 7 สัปดาห์ข้างหน้า

 

UFA ARENA จึงอาสาวิเคราะห์ 5 สิ่งที่ นูโน่ ควรทำให้ได้ก่อนเรื่องไหนกับปีแรกในรัง ‘ไก่เดือยทอง’  

 

 

รั้งเคนไว้ให้ได้

 

 

งานใหญ่ชิ้นแรกที่รอ นูโน่ ตั้งแต่ยังไม่เซ็นสัญญาคุมทีมก็คือ การรั้งตัว แฮร์รี่ เคน กองหน้าเบอร์หนึ่งไว้กับสโมสรต่อไปให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่กุนซือชาวโปรตุเกสน่าจะรู้ดีก่อนรับงานนี้แล้ว โดยเขามีส่วนกับประตูถึง 37 จาก 68 ลูกที่ทีมทำได้ในฤดูกาลก่อน แบ่งเป็นยิง 23 ประตู กับ 14 แอสซิสต์

 

ก่อนฤดูกาล 2020-21 จะจบลง กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ได้บอกกับสโมสรตรงๆว่าต้องการย้ายทีมใหม่ในซัมเมอร์นี้ และการให้สัมภาษณ์กับ แกรี่ เนวิลล์ ในเดือนพฤษภาคม ก็ยิ่งตอกย้ำว่านี่ไม่เรื่องที่สื่อนั่งเทียนเขียนข่าวเอาเองแต่อย่างใด

 

ต่อให้ไม่ต้องดูจำนวนประตูที่มีส่วนร่วม หลายคนก็ทราบดีว่า คุณค่าของเคนต่อสโมสรนั้นประเมินออกมาไม่ได้ หากแข้งวัย 28 ปี ย้ายทีมจริง สเปอร์ส จะสามารถหาเบอร์ 9 คนใหม่เข้าทดแทนได้หรือไม่ ในเมื่อพวกเขาอดไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก?

 

อย่างไรก็ตาม นูโน่จะได้รับความช่วยเหลือในด้านนี้จากผู้อำนวยการฟุตบอลคนใหม่ ฟาบิโอ ปาราติซี่ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ที่พยายามโน้มน้าวให้กองหน้าดาวเด่นของพวกเขาอยู่กับสโมสรต่อไป และงานยากยิ่งกว่าคือทำให้ ดาวยิง ‘ไก่เดือยทอง’ มีความสุขในสโมสร หากตัดสินใจไม่ขายนักเตะออกไป

 

ข่าวลือเรื่องอนาคตของ เคน อาจมีมาเรื่อยๆ แต่ด้วยจำนวนข่าวและการรายงานจากสื่อต่างๆที่ลดลง อาจทำให้ นูโน่ สามารถรั้ง หอกเลือดผู้ดี กับสเปอร์สต่อไปก็เป็นได้

 

 

ขันเกมรับให้แน่น

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปี ท็อตแน่ม เป็นสโมสรที่มีเกมรับเป็นอันดับต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก อาจดีที่สุดด้วยซ้ำ ด้วยการเสียเพียง 26 ลูกในฤดูกาล 2016-17 ในปีที่พวกเขาจบรองแชมป์ต่อจาก เชลซี

 

เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในฤดูกาล 2020-21 สเปอร์ เสียประตูมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า (45 ลูก) น้อยกว่า ฟูแล่ม ที่ตกชั้นเพียง 8 ลูกเท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถหาคนมาแทนที่ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ กับ แยน แฟร์ตองเก้น ได้เลย ทั้งดาวินซอน ซานเชซ หรือ เอริค ดายเออร์

 

ทว่าพวกเขามีนักเตะที่สามารถก้าวขึ้นไปเสาหลักในแผงหลังได้หรือไม่ในอนาคต? โจ โรดอน กับ ยาเฟ็ต แทนกันก้า คือ 2 ดาวรุ่งที่ให้ความรู้สึกแบบนั้น

 

แทนกันก้าในวัย 22 ปี อาจมีปัญหาอาการบาดเจ็บในฤดูกาลก่อน แต่เขาก็ฉายแววเด่นเสมอยามได้ลงสนาม ขณะที่ แนวรับทีมชาติเวลส์ ก็โชว์ฟอร์มได้ดีในยูโร 2020 น่าเสียดายที่ดันมาตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเสียก่อน

 

การปรับปรุงแนวรับของทีม จะเป็นเป้าหมายแรกๆของ นูโน่ รวมไปถึง ปาราติชี่ ที่นอกจะใช้นักเตะที่มีในทีมแล้ว ยังจำเป็นต้องเสริมจากข้างนอกมาด้วย และมีบทเรียนมาแล้วในฤดูกาลก่อน หลังพลาดโอกาสคว้า รูเบน ดิอาส ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กลายเป็นคนสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และลีกคัพ 

 

 

พัฒนาระบบและรูปแบบการเล่น

 

 

นูโน่ เตรียมนำแผนหลัง 3 ที่สร้างชื่อให้เขาสมัยคุม วูล์ฟแฮมป์ตัน มาใช้ในสเปอร์ส ซึ่งจริงๆแล้ว แผนดังกล่าวไม่ใช่แผนที่เขานำมาใช้งานบ่อยนัก หากย้อนไปในสมัยที่รับงานกับ ปอร์โต้ หรือ บาเลนเซีย

 

สิ่งต่างๆจะยากขึ้นกว่าเดิมสำหรับ นูโน่ กับงานใหม่นี้ แต่อย่างน้อย เขาก็น่าจะมีนักเตะตัวจริงที่คิดไว้ในหัวบ้างแล้ว เช่น ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, แฮร์รี่ เคน หรือ ฮูโก้ โยริส ซึ่งทั้งหมดรับใช้ชาติในยูโร 2020 จึงอาจใช้เวลาพักฟื้นเพิ่มเติม ก่อนกลับมาเตรียมช่วงพรีซีซั่นพร้อมเพื่อนคนอื่นๆ

 

ปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือ สไตล์การเล่นเกมรับของกุนซือแดนฝอยทอง ซึ่งอาจไม่เข้ากับการเล่นเกมรุกที่ลื่นไหล สวยงาม อย่างที่ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสร สัญญากับ ยิด อาร์มี่ ผ่านจดหมายในเดือนพฤษภาคม

 

วูล์ฟส์ ในยุค นูโน่ อาจเล่นเกมรุกเป็นหลักก็จริง แต่ลูกทีเด็ดของพวกเขาก็คือการสวนกลับที่รวดเร็ว ซึ่งทำให้ทีมจบอันดับครึ่งตารางบนช่วง 2 ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีก แต่การขาด ราอูล ฆิมิเนซ ในฤดูกาลก่อนทำให้ทีมต้องหันมาเล่นเกมรับมากขึ้น และทำผลงานตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

 

เราอาจยังไม่รู้แน่ชัดว่า กุนซือชาวโปรตุกีส จะใช้แผนหลัง 3 แบบไหน ทั้ง 3-5-2 หรือ 3-4-3 แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน แฟนท็อตแน่ม คงคาดหวังว่าทีมรักของพวกเขาในมือนูโน่ จะกลับมาเล่นเกมรุกที่ดุดันมากขึ้น ทำประตูได้มากกว่า 45 ประตูต่อฤดูกาล ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ นูโน่ ทำไว้ในถิ่น โมลินิวซ์  ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก

 

 

โละแข้งเก่าเพื่อเสริมแข้งใหม่

 

 

ท็อตแน่ม มีนักเตะชุดใหญ่ใช้งาน 25 คนในฤดูกาลก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ นูโน่ ต้องเผชิญกับผู้เล่นที่มีเลือกใช้งานจำกัด แม้ขนาดทีมอาจใหญ่กว่าวูลฟ์สก็ตาม และก็จำเป็นต้องลงทุนกับนักเตะของตัวเองเพื่อหางบมาสร้างทีมใหม่อีกด้วย

 

แซร์จ ออริเย่ร์, มุสซ่า ซิสโซโก้, เบน เดวี่ส์, เอริค ลาเมร่า และ ลูคัส มูร่า ถูกพูดถึงว่ามีโอกาสย้ายออกจากสโมสร ในขณะที่ตำแหน่งกองกลาง 5 คนในชุดใหญ่ก็เป็นตัวเลือกที่อาจมากเกินไปในทีม

 

ตำแหน่งเกมรับก็เป็นสิ่งที่สมควรเสริมเช่นกัน เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ตัวเลือกที่มีในทีมตอนนี้ยังไม่ดีพอ และต้องหาเซ็นเตอร์แบ็คที่เป็นหัวใจคอยบัญชาการในเกมรับให้ได้

 

เช่นเดียวกับเกมรุก ที่คงให้ ซอน เฮือง มิน กับ เคน แบกภาระการทำประตูไว้เพียง 2 คนอีกฤดูกาลก็คงหนักหนาเกินไป จึงอาจหันไปหากองหน้าหรือตัวรุกที่มีฝีเท้าระดับไม่ห่างกันมาก เช่น ราอูล ฆินิเนซ หรือ อดาม่า ตราเอโร่ 2 ศิษย์เก่าจากทีมหมาป่า แม้ดูเป็นยากในการดึงมาร่วมทีมพอสมควรก็ตาม

 

อย่างไรก็ดี ปัจจัยในการเสริมทัพหรือโละแข้งเก่า หลักๆแล้วก็ขึ้นอยู่ว่า สเปอร์ จะสามารถรั้งตัวของ เคน ให้อยู่กับทีมต่อไปหรือไม่ในซัมเมอร์นี้

 

 

ชนะใจแฟนบอล

 

 

งานที่ดูเหมือนง่าย แต่หากได้ลองลงมือแล้วกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด นั่นก็คือผลการแข่งขัน ซึ่งสไตล์การเล่นอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับแฟนบอล หากกุนซือสามารถพาทีมคว้าชัยชนะได้บ่อยๆในฤดูกาล

 

หากแต่ นูโน่ สามารถพาทีมคว้าแชมป์บอลถ้วยได้สักรายการ หรือคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นอย่างน้อย ก็น่าเป็นสิ่งที่ ยิด อาร์มี่ พึงพอใจมากที่สุดกับปีแรกของ กุนซือเลือดฝอยทองแล้ว

 

อย่างไรก็ตามมันจะเป็นวิธีการที่จะใช้เวลานานที่สุดในการตรวจสอบเช่นกันกับ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมว่า นูโน่ จะสอบตกหรือสมควรได้ไปต่อในสายตาของแฟนๆ ‘ไก่เดือยทอง’ และบรรดาบอร์ดบริหารของสโมสรด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตรงสเปค! เลวี่เผยทำไมเลือกนูโน่นำทัพไก่