บันทึก 5 เหตุการณ์สำคัญของ’แรชฟอร์ด’

หลังจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราวแทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่โดนปลดออกไป โค้ชชาวนอร์เวย์รายนี้ก็พาทีมกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้งโดยเฉพาะแผนการเล่นที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก ที่สำคัญยังดึงพลังแฝงในตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกมาอย่างแจ่มแจ๋วราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว

โดยแรชฟอร์ดที่ถูกจับไปเล่นเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า นับตั้งแต่โซลชาร์มาคุมทีม ดาวรุ่งเลือดผู้ดีรายนี้ก็ซัดให้ทัพอสูรแดงไปถึง 6 ลูกด้วยกันจากการลงสนามใน 10 เกมหลัง แถมยังลงเล่นในพรีเมียร์ลีกให้สโมสรครบ 100 นัดไปแล้ว และวันนี้ทีมงาน Ufa Arena.com จะพาไปดูสถิติที่น่าทึ่งและเหตุการณ์สำคัญที่ดาวยิงตัวจี๊ดรายนี้ได้สร้างไว้มีอะไรบ้าง

5.ยิงประตูเหนือตำนานของทีม

ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ แรชฟอร์ดไม่ค่อยได้ลงเล่นบ่อยนักและมักถูกจับไปยืนเป็นตัวริมเส้น แต่เมื่อสุดสัปดาห์ที่เจ้าตัวยิงประตูชัยเหนือเลสเตอร์ 1-0 ทำให้เขาลงเล่นในพรีเมียร์ครบ 100 นัดในวัย 21 ปีกับอีก 95 วัน

ด้วยอายุ 21 ปีกองหน้าดาวรุ่งรายนี้ถือว่าเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ของปีศาจแดงที่ลงสนามในจำนวน 100 นัด ต่อจาก ไรอัน กิกส์ตำนานของทีมที่สัมผัสเกมเป็นจำนวนที่เท่ากันแต่ต่างกันที่ กิกส์ในตอนนั้นทำไว้ด้วยวัย 21 ปีกับ 74วัน

โดยจำนวน 100 นัดในพรีเมียร์ลีกนี้เป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่จำนวนประตูที่แรชฟอร์ดทำไป 26 ลูกนั้น มากกว่าอดีตผู้เล่นของยูไนเต็ดทั้งไรอัน กิกส์(25),เวย์น รูนี่ย์(24)และคริสเตียโน่ โรนัลโด้(19)

4.ยิงประตูแรกกับทุกถ้วย

แรชฟอร์ดเปิดตัวในเกมยูโรป้าลีกกับ มิดเทิลแลนด์และสามารถพังประตูได้เลยในการลงเล่นเป็นนัดแรกให้กับแมนฯยูไนเต็ด และ 3 วันหลังจากนั้นเจ้าตัวก็เบิกสกอร์ในนัดที่เจอกับอาร์เซน่อลในศึกพรีเมียร์ลีกได้อีกนัดติดต่อกัน

นอกจากนี้เขายังประเดิมประตูจากการลงสนามอย่างเป็นทางการเป็นนัดแรกได้อีกในเกมลีกคัพที่พบกับ นอร์ทแธมป์ตัน ต่อด้วยเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในนัดที่ดวลกับ บาเซิล ส่วนในระดับชาตินั้นเขายังซัดให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ได้ตั้งแต่เกมแรกในการเจอกับทีมชาติออสเตรเลียรวมไปถึงกดแฮตทริกใส่นอร์เวย์ให้สิงโตคำรามรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี

ทว่าในฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ เจ้าหนูรายนี้ก็เสียสถิติพังประตูแรกได้ตั้งแต่ออกสตาร์ท โดยเขาพังประตูได้ในการลงสนามเป็นเกมที่ 2 เท่านั้น

3.ยิงในเกมยุโรปอายุน้อยสุด

กองหน้าความเร็วสูงเริ่มต้นลงเล่นให้แมนฯยูไนเต็ดในฤดูกาล 2015/2016 เขาไต่เต้าขึ้นมาแต่ตั้งชุดเยาวชน ไล่ตั้งแต่รุ่น 18 ปี,19 ปีและ21ปีก่อนจะมีส่วนร่วมในเกมที่เจอกับ มิดเทิลแลนด์ ในถ้วยยูโรป้าลีก

อองโตนี่ มาร์ซิยัล ได้รับบาดเจ็บจากการอบอุ่นร่างกายก่อนเกมจะเริ่ม ทำให้ หลุยส์ ฟาลกัล ผู้จัดการทีมในตอนนั้นใส่ชื่อ แรชฟอร์ดในวัย 18 ปีลงเล่นแทน และเจ้าตัวก็สร้างความประทับใจด้วยการซัดประตูได้ในช่วงครึ่งเวลาหลังช่วยให้ทีมถล่ม มิดเทิลแลนด์ ไปถึง 5-1

ทั้งนี้ประตูดังกล่าวที่ศูนย์หน้าเมืองผู้ดีรายนี้ยิงใส่ทีม มิดเทิลแลนด์ ในถ้วยยูโรป้าลีก ทำให้ถูกบันทึกว่าเป็นผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดที่อายุน้อยที่สุดในการพังตาข่ายในเกมยุโรปด้วยอายุน้อยที่สุดของสโมสร ทำลายสถิตเดิมของ จอร์จ เบสต์ ตำนานรุ่นเดอะที่คงกระพันอยู่ 51 ปี

2.ซัดดับในดาร์บี้แมตช์

ชื่อเสียงของแรชฟอร์ด เริ่มเป็นทีจับตามากขึ้นหลังจากเปิดตัวในพรีเมียร์ลีกได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์เจ้าตัวก็ถูกใส่ชื่อลงเล่นเป็น 11 คนแรกและนับเป็นการลงสนามในรอบไม่ถึง 1 เดือนหลังจากสัมผัสเกมไปก่อนหน้านี้

โดยประตูโทนประตูเดียวในนัดนั้นเกิดขึ้นในนาทีที่ 16 ของช่วงครึ่งแรก และลูกนี้เองทำให้เขาได้รับการบันทึกว่าเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่พังประตูได้ในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ด้วยวัยเพียง 18 ปีกับ 141 วัน

1.เปิดซิงกับทีมชาติ

ก่อนศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2016 อังกฤษได้ทำการอุ่นเครื่องกับทีมชาติออสเตรเลียที่สนามของซันเดอร์แลนด์ และแมตช์นั้นเองเป็นการแจ้งเกิดครั้งแรกของแรชฟอร์ดในการประเดิมสนามให้สิงโตคำราม

ด้วยวัย 18 ปีกับ 208 วันเขาใช้เวลาไม่เกินสามนาทีในการยิงประตูแรกให้กับทีมชาติอังกฤษ นับว่าเป็นสถิติใหม่ที่เกิดขึ้นลำดับที่ 3 ที่พังตาข่ายได้ตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนามด้วยอายุที่น้อยที่สุด โดยเจ้าของคนเดิมยังคงเป็นของ ทอมมี่ ลอว์ตันที่ทำไว้เมื่อปี 1983

นอกจากนี้ในศึกยูโร 2016 รอบสุดท้ายที่ทีมชาติอังกฤษพบกับทีมชาติเวลส์ เขาก็ทุบสถิตเดิมของ เวย์น รูนีย์ ด้วยการลงสนามเปิดตัวในทัวร์นาเมนต์หลักอย่างเป็นทางการด้วยอายุที่น้อยที่สุด