ปีนี้พี่เอาจริง : 8 เหตุผลที่ทำให้สเปอร์สคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

 

หลังผ่านพ้นเกมนัดที่ 9 ของพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2020-21 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ โชว์ฟอร์มแกร่งพร้อมขึ้นไปลุ้นแชมป์ลีกเต็มตัวด้วยการอัดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 

 

แม้จะมีแต้มเท่ากับ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าที่ 20 คะแนน และยิงได้เท่าที่ 21 ประตู แต่การเสียประตูเพียง 9 ลูก น้อยกว่า ‘หงส์แดง’ 7 ลูก ทำให้ ‘ไ่กเดือยทอง’ รั้งจ่าฝูงลีกสูงสุดแดนผู้ดี ณ เวลานี้

 

โช่เซ่ มูรินโญ่ กุนซือสเปอร์ส อาจกล่าวหลังเกมนั้นว่าทีมของตนยังไม่คิดถึงตำแหน่ง แต่การไม่แพ้ใคร 9 เกมติดเเถมคว้าชัยไปถึง 4 เกม นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมจนใครหลายคนมองว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในทีมเต็งเเชมป์ และสร้างความหวังให้กับ เหล่า ยิด อาห์มี่ ที่เฝ้ารอโทรฟี่แชมป์ลีกมานานกว่า 60 ปี

 

UFA ARENA จึงขอพาไปวิเคราะห์กับ 8 เหตุผลที่อาจทำให้ สเปอร์ส มีลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาครองในฤดูกาลนี้

 

 

ดีกรีของ มูรินโญ่

 

 

ถึงจะถูกมองว่าเป็นกุนซือไดโนเสาร์ตกยุคที่สวมบทโหดจวกลูกทีมตรง ๆ หรือสไตล์การเล่นแบบเน้นผลสุด ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ยังเป็นผู้จัดการทีมเบอร์ต้น ๆ ของวงการยุคนี้อยู่ดี

 

โปรดอย่าลืมว่า ‘เดอะ สเปชียล วัน’ คว้าโทรฟี่ได้กับทุก ๆ ทีมที่ทำหน้าที่นับตั้งแต่สร้างชื่อกับ ปอร์โต้ ซึ่งรวมทั้งสิ้นคว้าแชมป์เมเจอร์ 33 รายการ ตลอด 20 ปีในเส้นทางนี้

 

ด้วยดีกรีต่าง ๆ ที่กุนซือชาวโปรตุเกส แสดงให้เห็นในอดีตที่ผ่านมา นั่นเพิ่มโอกาสให้กับ สเปอร์ส คว้าแชมป์ลีกได้มากขึ้นไปอีก

 

 

ซอนนี่-เคน คู่หูถล่มประตูสุดรู้ใจ

 

 

นอกจากผลงาน ฟอร์มการเล่นของนักเตะคือสิ่งที่หลายคนพูดถึงในสเปอร์ส ฤดูกาลล่าสุด แต่ผู้เล่นที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น 2 คู่หูแดนหน้าอย่าง ซอน เฮือง มิน และ แฮร์รี่ เคน ที่เล่นกันได้อย่างเข้าขาสุด ๆ 

 

หอกทีมชาติอังกฤษซัดไปแแล้ว 13 ประตูในทุกรายการ ขณะที่ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้ ยิงอยู่ที่ 11 ประตู นั่นหมายความว่า เคน ไม่จำเป็นต้องแบกภาระการทำประตูเพียงคนเดียวอีกต่อไป

 

มากกว่านั้น เคย เพิ่มมิติในเกมรุกของด้วยการแอสซิต์ถึง 9 ลูกในลีก (11 ครั้งในทุกรายการ) มากกว่าเพลย์เมกเกอร์บางคนในแต่ละทีมของฤดูกาลนี้เสียอีก

 

 

การเกิดใหม่ของ เอ็นดอมเบเล่

 

 

เอ็นดอมเบเล่ ถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังทำผลงานได้ไม่สมกับสถิติค่าตัวสโมสรของ สเปอร์ส ในฤดูกาลก่อน พร้อมทั้งมีข่าวไม่กินเส้นกับ มูรินโญ่ เหจุถูกวิจารณ์ผ่านสื่อแบบไม่ไว้หน้า จนทำให้มีการลือกันว่าเขาอาจเก็บข้าวของออกจากลอนดอนในซัมเมอร์นี้ แต่สุดท้ายก็อยู่กับทีมต่อไป

 

ทว่าในฤดูกาลใหม่ จู่ ๆ กองกลางชาวฝรังเศส ที่ดูไม่อนาคตในทีมของกุนซือชาวโปรตุกีส กลับโชว์ผลงานดีขึ้นเรื่อย ๆ และจะบอกว่าใกล้เคียงกับสมัยเล่นให้ โอลิมปิก ลียง ก็ไม่ผิดนัก ทั้งการพาบอลขึ้นหน้า, การตัดสินใจ, ความแข็งแกร่ง และที่สำคัญคือความสม่ำเสมอที่เขาไม่เคยมีเลยในซีซั่นก่อน

 

แม้เส้นทางยังอีกยาวไกล แต่ความเชื่อใจที่ มูรินโญ่ มอบให้ เอ็นดอมเบเล่ ทำให้เขามั่นใจยิ่งขึ้น และจะกลายเป็นกำลังหลักในฤดูกาลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

คู่แข่งมาตรฐานตก

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจฟอร์มสะดุดในเกมนัด 2 ของฤดูกาลที่พ่าย เลสเตอร์ แต่การที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล เจ็บยาว ทำให้พวกเขาถูกยกเป็นเต็งหนึ่งลุ้นแชมป์แทนทันที

 

อย่างไรก็ตาม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ฉลองสัญญาใหม่แบบกร่อย ๆ เมื่อพ่าย สเปอร์ส ไป  2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด และการคว้าชัยได้เกมเดียวจาก 5 นัดหลังสุดในลีก แสดงให้เห็นว่า เรือใบสีฟ้ามาตรฐานตกลงชัดเจน

 

เช่นเดียวกับทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่อาจจะไม่ได้ฟอร์มหลุดมากมายนัก แต่การที่ ‘หงส์แดง’ ประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บยกแผงในเกมแนวรับ ก็ยากที่พวกเขาทำผลงานได้เทียบเท่ากับช่วง  2 ฤดูกาลก่อน ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงกว่าฟุตบอลอังกฤษทั่วไป

 

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ อาร์เซน่อล ก็ยังห่างไกลจากการลุ้นแชมป์พอสมควร หลังได้เห็นฟอร์มในช่วง 9 นัดแรกในลีก มีเพียงแค่ เชลซี ที่พัฒนากว่าใครพวกแอบเบียดขึ้นรั้งที่ 3 ในตอนนี้ 

 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินว่า ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล หมดลุ้นแชมป์ไปแล้วในตอนนี้คงเป็นอะไรสิ้นคิดเกินไป แต่หากฟอร์มยังตกแบบนี้ต่อไป ขณะที่ทีมของ มูรินโญ่ กลับทำผลงานคงเส้นคงวา โอกาสที่ ไก่เดือยทอง จะสัมผัสแชมป์ในบั้นปลายก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

 

 

การมาของ แกเร็ธ เบล

 

 

บทบาทของ เบล ใน สเปอร์ส คือตำแหน่งไหน? ทำไม มูรินโญ่ ถึงคว้าเขามาร่วมทีมในเมื่อตอนนี้มีกองกลางตัวรุกมากความสามารถอยู่ในมือมากมาย? นี่กลายเป็นคำถามที่ตามมาจากคนบางกลุ่ม หลังทราบข่าวที่ ปีกชาวเวลส์ รีเทิร์น ลอนดอนเหนือ อีกครั้ง

 

อย่างไรก็ดี เบล ถือว่าเป็นนักเตะชุดปัจจุบันของ สเปอร์ส ที่มีประสบการณ์คว้าแชมป์มากที่สุด ทั้งแชมป์ยุโรป 4 สมัยกับ เรอัล มาดริด และสิ่งเหล่านี้ย่อมมีประโยชน์กับทีมได้มากกว่าตอนที่สโมสรไม่มี เบล แน่นอน

 

แข้งวัย 31 ปี ที่อาจจะไม่ได้ปราดแปรวเช่นเมื่อก่อน แต่ทักษะในการจบสกอร์, ฟรีคิก หรือสร้างสรรค์ประตู ทำให้ สเปอร์ส มีตัวเลือกตัวรุกระดับโลกให้ใช้งาน หรือลงมาพลิกสถานการณ์ในช่วงเวลาสำคัญได้

 

 

กองหน้าเบอร์สอง

 

 

หากยังไม่ลืมกัน เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ที่เป็นหอกเบอร์ 2 ของสเปอร์ส ในยุคที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุมบังเหียน เป็นฮีโร่อีกคนที่ช่วยให้ทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018-19 ได้

 

แต่หลังจาก แข้งชาวสแปนิชลาทีมไป ปัญหากองหน้าอะไหล่ของ สเปอร์ส ก็กลับมาวนเวียนอีกครั้ง โดย ลูคัส มูร่า, เดเล่ อัลลี่ และ ซอน จะรับบทบาทกองหน้าจำเป็นชั่วคราว หากไม่สามารถใช้งาน เคน ได้ตามปกติ

 

แต่การคว้า คาร์ลอส  เวนิซิอุส มาร่วมทีมในซัมเมอร์นี้ กลับกลายเป็นการแก้ปัญหาในแดนหน้าที่น่าสนใจในตอนนี้มาก ๆ โดยอดีตกองหน้าของ เบนฟิก้า กดไป 18 ลูกกับ 8 แอสซิสต์ ใน ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส ซีซั่นก่อน จัดแอสซิสต์ให้ มูร่า และ ซอน ยิงประตู ในนัดประเดิมสนามของเขาในศึก ยูโรป้า ลีก พบ ลินซ์ เมื่อเดือนตุลาคมด้วย

 

คงต้องติดตามกันต่อไปว่า หอกชาวบราซิลเลี่ยน จะทดแทนในเกมรุกได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าหาก มูรินโญ่ ต้องหมดสิทธิ์ใช้งาน เคน ไปแบบยาวในฤดูกาลนี้

 

 

ไม่มีแข้งงอแงเรื่องสัญญา

 

 

อนาคตที่ไม่แน่นอนในทีมของแข้งตัวหลักกลายเป็นปัญหาที่รบกวนบรรยากาศภายในทีมพอสมควร เช่นในฤดูกาลก่อนกับ กรณีของ คริสเตียน อีริคเซ่น ที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงมากที่สุด เนื่องจากเจ้าตัวทำท่าจะลาทีมลูกเดียว

 

เพลย์เมกเกอร์ชาวเดนส์ ได้ย้ายสมใจในเดือนมกราคมกับ อินเตอร์ มิลาน ส่วน แยน แฟร์ตองเก้น ก็อยู่กับทีมจนหมดสัญญาหลังจบฤดูกาล แม้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ จะตัดสินจรดปากกาต่อสัญญาใหม่แล้ว แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อทีมอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย

 

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้ แดนนี่ โรส กลายเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่คนเดียวที่จะหมดสัญญาในซัมเมอร์ปี 2021 อีกทั้งไม่ใช่ตัวเลือกแรก  ๆ ของมูรินโญ่อยู่แล้ว นั่นหมายความว่า การไม่มีสิ่งรบกวนเรื่องสัญญาหรือนาคตที่ไม่แน่นอนของผู้เล่น น่าจะช่วยให้นักเตะกลมเกลียว และมีเป้าหมายเดียวกันมากขึ้น

 

 

ขุมกำลังที่ล้นเหลือ

 

 

คุณภาพบนม้านั่งสำรอง ของสเปอร์ส ในหลายเกมทีผ่านมาเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งที่หลากหลายและมิติมากขึ้นของสโมสร

 

ยกตัวอย่างในเกมเฉือน เบิร์นลี่ย์ เดือนก่อน แม้จะไม่มี แฮร์รี่ วิงส์, ดาวินซอน ซานเซช และ เดเล อัลลี่ แต่ มูรินโญ่ ก็ยังมี เอริค ลาเมล่า, โจ โรดอน, โจวานี่ โล เซลโซ่,  วินิซิอุซ, โจ ฮาร์ท, เซร์คิโอ้ เรกีล่อน และ เบล ให้เลือกใช้ในตำแหน่งตัวสำรอง

 

ซึ่งผู้เล่นหลายคนก็มีศักยภาพในการก้าวขึ้นเป็นมาตัวจริงให้กับทีมได้ไม่ด้อยไปกว่ากัน และการแข่งขันแย่งตำแหน่งย่อมเป็นเรื่องที่ดีในการพัฒนาให้ทุกคนก้าวหน้าไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีมาก ๆที่ สเปอร์ส มีแข้งให้เลือกใช้งานได้หลากหลายกว่าที่เคย