“ปืนใหญ่” กับภารกิจทวงคืนพื้นที่ยูซีแอล

ปีแรกในการทำงานบนเวทีพรีเมียร์ลีกต้องบอกว่า อูไน เอเมรี่ มีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป ทว่าภาพรวม อาร์เซนอล ยังคงล้มเหลวสำหรับฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะการพลาดโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก

 

ทีม “ปืนใหญ่” มีโอกาสดีทั้งพรีเมียร์ลีก และบอลถ้วย ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็ลบคำปรามาสไม่ได้ บอลลีกอยู่ดีๆ ก็แพ้ 4 จาก 5 เกมสุดท้ายไล่แต้ม สเปอร์ส ไม่ทัน ส่วน ยูโรป้าลีก ทางลัดสู่บิ๊กเอียร์ ก็สิ้นสภาพโดน เชลซี ไล่ต้อนแบบหมดรูปในเกมนัดชิงชนะเลิศ

 

หนึ่งปีกับการเรียนรู้ ซีซั่นนี้จะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือที่แท้จริงของ เอเมรี่ ภารกิจทวงคืนพื้นที่ยูซีแอล คือโจทย์หลักที่ไม่ต้องไปมองให้ไกลเกินเอื้อม…ที่สำคัญอันดับอย่าต่ำกว่า สเปอร์ส เด็ดขาด !!!

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Alexandre Lacazette Pierre-Emerick Aubameyang

จุดแข็ง – เกมรุกขีปนาวุธ

 

ฟุตบอล อาร์เซนอล ยุคใหม่แนวรุกอาจจะไม่ไหลลื่นเหมือนในอดีต ทว่าเรื่องของคุณภาพก็พอที่จะฝากผีฝากไข้ได้ โดยเฉพาะคู่หน้าอย่าง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง และ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์

 

หัวหอกทีมชาติกาบอง คือดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ร่วมในฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นคนแรกในรอบหลายปีที่ยิงทะลุ 20 ประตูในฤดูกาลเดียว ส่วนดาวยิงเฟรนช์แมน ก็มีส่วนถึง 21 ประตู (ยิง 13 จ่าย 8)

 

ยิ่งฤดูกาลปัจจุบันพวกเขาเพิ่งได้ตัวสตาร์คนใหม่อย่าง นิโคลัส เปเป้ ปีกพ่อเลี้ยงจากไอวอรี่ โคสต์ ที่ระเบิดฟอร์มในลีก เอิง ซีซั่นล่าสุดด้วยการยิงถึง 22 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์ เข้ามาเสริมแกร่งเกมรุกอีกราย

 

งานนี้ “โอบา-ลากา-เปเป้” หากจูนกันคลิ๊กเมื่อไหร เชื่อว่านี้คือแนวรุกระดับอาวุธสงคราม และเป็นหนึ่งใน 3 ผสานที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ชนิดไม่ด้อยกว่าของ ลิเวอร์พูล หรือ แมนฯ ซิตี้ อย่างแน่นอน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ xhaka mustafi

จุดอ่อน – เกมรับระเบิดเวลา

 

นิยามที่แฟนบอลพูดว่า “กองหน้าเวิลด์คลาส กองหลังเวิลด์แก๊ส” ไม่ใช่เรื่องที่พูดเอากันขำๆ อย่างแน่นอน เพราะที่ อาร์เซนอล ล้มเหลวในฤดูกาลที่ผ่านมาก็มาจากเกมรับที่แสนโหล่ยโท่ย

 

ซีซั่นที่ผ่านมา อาร์เซนอล เสียไปถึง 51 ประตูมากกว่า แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ถึง 2 เท่าตัว และที่สำคัญพวกเขาเสียประตูจากความผิดพลาดส่วนตัว (Errors Goals) มากถึง 12 ประตูสูงสุดในลีกเทียบเท่ากับ ฟูแล่ม ทีมที่ตกชั้น

 

นักเตะอย่าง ชโคดราน มุสตาฟี่, ไอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์ ไนลส์ และ กรานิต ชาก้า ไม่ต่างอะไรกับ “ระเบิดเวลา” ที่พร้อมจะสร้างความผิดพลาดจนทีมเสียประตูได้ตลอด ซึ่งทั้งหมดก็ยังอยู่ในทีมชุดนี้อยู่เลย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ nicolas pepe

การเสริมทัพ – บิ๊กดีลช็อกพรีเมียร์ลีก

 

บอร์ดบริหารของ อาร์เซนอล เรียกว่าแสบสุดขั้วจริงๆ ในซัมเมอร์นี้ หลังมีรายงานว่าพวกเขาให้งบ อูไน เอเมรี่ เพียงแค่ 40 ล้านปอนด์ และกว่าจะจับจ่ายใช้สอยก็ปาไปเดือนสุดท้ายก่อนเปิดฤดูกาล

 

ดีลของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ วิลเลี่ยม ซาลิบา คือซื้อเพื่ออนาคต ส่วน ดานี่ เซบาญอส ก็เป็นแค่แข้งยืมตัว ทีม “ปืนใหญ่” เสริมทัพราคาประหยัดจนโดนแฟนบอลด่าระงม

 

แต่สุดท้ายพอเจอ “ไม้ตาย” ปิดบิ๊กดีลอย่าง นิโคลัส เปเป้ ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์ ดอกนี้ปิดปากแฟนบอลได้เป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นดีลสุดเซอร์ไพรส์ของพรีเมียร์ลีกเลยก็ว่าได้

 

และที่สำคัญ อาร์เซนอล ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ชื่อของ คีแรน เทียร์นี่ย์ และ ดานิเอเล รูกานี คือ 2 ผู้เล่นที่ทีมอยากได้มาอุดรูรั่วที่ใหญ่มหาศาล หากได้ 1 หรือ 2 คนนี้ ต้องยอมซูฮกเลยว่า ราอูล ซานเญฮี มาท็อปฟอร์มมากในซัมเมอร์นี้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ leno arsenal

คีย์แมน – ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง/แบรนด์ เลโน่

 

จริงอยู่ว่า อาร์เซนอล สามารถคว้าตัว นิโคลัส เปเป้ เข้ามาเป็นอาวุธชิ้นใหม่ที่สุดแสนอันตราย ทว่าการทุ่มเงินสถิติสโมสร ไม่สามารถการันตีได้ว่าทุกอย่างจะดีชนิดโรยด้วยกลีบกุหลาบ

 

ปีกไอวอรี่ โคสต์ ยังต้องพิสูจน์ตัวเอง ต้องเอาผลงานในสนามเป็นตัว “ตอบคำถาม” ว่าเม็ดเงินที่ทีม “ปืนใหญ่” จ่ายไปนั้นคุ้มค่าจริง พูดง่ายๆ เปเป้ ยังไม่ดีพอจะเป็นคีย์แมน เพราะต้องให้เวลาเป็นเครื่องยืนยัน

 

ดังนั้นคนที่จะเป็นตัวความหวังของทีมจริงๆ คงหนีไม่พ้นกองหน้าตัวอย่าง โอบาเมย็อง ที่อย่างน้อยๆ ก็การันตีด้วยดีกรีดาวซัลโวซีซั่นล่าสุด ที่สำคัญฟอร์มอุ่นเครื่องก็กำลังจี๊ดจ้านพร้อมเสิร์ฟ ยิงได้ถึง 3 ประตูจาก 5 เกมในการปรีซีซั่น

 

อีกคนที่ต้องเรียกว่า “เดอะแบก” เลยก็ว่าได้ ก็คือ แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูฟอร์มดี ที่ปีก่อนเซฟเป็นว่าเล่น ปีนี้หากแนวรับของ อาร์เซนอล ยังพร้อมสร้างงาน เห็นที่เลเวลาของนายทวารชาวด๊อยซ์ คงได้เพิ่มอีกแน่นอน

ระบบ – 4-2-3-1 พิชิตศัตรูด้วยเกมรุกที่คมกว่า

 

อูไน เอเมรี่ จัดเป็นกุนซือคนหนึ่งที่มีความหลากหลายทางแท็กติกสูง อย่างซีซั่นก่อน อาร์เซนอล เล่นมาหมดทั้ง 4-3-3, 4-4-2, 3-4-1-2 หรือ 3-4-2-1 ทว่าด้วยตัวผู้เล่นที่ชัดเจนมากขึ้น การมาของปีกพ่อเลี้ยงอย่าง นิโคลัส เปเป้ คาดว่า 4-2-3-1 น่าจะเป็นระบบหลักของกุนซือชาวสแปนิช ในฤดูกาลนี้