ทีมชาติไทย เพิ่งลงสนามเกมนัดสำคัญพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในศึกฟุุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย และ เป็นนัดประเดิมสนามของกุนซือใหม่อย่าง อากิระ นิชิโนะ ซึ่งเฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น โดยเจ้าตัวเลือกจัดแผนการเล่นได้น่าสนใจทีเดียวในนัดนี้ ด้วยระบบการเล่น 4-2-3-1 ซึ่งนักเตะหลายคนก็ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่น้อยเลย
ท้ายที่สุดถึงเกมนี้จะจบลงด้วยผลเสมอ 0 – 0 แต่แมตช์ดังกล่าวแข้ง “ช้างศึก” หลายคนก็ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ ภายใต้แผนการเล่นสไตล์กุนซือจากแดนปลาดิบ ขณะเดียวกันนักเตะบางรายก็ยังทำผลงานได้ไม่ค่อนน่าประทับใจเท่าไรนัก
โดยในวันนี้ UFA Arena จะขอพาไปดูกันว่า 5 นักเตะ ทีมชาติไทย ที่ทำผลงานสอบผ่านในเกมนัดประเดิมสนามของ อากิระ นิชิโนะ จะมีใครกันบ้าง และฟอร์มในนัดที่ผ่านมาพวกเขาจะทำได้ดีแค่ไหนภายใต้แผนการเล่นของกุนซือเลือดซามูไรรายนี้
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
กองกลางจาก โออิตะ ตรินิต้า เกมนี้เจ้าตัวได้รับบทบาทมาเล่นเป็นศูนย์หน้ากึ่งปีกด้านขวา ซึ่งต้องยอมรับว่าเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียวทั้งจังหวะผสานงานกับบรรดาเพื่อร่วมทีมในแนวรุก จังหวะพาบอลเลี้ยงกินแดน รวมไปถึงสามารถหาโอกาสยิงได้บ่อยครั้งแต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวยังจบสกอร์ได้ไม่ดีพอ ขณะที่ช่วงท้ายเกม “เจ้านิว” ถูกขยับกลับเข้ามาเล่นในตำแหน่งตรงกลางสนามที่ถนัด และเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าพอใจทั้งยามที่ทีมเล่นเกมรุก และต้องกลับลงไปเล่นเกมรับ โดยรวมเกมนี้ถือว่า ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่สอบผ่านในเกมนัดประสนามของกุนซือใหม่อย่าง อากิระ นิชิโนะ แบบไม่ต้องสงสัยเลย
พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล
ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สร้างเซอร์ไพรส์ และเรียกเสียงฮือว่าได้พอสมควรสำหรับ พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล กองกลางจอมขยันจาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกมแรกให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ด้วยบทบาทมิดฟิลด์ “Box To Box” ซึ่ง “เจ้าเต้” สามารถบดบี้ทำลายเกมกลางสนามของคู่แข่งได้อย่างราบคาบ นอกจากนี้ยังมีบางจังหวะที่เขาสามารถเติมเกมขึ้นไปผสานงานในแนวรุกได้อย่างหวือหวาสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับทีมเยือนได้ไม่น้อย ก่อนท้ายที่สุดเจ้าตัวถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 76 ซึ่งผลงานสำหรับเกมแรกในนามขุนพลทัพ “ช้างศึก” ของ พิธิวัต ถือว่าสอบผ่านเลยทีเดียว
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
นายทวารกัปตันทีมคนใหม่ของทัพ “ช้างศึก” เกมนี้ ถือว่าทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว ไม่มีจังหวะผิดพลาดให้เห็นทั้งการออกมาตัดบอลโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ รวมไปถึงยังสื่อสารกับผู้เล่นในแนวรับได้ดีอีกด้วย ซึ่งหากดูผลงานได้โดยรวมแล้ว มือกาววัย 35 ปี จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้รับโอกาสครั้งสำคัญลงเล่นเป็นมือหนึ่งให้กับทีมในยุคของเฮดโค้ชคนใหม่ อากิระ นิชิโนะ พร้อมกับสวมปลอกแขนกัปตันนำเพื่อนร่วมทีมลงสนาม เรียกได้ว่าเขาทำหน้าที่ได้ดีใช้ได้เลย
สุภโชค สารชาติ
แข้งอนาคตไกลของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง สุภโชค สารชาติ เกมนี้เจ้าตัวได้รับบทบาทขยับจากตำแหน่งถนัดมิดฟิลด์ตัวรุกขึ้นมาผสานงานในแดนหน้าร่วมกับทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ซึ่ง “เจ้าเช็ค” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสุดๆ โดยเฉพาะจังหวะเลี้ยงบอลกินตัวในแผงแนวรับของ ทีมชาติเวียดนาม เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลค์ในแมตช์นี้เลยทีเดียว นอกจากนี้แข้งวัย 21 ปี ยังหาโอกาสจบสกอร์ได้อยู่หลายครั้งแต่ก็ยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก ช่วงก่อนหมดเวลาเจ้าตัวเกือบจะเปิดฮีโร่ของทีมได้สำเร็จจากการหลุดเดียวเข้าไปยิงจ่อๆหน้าประตู แต่บอลดันไปติดเซฟ ดัง วาน ลัม ปัดทิ้งไปได้ อย่างไรก็ตามจากฟอร์มในนัดนี้ก็ยังดีพอที่ทำให้เขาคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์ไปครองได้สำเร็จในท้ายที่สุด
สารัช อยู่เย็น
มาถึงกันที่แข้งรายสุดท้ายซึ่งโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมนัดประเดิมสนามของเทรนเนอร์คนใหม่ชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ สารัช อยู่เย็น กองกลางมากประสบการณ์จากทีม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งเกมนี้ “เจ้าตัง” รับบทเป็นมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกมกลางสนาม และพูดได้เลยว่าเขาทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม สามารถเชื่อมบอลจากแดนหลังไปสู่แนวรุกได้อย่างลงตัว นอกจากนั้นเจ้าตัวยังโชว์ความขยันวิ่งบดกับกองกลาง ทีมชาติเวียดนาม จนทำเอาคู่แข่งถึงกับตั้งเกมไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งโดยรวมแล้วเกมนี้ สารัช ถือว่าทำผลงานได้ดีที่สุดคนหนึ่งในเกมนี้เลยก็ว่าได้