ผีน้อย ร้อยล้าน! : 8 แข้งผีที่หนีไปได้ดีกับทีมอื่น

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่ปลุกปั้นดาวรุ่งมาประดับวงการลูกหนังเป็นอันดับต้นๆของโลก ไม่แพ้ บาร์เซโลน่า หรือ อาร์เซน่อล เลย

 

มีแข้งเยาวชนไม่น้อยที่ถูกดันขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ และแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว เช่น ไรอัน กิ๊กส์, พี่น้องเนวิลล์, เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, นิกกี้ บัตต์ ในยุคก่อน หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวู๊ด,  แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ในยุคปัจจุบัน

 

แต่ในขณะเดียวกันก็มี แข้งลูกหม้อมปีศาจแดงหลายคนที่ตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นโอลด์  แทร็ฟฟอร์ด เพื่อโอกาสในการลงสนามหรือเป็นตัวหลักที่มากขึ้น และหลายคนก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางลูกหนังนับตั้งแต่นั้นอีกต่างหาก

 

 ซึ่งล่าสุด ทาฮิธ ชอง แข้งดาวรุ่งที่สโมสรปลุกปั้นก็มีแนวโน้มจะลาทีมไปอีก เมื่อมีรายงานว่า อินเตอร์ มิลาน สามารถปิดดีลคว้าปีกวัย 20 ปีไปร่วมทีมแล้ว หลังเจ้าตัวปฏิเสธต่อสัญญากับต้นสังกัด

 

และนี่คือ 8 แข้งผีที่หนีไปได้ดีกับทีมอื่น ก่อนหน้า ชอง และเจ้าตัวคงหวังว่าตัวเองจะแจ้งเกิดได้เต็มตัวกับทีมอื่นเหมือนรุ่นพี่ในลิสต์นี้

 

พอล ป็อกบา

 

 

หากพูดถึง ลูกหม้อยูไนเต็ดที่ไปรุ่งกับทีมอื่น ป็อกบา นี่น่าจะเป็นนักเตะปีศาจแดงคนแรกๆที่แฟนบอลนึกถึง หลังเลือกไม่ต่อสัญญากับทีม และย้ายไปซบ ยูเวนตุส ทีมดังจากอิตาลีเมื่อปี 2012

 

และในช่วงที่กองกลางชาวฝรั่งเศสค้าแข้งในตูริน ถือเป็นช่วงเวลาที่เขาสร้างชื่อและแจ้งเกิดในวงการลูกหนังอย่างเต็มตัว พร้อมกับถูกยกให้เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุด ด้วยการพาม้าลายคว้าแชมป์ลีก 4 สมัย, โคปา อิตาเลีย 2 สมัย และเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2015

 

นั่นทำให้ ปีศาจแดง ยอมทุ่มเงินกว่า 89 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าแข้งจอมตัดผมมาร่วมทีมอีกครั้ง แต่ฟอร์มการเล่นของเขาก็สามวันดีสี่วันไข้ แถมมีข่าวว่าเจ้าตัวอยากลา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นหนที่ 2 บนหน้าสื่อแทบทุกวัน

 

ไมเคิล คีน

 

 

คีน เป็น แข้งเยาวชนปีศาจแดงชุดคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ในปี 2011 รุ่นเดียวกับ พอล ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด แต่การมี ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช หรือ กองหลังรุ่นใหม่ๆอย่าง จอนนี่  อีแวนส์,คริส สมอลลิ่ง และ ฟิล โจนส์ ทำให้โอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่มีไม่มาก และถูกปล่อยให้ทีมยืมไปใช้งานเป็นส่วนใหญ่

 

แต่ ฟอร์มของเขาเข้าตา เบิร์นลี่ย์ หลังยืมไปใช้งานเดือนมกราคมปี 2015 ทำให้ เดอะ คลาเร็ตส์ คว้าตัวไปร่วมทีมถาวรในซัมเมอร์นั้น พร้อมกับกลายเป็นกองหลังตัวหลักในทีมของ ฌอน ไดซ์ ทันที และได้ประเดิมสนามให้ทีมชาติอังกฤษด้วย

 

จากนั้นในปี 2017 ปราการหลังเลือดผู้ดี ก็ย้ายมาอยู่ทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ และอยู่ค้าแข้งจนถึงปัจจุบัน

 

 

ทอม ฮีตัน

 

 

ตลอดเวลาที่ ทอม ฮีตัน อยู่ในโรงละครแห่งความฝัน เขาไม่เคยได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่แม้แต่เกมเดียว แถมถูกทีมอื่นยืมไปใช้งานแทบทุกปี จนกระทั่งในปี 2010 เขาปฏิเสธต่อสัญญาใหมกับทีม เพื่อโอกาสลงสนามที่มากขึ้นกับ คาร์ดิฟฟ์ หนึ่งในสโมสรที่เคยยืมตัวเขาไป

 

แต่ทีมที่ทำให้ นายทวารชาวอังกฤษ กลายเป็นที่จดจำของแฟนบอลมากขึ้น ก็คือ เบิร์นลี่ย์ หลังย้ายมาร่วมในปี 2013 พร้อมขึ้นเป็นมือหนึ่งอย่างรวดเร็ว และช่วยให้ เดอะ คลาเร็ตส์ เลื่อนไปเล่นในพรีเมียร์ลีกถึง 2 ครั้งด้วยกัน

 

ทว่า การมาของคลื่นลูกใหม่อย่าง นิค โป๊ป ในปี 2017 ทำให้สถานะของเขาเปลี่ยนไป ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา

 

 

ร็อบบี้ เบรดี้

 

 

อีกหนึ่งคนที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันในทีมชุดใหญ่ของ ปีศาจแดง ร็อบบี้ เบรดี้ แม้จะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นตอนไปเล่นแบบยืมตัวกับ ฮัลล์ ซิตี้ ในปี 2011-2013 ก่อน เดอะ ไทเกอร์ส จะซื้อขาดในตลาดหน้าหนาวปีนั้น

 

แต่หลังทีมตกชั้น แข้งชาวไอร์แลนด์ ก็ย้ายไปร่วมทีมนอริช ซิตี้ สโมสรน้องใหม่ในพรีเมียร์ลีก แต่ก็อยู่ในถิ่น แคร์โรว โร้ด เพียง 2 ปี ก็โยกย้ายอีกครั้งกับ เบิร์นลี่ย์ และอยู่ยาวตั้งแต่ปี 2017 จนถึงตอนนี้

 

 

เคราร์ด ปิเก้

 

 

เคราร์ด ปิเก้ อาจจะเติบโตและฝึกฝนวิชาลูกหนังจาก ลา มาเซีย ร่วมกับ อันเดรส อิเนียสต้า และ ลิโอเนล เมสซี่ แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมแรกที่เขาเซ็นสัญญาในฐานะนักเตะอาชีพ

 

ตามสูตรแข้งดาวรุ่งทั่วไป  ถ้าไม่ได้ลงเล่น ก็ถูกปล่อยยืม แต่ผลงานกับ เรอัล ซาราโกซ่า ในฤดูกาล 2006-06 ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจไม่ปล่อย กองหลังชาวสแปนิช ให้ทีมไหนยืมตัวอีกและเก็บไว้ใช้งานในฤดูกาลต่อมา

 

แม้จะได้รับโอกาสมากขึ้น แต่ก็ยากที่จะเบียดกองหลังอย่าง เฟอร์ดินานด์ และ วิดิช เป็นตัวสำรองได้ ทำให้เขาเก็บกระเป๋ากลับไปบ้านเกิดกับ บาร์ซ่าในปี 2008 และสถาปนาเป็นแนวรับเบอร์ต้นๆของโลกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

 

แดนนี่ ดริงวอเตอร์

 

 

ไม่น่าเชื่อว่า แดนนี่ ดริงวอเตอร์ จะเป็นอดีตแข้งปีศาจแดงไม่กี่คนในทศวรรษ 2010 ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทีมอื่น (อีกคนคือ คาร์ลอส เตเบซ) หลังพาเลสเตอร์ ซิตี้ สร้างปาฏิหารย์ในฤดูกาล 2015-16

 

แต่ช่วงที่ กองกลางชาวอังกฤษ อยู่ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาไม่ต่างจากดาวรุ่งส่วนใหญ่ที่ไม่มีโอกาสโชว์ฝีเท้ากับทีมชุดใหญ่เลย จนต้องย้ายไปทีมอื่นเพื่อโอกาสที่ดีกว่า 

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แข้งวัย 29 ปี ลาเครื่องแบบจิ้งจอกสีน้ำเงิน เขาก็ไม่สามารถกลับมาทำผลงานได้ดีเหมือนก่อนเลย ไม่ว่าจะตอนอยู่กับ เชลซี, เบิร์นลี่ย์ หรือ แอสตัน วิลล่า ในตอนนี้ก็ตาม

 

 

โจชัว คิง

 

 

กองหน้าชาวนอร์เวย์ เติบโตในรั้วแคร์ริงตันตั้งแต่ปี 2008 รุ่นเดียวกับ แดนนี่ ดริงวอเตอร์ ก็แต่วนเวียนเล่นอยู่กับทีมชุดสำรองเป็นส่วนใหญ่ หรือไมก็ไปเล่นกับทีมอื่นแบบยืมตัว ก่อนที่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส จะคว้าไปร่วมทีมแบบถาวรในปี 2013

 

หลังจากนั้น 2 ปี ชื่อของ คิง กลับมาให้แฟนบอลปีศาจแดงได้นึกถึงอีกครั้ง ด้วยการย้ายมาร่วมทีม บอร์นมัธ ทีมน้องใหม่แกะกล่องประจำพรีเมียร์ลีก พร้อมกลายเป็นขวัญใจของ สาวกเดอะ เชอร์รี่ส์ อย่างรวดเร็วนับตั้งแต่นั้น

 

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แข้งวัย 28 ปี มีโอกาสย้ายกลับเล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังตกเป็นข่าวว่าทีมเก่าของเขาให้ความสนใจ แต่ท้ายที่สุดแล้ว คิง ก็ยังอยู่ล่าตข่ายในถิ่น วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม เหมือนเดิม  

 

 

จูเซ็ปเป้ รอสซี่

 

 

นี่น่าจะเป็นนักเตะลูกหม้อยูไนเต็ดอีกคนที่แฟนบอลหลายคนเสียดายฝีเท้ามากที่สุด และ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ คงจะกลายเป็นกองหน้าระดับโลกแล้ว หากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดอาชีพค้าแข้ง

 

ปีศาจแดงมอบสัญญาอาชีพให้กับ หัวหอกชาวอิตาเลี่ยนในปี 2004 แต่เขากลับได้เล่นในทีมชุดใหญ่เพียง 5 นัดเท่านั้น ตลอด 3 ปีกับทีมจากแมนเชสเตอร์ ก่อนที่ทีมจะปล่อยให้กับ บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัว 6.6 ล้านปอนด์ ในปี 2007

 

และที่นั่นเองคือทีมที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุดในอาชีพค้าแข้ง ด้วยการซัดไป 82 ประตู จาก 192 นัดในทุกรายการกับ เรือดำน้ำสีเหลือง ก่อนที่อาการบาดเจ็บจะเล่นงาน รอสซี่ จนเกือบหมดอนาคตในเวลา แต่ถึงอย่างนั้น แข้งวัย 33 ปี ก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ด้วยการโยกไปเล่นกับ รีล ซอลต์ เลค สโมสรจากเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ ในปีนี้