ผู้กอบกู้? : ทำไมซีดานถึงกลับมาคุมราชันชุดขาวอีกครั้ง

 

เมื่อคืนวันจัทร์ที่ผ่านมา สื่อกีฬาหลายสำนักได้ประโคมข่าวใหญ่ว่า เรอัล มาดริดทำการยกเลิกสัญญาของซานติอาโก้ โซลารี่ กุนซือคนปัจจุบัน และแต่งตั้ง ซีเนดีน ซีดาน เป็นผู้จัดการทีมราชันชุดขาวอีกครั้ง

 

กุนซือชาวฝรั่งเศสอำลา โลส บลังโกส หลังอยู่กับทีมได้ 2 ปีครึ่ง โดยพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน รวมถึงแชมป์ลาลีก้าอีกสมัยในช่วงนั้นด้วย นอกจากนี้ซีดานยังเป็นกุนซือคนแรกที่ป้องกันแชมป์ยุโรปได้นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 1992 และทำให้เรอัล มาดริดยังครองตำแหน่งเจ้าแห่งยุโรปต่อไปด้วย

 

แต่หลังจากนั้น เขาก็ประกาศอำลาสโมสรดื้อๆในซัมเมอร์ที่ผ่านมา เหตุผลในครั้งนั้นหลายคนก็คงทราบดีว่าเป็นเพราะอะไรซีดานถึงทำแบบนั้น แต่ส่วนหนึ่งเขาก็คงรู้ตัวดีว่าตำแหน่งของเขาไม่มั่นคงเหมือนเดิม เนื่องจากพาทีมฟอร์มตกในลาลีก้าฤดูกาล 2017-2018 ทั้งๆที่ฤดูกาลก่อนซีดานและลูกทีมของเขายังคว้าแชมป์ลีกและถ้วยยุโรปมาครองได้อยู่เลย

 

ในปีนั้นมาดริดตามหลังแชมป์ลีกอย่างบาร์เซโลน่าถึง 17 แต้ม แต่ยังมีโชคอยู่พอสมควรในแชมเปี้ยนส์ลีก (คล้ายๆกับปี 2015-2016 แต่สภาพไม่ย่ำแย่แบบนี้) ซึ่งทำให้เขาสุ่มเสี่ยงที่จะโดนปลดไม่น้อย แต่เจ้าตัวก็ตัดสินใจอย่างชาญฉลาด โดยการชิงลาออกก่อน หลังปฏิเสธที่จะทำทีมที่มีเต็มไปด้วยนักเตะมีอายุเป็นตัวหลัก

 

และในฤดูกาลนี้ก็พิสูจน์ว่าซีดานคิดถูกที่ถอยออกมาจากตำแหน่ง เรอัล มาดริดที่เคยดุดัน รุกรับรวดเร็วกลับดูเชื่องช้า, ขาดความสร้างสรรค์ในการทำเกม, เกมรุกสุดตื้อตัน และ เกมรับที่รั่วเกินจะรับไหว รวมไปถึงนักเตะรุ่นพี่ในทีมที่มั่นใจในฝีเท้าของตัวเองมาเกินไป

 

 

ยอดทีมจากลีกกระทิงดุย่ำแย่มาตั้งแต่ ฆูเลน โลเปเตกี เข้ามาคุมทีมช่วง 2-3 เดือนแรกแล้ว ก่อนจะถูกซานติอาโก้ โซลารี่ เข้ามาแทนที่ในเวลาต่อมา ซึ่งผลงานจะกระเตี้องขึ้นมาบ้าง ไปๆมาๆ ภาพรวมของทีมกลับดูเละเทะกว่าเดิม แม้จะคว้าแชมป์สโมสรโลกมาได้ แต่เขาก็พาทีมตกรอบโคปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ภายในระยะเวลาไม่ถึงสัปดาห์เท่านั้น

 

จากทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมซีเนอดีน ซีดานถึงกลับมาคุมเรอัล มาดริดเป็นคำรบที่สอง ทั้งๆที่ตัวเขาลาทีมในช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบแล้วแท้ๆ และการย้อนกลับมาครั้งนี้จะไม่ทำให้ให้ชื่อเสียงที่สะสมมาแปดเปื้อนในบั้นปลายหรือ?

 

และนี่คือ 3 เหตุผลที่ทำให้ซีดานรีเทิร์นในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาเบวอีกครั้ง

 

 

ไม่สามารถปฏิเสธความท้าทายได้

ถือเป็นเรื่องยากมากๆที่เราจะได้เห็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จทั้งการค้าแข้งและการคุมทีม และซีดานคือคนที่ได้รับการยกย่องเช่นนั้น (แม้บางคนบอกว่าซีดานแค่โชคดีก็ตาม) เขาคว้าแชมป์มาแล้วมากมายทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีมของเรอัล มาดริด และเชื่อว่าตัวซีดานคงไม่พอใจกับความสำเร็จแค่นี้แน่นอน

 

 

ทุกคนทราบกันดีว่าเขาลาทีมไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่เขาก็ยังเป็นซีดานที่กระหายในความสำเร็จอยู่เสมอ อีกทั้งการเฝ้ามองทีมรักที่กำลังเผชิญหน้ากับความตกต่ำในตอนนี้คงทำให้ซีดานเจ็บปวดไม่น้อย และอาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้ตัวเขาต้องการแก้ไขปัญหาทั้งหมดด้วยตัวเอง ไม่มีทางที่ซีดานจะมองไม่เห็นความแตกต่างแลละจุดบกพร่องของทีมในแต่ละเกมที่โลส บลังโกส ลงเล่น

 

ดังนั้นในเมื่อ ฟลอเรนติโน่ เปเรซยื่นข้อเสนอและโอกาสมาให้ซีดานอีกครั้ง ตัวเขาจะตอบปัดไปได้อย่างไร เพราะคนจริงไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและความท้าทายอยู่แล้ว อีกทั้งการคุมทีมในครั้งนี้จะพิสูจน์ว่าตัวเขาไม่ได้มีดีแค่เรื่องดวงอย่างที่แฟนบอลบางกลุ่มได้ครหาไว้

 

 

นักเตะในทีมเรียกร้อง

 

 

แม้ตัวซีดานจะตัดสินใจลาทีมมาพักใหญ่แล้ว อย่างไรก็ตามนักเตะในทีมก็ยังพูดถึงเขาในแง่ดีอยู่เสมอ และเปรยไว้ตลอดหากมีโอกาสก็อยากร่วมงานกับซีดานอีก ร่วมถึงต้องการเขากลับมาคุมทัพโลส บัลงโกสอีกครั้งในช่วงที่ทีมกำลังประสบปัญหาในช่วงกลางฤดูกาลที่ผ่านมา

 

จุดเด่นของซีดานไม่ใช่ความเก่งกาจด้านแท็คติก แต่ทว่าเป็นเรื่องการจัดการผู้เล่นในทีมมากกว่า เขามีวิธีพูดคุยและจัดการกับนักเตะในทีมจนสามารถดึงศักยภาพของผู้เล่นออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนั้นทำให้พวกเขารักใคร่และชื่นชมในตัวซีดานมากๆ แทบทุกคนในทีมต่างยกย่องซิซูและพร้อมโชว์ฝีเท้าในสนามเพื่อเขาอย่างเต็มที่ 100 เปอร์เซนต์

 

อย่างเช่น มาร์เซโล่ แบ็คซ้ายที่โดนดองในยุคโซลารี่ ได้ให้สัมภาษณ์กับ GOAL ในช่วงต้นปีไว้ว่า “ซิซูดีกับผมมากๆ และผมจะทำทุกอย่างเพื่อเขา ไม่ว่าจะเป็นวิ่งสู้ฟัดในสนามหรือเล่นจนได้รับบาดเจ็บก็ตาม” ด้วยทัศนคติแบบนี้กับนักเตะที่เล่นเคียงบ่าเคียงไหล่และคว้าแชมป์มาด้วยกัน ถ้าซีดานขอร้องให้พวกเขาทุ่มเทแบบนั้นอีกครั้ง ใครกันจะกล้าที่ปฏิเสธคำขอนั้นล่ะ?

 

 

เปเรซยอมอ่อนข้อ

 

 

หนึ่งเหตุผลที่ซีดานเลือกเดินออกจากเบอร์นาเบวหลังจากคว้าแชมป์มาประดับตู้สโมสรมากมาย คือตัวเขารู้ดีว่าทีมในตอนนั้น (และตอนนี้) ถึงเวลาต้องสร้างใหม่อย่างจริงจังอีกครั้ง แต่กลับรู้สึกว่าท่านประธานสโมสรไม่เต็มใจให้เขาทำการใหญ่ในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก

 

แต่หลังจากนี้ เปเรซจะต้องคิดทบทวนเรื่องนี้ใหม่แล้วล่ะและปล่อยให้ซีดานจัดการทุกอย่างแบบที่เขาต้องการทั้งหมด แน่นอนว่าการกลับมาคุมทีมเป็นครั้งที่สองแทบจะไม่มีโอกาสที่จะยอดเยี่ยมเท่าครั้งแรกอยู่แล้ว (ลองดูหลุยส์ ฟาน กัล ก็ได้ว่าครั้งที่สองของเขากับบาร์เซโลน่าเป็นเช่นไร) แต่เขาหนุนหลังซีดานในเรื่องการสร้างทีมขึ้นมาจริงๆ เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บวกกับการทุ่มเงินมหาศาลในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์หน้าอย่างแน่นอน

 

นักเตะระดับตำนานบางคนที่โชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงที่ซีดานคุมทีมครั้งแรก ก็มีโอกาสอยู่ไม่น้อยว่าอาจจะถึงเวลาที่เขาจะต้องโยกย้าย หรือไม่ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้านายเก่าอีกครั้ง หากต้องการอยู่ในกรุงมาดริดต่อไป เช่นเดียวกับนักเตะที่ไม่เข้าระบบอย่างเนย์มาร์ ซีดานก็จะไม่คว้าตัวมาร่วมทีมอย่างเด็ดขาด

 

ขณะที่นักเตะอย่าง อิสโก้, คาเซมิโร่ คงจะมีความสุขมากๆกับการแต่งตั้งในครั้งนี้ เช่นเดียวกับราฟาเอล วาราน และ ดาเนียล การ์บาฆาล ก็คงจะยินดีอย่างมากที่ได้กลับมาร่วมงานกับกุนซือที่ปลุกปัันให้เขาเป็นแข้งระดับโลกเช่นในตอนนี้  รวมไปถึง เอเด็น อาซาร์ สตาร์ดังของเชลซีที่น่าจะออกอาการไม่น้อยกับข่าวนี้และคงจะตัดสินใจได้ไม่ยากว่าจะทำเช่นไร หากเรอัล มาดริดยื่นข้อเสนอเพื่อสู่ขอเขาไปร่วมทีมในซัมเมอร์หน้านี้

 

แต่เรอัล มาดริดในมือของซีดานจะกลับมาเป็นยอดทีมในยุโรปได้อีกครั้งหรือไม่ เวลาเท่านั้นคือคำตอบ…