ก่อนอื่นเลย Ufaarena ต้องขอสวัสดีปีใหม่เเฟนเพจทุกคนผ่านไปอีกหนึ่งปีซึ่งนับเป็นปีที่มีการเปลี่ยนเเปลงเเละยากลำบากที่สุดเพราะมีเหตุการณ์สำคัญๆเกิดขึ้นมากมายเราจะลองย้อนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 2020 เพื่อเป็นการส่งท้ายก่อนจะเดินทางต่อไปในปี 2021
1 โควิด-19ทำพิษ
ชีวิตมนุษย์เรากำลังดำเนินไปได้ด้วยดีใครจะรู้ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันที่สะเทือนไปทุกวงการนั้นก็คือเชื้อมรณะไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 ที่ไม่ว่าต้นตอจะมาจากไหนเเต่มันก็สามารถเขย่าเศรษฐกิจโลกให้เกือบพังได้
ฟุตบอลเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเเต่สุดท้ายมันก็เข้ามาเต็มๆ เเฟนบอลเริ่มติดเชื้อ, นักเตะเริ่มติดเชื้อ, เจ้าของทีมเริ่มติดเชื้อสุดท้ายทำให้การเเข่งขันลีกต่างๆพากันหยุดการเเข่งขันชั่วคราวเริ่มจากเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ที่ประกาศยกเลิกเป็นลีกเเรก ตามด้วยลีก เอิง ฝรั่งเศส ตัดจบให้ทีมจ่าฝูงตอนนั้นคือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้าเเชมป์ ส่วน 4 ลีกใหญ่อย่างพรีเมียร์, กัลโช่ เซเรีย อา, บุนเดส ลีก้า เเละ ลาลีก้า เเข่งต่อจนจบ
อย่างไรก็ตามเเม้จะกลับมาเเข่งได้อีกครั้งหลังไวรัสซาลงเเต่พวกเขาก็ต้องเล่นในเเบบที่ไม่มีเเฟนบอลเข้าชมทำให้รายได้ของเเต่ละสโมสรขาดหายไปเยอะ เเต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เเข่ง ไม่อย่างนั้นจะสูญเสียอะไรมากกว่านั้นเเน่
2 ลิเวอร์พูล คว้าเเชมป์ครั้งเเรกรอบ 30 ปี
ฤดูกาล 1989-1990 เป็นครั้งสุดท้ายที่ลิเวอร์พูลคว้าเเชมป์ลีกซึ่งเป็นสมัยที่ 18 ตอนนั้นชื่อเดิมยังเป็นดิวิชั่น 1 ภายใต้การคุมทีมของ เคนนี ดัลกลิชเเละเป็นทีมที่คว้าเเชมป์ได้มากที่สุดของอังกฤษ
หลังจากนั้นหงส์เเดงก็ล้มลุกคลุกคลานเงยหน้ามองคู่เเข่งอย่างเเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าเเชมป์ครั้งแล้วครั้งเล่าจนในที่สุดจากที่ตามก็เเซงขึ้นไปคว้าเเชมป์ลีกมากที่สุด(20 สมัย)
อย่างไรก็ตามยุคสมัยเเห่งการรอคอยก็จบสิ้นในฤดูกาล 2019-20 ซึ่งเป็นปีที่ 4 ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามารับตำเเหน่งพอดี ต้องบอกว่าเป็นปีที่เก่งบวกเฮงนอกจากจะเก่งเองเเล้วทีมคู่เเข่งอื่นๆต่างพากันผลงานสะดุดเป็นว่าเล่น
หงส์เเดงผงาดคว้าเเชมป์ได้ตั้งเเต่เกมที่ 31 ซึ่งตอนนั้นทำคะเเนนทิ้งห่างเเมนฯ ซิตี้ถึง 23 คะแนน เเม้ว่าช่วงก่อนหน้านั้นจะมีเสียวๆบ้างหลังถูกวิกฤติโควิดโจมตีจนมีกระเเสให้ยกเลิกการเเข่งขันเเต่สุดท้ายก็กลับมาเเข่งปกติเเละการรอคอย 30 ปีของเเฟนๆก็สิ้นสุดลง
3 เลวานดอฟสกี้พลาดบัลลงดอร์ (เพราะถูกยกเลิก)
ผลงานที่ยอดเยี่ยม โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดกองหน้าเลือดโปลของทีมเสือใต้ที่ระเบิดฟอร์มได้เด่นที่สุดในทีมกระทุ้งไปถึง 55 ประตู จากการลงเล่น 47 นัดบวกกับคู่เเข่งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เเละ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีด้วย
ทั้งผลงานทีมเเละผลงานส่วนตัวคงไม่มีใครกล้าคัดค้านหาก เลวานดอฟสกี้ จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมโลกหรือบัลลงดอร์ไปครองเเต่เเข้งโปเเลนด์ก็ต้องอกหักหลังฝ่ายจัดประกาศยกเลิกการเเจกรางวัลนี้ไปโดยให้เหตุผลมาจากโควิดที่ทำให้ลีกบางลีกต้องยกเลิกการเเข่งขันไป
4 อาร์เซน่อลปลดมาสค็อต
จากเหตุวิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ลีกต่างๆต้องพักการเเข่งขันเเถมเมื่อกลับมาเเข่งได้ก็ต้องเล่นเเบบไม่มีเเฟนบอลนั้นทำให้หลายทีมประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงินรวมถึงอาร์เซน่อลด้วย
วิธีที่สโมสรอื่นๆทำคือพยายามลดรายได้ ขอความร่วมมือให้นักเตะค่าเหนื่อยสูงยอมปรับลดลงมาเพื่อนำเงินไปจ่ายให้กับพนังงานเล็กๆเป็นการช่วยเพื่อนร่วมงาน เเต่ทีมปืนใหญ่ทำสิ่งที่กลับกันนั้นคือพวกเขาสั่งปลดมาสคอตประจำทีมคือ “กันเนอร์ซอรัส” ( Gunnersaurus) ที่ทำงานให้กับสโมสรมานานถึง 27 ปี ทำให้ เจอร์รีย์ ควี พนักงานพาร์ทไทม์ คนที่สวมชุดไดโนเสาร์มาตั้งแต่ตอนก่อตั้งเจ้ามาสค็อตในปี 1993 ก็ต้องโบกมือลาสโมสรตามไปเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ทำให้เเฟนบอลไม่พอใจอย่างมากเพราะกันเนอร์ซอรัสเป็นเหมือนสัญลักษณ์ทีมที่มีมายาวนาน ขณะเดียวกันเซบีย่าทีมดังเเห่งสเปนเป็นฝ่ายที่ดึงมาสค็อตดังกล่าวไปเป็นลิขสิทธิ์ทีมตัวเอง
5 มาราโดน่าเสียชีวิต
ช่วงปลายปีเกิดข่าวที่ไม่คาดฝันเเละเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการกีฬานั้นคือการจากไปเเบบไม่มีวันกลับของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานนักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา
อดีตเเข้งนาโปลีเเละบาร์เซโลน่าต่อสู้กับอาการติดแอลกอฮอล์อย่างหนักตลอดช่วงที่่ผ่านมาเข้ารับผ่าตัดหลายต่อหลายครั้งเเต่อาการก็มีเเต่ทรุดลงๆ จนในที่สุดวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 มาราโดน่าก็เสียชีวิตด้วยวัย 60 ปีที่บ้านเกิดจากเหตุหัวใจวายเฉียบพลัน
หลังการเสียชีวิตเเฟนบอลบางส่วนมองสาเหตุการเสียชีวิตไปที่การดื่มเหล้าเเละยุ่งกับสิ่งเสพติดเเต่หลังการชันสูตรพลิกศพปรากฏว่าไม่พบสารผิดกฏหมายหรือสิ่งมึนเมาในร่างกายมาราโดน่าทำให้เขาพ้นจากคำกล่าวหาต่างๆ
6 เมสซี่ประกาศลาทีม
เป็นอีกหนึ่งข่าวที่ช็อกวงการฟุตบอลไม่น้อยในฤดูกาล 2019-20 ลิโอเนล เมสซี่ เเข้งซูเปอร์สตาร์ของบาร์เซโลน่าที่เป็นเหมือนไอคอนของทีมประกาศขอลาทีมเมื่อจบฤดูกาล
บาร์ซ่าต้องพบกับวิกฤติอย่างหนักนอกจากเรื่องของโควิด-19 ผลงานทีมรวมก็ย่ำเเย่ไม่สามารถคว้าถ้วยรางวัลใด ๆ ติดมือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี และที่เจ็บปวดที่สุดก็คงหนีไม่พ้นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศที่เเพ้ให้กับ บาเยิร์น ไปแบบช็อกโลกด้วยผลบอล 2-8
ผลงานในสนามว่าเเย่เเล้วเรื่องนอกสนามยิ่งเเล้วใหญ่ เมสซี่ ดูเหมือนจะไม่ลงรอยกับ โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว ประธานคนปัจจุบันรวมถึง กีเก้ เซเตียน กุนซือในตอนนั้นที่ดูจะไม่เป็นที่เคารพของเมสซี่ถึงขนาดไม่ยอมฟังคำสั่งจากผู้ช่วยของเขา เเต่ท้ายที่สุดเจ้าตัวยังคงไม่ได้ย้ายทีมตามคิดเพราะเนื่องจากมีค่าฉีกสัญญาที่เหลืออีก 1 ปีสูงถึงกว่า 700 ล้านปอนด์ทำให้เจ้าตัวจำใจต้องเล่นกับทีมอีก 1 ใบ
7 เชราร์ อุลลิเยร์เสียชีวิต
เป็นอีกหนึ่งปีที่วงการฟุตบอลสูญเสียคนระดับตำนานไปอย่างมากมาย เชราร์ อุลลิเยร์ อดีตกุนซือผู้พาลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จก็ต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับเช่นกัน
ผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ อุลลิเยร์ นอกจากจะพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์บอลถ้วย(เอฟเอคัพ, ลีกคัพ, เเละ ยูโรป้า ลีก) เขายังเป็นคนที่ปลุกปั้น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานนักเตะเบอร์ 1 ขึ้นมาได้จนถึงทุกวันนี้ ทั้งการให้โอกาสขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เเละการมอบปลอกเเขนกับทีมทีมให้เขา
กุนซือฝรั่งเศสเสียชีวิตด้วยวัย 73 ปี หลังจากที่ตัวเข้ารับการผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจเเละจากไปขณะกลับมาพักฟื้นตัวที่บ้านในเเดนน้ำหอม
8 โรนัลดินโญ่ติดคุก
สูงสุดคืนสู่สามัญ..ใช้คำนี้นิยามโรนัลดินโญ่ก็คงไม่ผิด เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นสุดยอดนักเตะของโลกสมัยที่ค้าเเข้งอยู่กับบาร์เซโลน่า ประสบความสำเร็จมากมาย คว้าเเชมป์ลาลีก้า 2 สมัย เเละ ยูฟ่าเเชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย เเละรางวัลส่วนตัวบัลลงดอร์อีก 1 สมัย
อย่างไรก็ตามหลังจากเเขวนสตั๊ดเจ้าตัวมีเเต่เรื่องอื้อฉาวไม่เว้นเเต่ละวัน เริ่มตั้งเเต่การเเต่งงานกับหญิงสาวถึง 2 คนซึ่งผิดกฏหมายของประเทศบราซิล ต่อด้วยโดนแฟนเก่าฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูเเถมยังใช้ชีวิตเเบบฟุ่มเฟือยสุดๆจนเงินในบัญชีเริ่มหายไปเรื่อยๆก่อนจะโดนยึดรถและอสังหาริมทรัพย์
ชีวิตของเหยินน้อยถึงจุดตกต่ำสุดๆ ทำให้เขาต้องดิ้นรนออกงานอีเวนต์ต่างๆ เพื่อหารายได้เข้าบัญชี ปัญหาเกิดเมื่อเขาได้รับเชิญให้ร่วมงานของมูลนิธิแห่งหนึ่งในปารากวัย เเต่กลับโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวข้อหาปลอมพาสปอร์ตเเม้เจ้าตัวจะปฏิเสธไม่รู้เรื่องเพราะมีคนจัดหาให้เเต่ก็ไม่รอดเข้าไปนอนในคุกรวมเป็นเวลานานกว่า 4 เดือนกว่าจะได้รับการปล่อยตัว
9 บาเยิร์น ทริปเปิ้ลแชมป์
บาเยิร์น มิวนิค สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมที่ 7 ในยุโรปที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์หรือ 3 เเชมปมาครองได้ต่อจาก เซลติก, อาแจ็กซ์, พีเอสวี, แมนฯ ยูไนเต็ด, บาร์เซโลน่า และ อินเตอร์ มิลาน เเต่ก็น่าเสียดายไปนิดที่กระเเสความสำเร็จในครั้งนี้โดนกลบข่าวโดยเเชมป์ลีกของลิเวอร์พูลไม่มากก็น้อย
นอกจากจะเป็นทีมที่ 7 เเล้วเสือใต้ยังเป็นทีมที่ 2 ต่อจากบาร์เซโลน่าที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้ 2 ครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาเหมือนจะมีปัญหารุ่มเร้าเข้ามามากทีเดียว
เริ่มจากการเสียนักเตะตัวหลักในยุครุ่งเรื่องที่อายุมากออกจากทีมไปนำโดย อาร์เยน ร็อบเบน, ฟร้องค์ ริเบรี่ เเละ ราฟินญ่า พวกนักเตะใหม่อย่าง ลูคัส เอร์นานเดซ, เบนจามิส ปาวาร์ รวมถึง เรนาโต ซานเชส ก็ต้องใช้เวลาปรับตัว รวมไปถึงการเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่นั้นคือการเปลี่ยนกุนซือจาก นิโก้ โควัค เป็น ฮันซี่ ฟลิค
เเม้จะเป็นกุนซือที่ไม่มีชื่อชั้นอะไรมากเมื่อเทียบกับทีมอย่างบาเยิร์นเเละโดนกระเเสต่อต้านจากเเฟนๆไม่น้อย เเต่เขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองจนครั้งหนึ่งพาทีมไร้พ่าย 18 เกม ก่อนที่จะเดินหน้าคว้าเเชมป์ไปเรื่องๆจนประสบความสำเร็จสูงสุด
10 บีจี เปิดตัว ดิโอโก้-มุ้ย
ช่วงปีที่ผ่านวงการฟุตบอลไทยเหมือนจะมีอะไรเปลี่ยนไปเยอะ มหาอำนาจลูกหนังอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ดทำเหมือนเป็นทีมถังเเตกขายนักเตะตัวหลักในทีมออกเกือบหมดเเละเป็น บางกอกกล๊าส ที่ตกชั้นไปเเละเปลี่ยนชื่อเป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่กลับมาพร้อมกับความยิ่งใหญ่เเละเม็ดเงินมหาศาล
ทีมกระต่ายเเก้วสร้างความฮืฮอาด้วยการคว้าตัว ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ กองหน้าระดับเทพที่เพิ่งหมดสัญญากับ ยะโฮร์ฯ ทีมในลีกมาเลเซียกลับมาเล่นในไทยลีกอีกครั้ง เเละยิ่งกว่านั้นคือการได้ตัวดาวยิงมากประสบการณ์อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ที่ไปซื้อกลับมาจาก ชิมิสุ เอส พัลส์ ทีมจากเจลีก ลุยศึกเลก 2 บวกกับพวกเเข้งในทีมอยู่เเล้ว เรียกได้ว่าพวกเขามีนักเตะในระดับที่ลุ้นเเชมป์ได้สบายๆ