ฝันค้าง! 6 นักเตะบิ๊กเนมโดนเบี้ยวสัญญาย้ายทีม

บิ๊กเนม

สถานการณ์ของ แฮร์รี เคน กับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ยังคงเข้มข้นต่อเนื่อง หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัวตัดสินใจไม่มารายงานตัวซ้อมกับทีมตามเวลาที่กำหนดไว้ จนทำให้ไม่มีชื่อลงสนามเกมพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่ล่าสุดดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ไม่ได้บินร่วมกับทีมไปโปรตุเกส เพื่อลงเล่นเกม ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ที่พบกับ ปากอส เดอ เฟอร์ไรร่า ซึ่งเชื่อว่านี่คือการหักดิบประธานสโมสรอย่าง ดาเนียล เลวี ที่ผิดสัญญาไม่ให้เขาย้ายทีม

มีการเปิดเผยว่า ดาเนียล เลวี ได้ทำสัญญาลูกผู้ชายไว้กับ แฮร์รี เคน สมัยที่ยังมี โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีม ว่าจะยอมปล่อยเขาออกจากทีมทันที หาก “ไก่เดือยทอง” ไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าของสโมสรชาวอังกฤษ กำลังทำผิดคำสัญญานั้น

โดยเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเคยเกิดขึ้นกับนักเตะชื่อดังมาแล้วหลายคนตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ซึ่งวันนี้ UFAARENA จะขอพาไปดูกันว่า 6 นักเตะบิ๊กเนมที่เคยถูกเบี้ยวคำสัญญาเกี่ยวกับการย้ายทีมจะมีใครกันบ้าง และบทสรุปท้ายที่สุดจบลงเช่นไร

 

ริยาด มาห์เรซ | เลสเตอร์ ซิตี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปิดดีลคว้า ริยาด มาห์เรซ เข้ามาเสริมทัพด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ของเขากับต้นสังกัดเก่า เลสเตอร์ ซิตี้ กลับต้องถูกทดสอบ ก่อนเจ้าตัวย้ายมาค้าแข้งที่อีสต์แลนด์ ซึ่งนั่นไม่น่าแปลกใจเท่าไรกับการที่เขาออกอาการดีใจหลังยิงประตูทีมเก่าได้สำเร็จ

“มีการพูดคุยเกิดขึ้นระหว่างผมกับประธานสโมสรเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว และเราตกลงกันตอนนั้นว่าผมจะอยู่ช่วยสโมสรอีกหนึ่งปีให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ภายหลังคว้าแชมป์ลีกและได้ลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก” ริยาด มาห์เรซ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว 12 เดือน หลังจากที่เขาพา “จิ้งจอกสยาม” สร้างเทพนิยายผงาดแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2015/2016

ทว่าเรื่องดังกล่าวไม่ถูกแจ้งไปยัง เคร็ก เชคสเปียร์ กุนซือชาวอังกฤษ ซึ่งเข้ามารับงานคุม เลสเตอร์ แทนที่ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 นั่นทำให้ ริยาด มาห์เรซ ไม่ได้รับอนุญาตย้ายออกจากทีมช่วงหน้าร้อนก่อนเริ่มต้นซีซั่น 2017/2018 และต้องอยู่กับสโมสรต่ออีกหนึ่งฤดูกาล แม้ว่าเขาเองไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรก็ตาม และมันทำให้สถานการณ์ของเจ้าตัวกับทีมเริ่มมีความตรึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ

ท้ายที่สุด มาห์เรซ ถูกปล่อยไปอยู่กับยอดทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ช่วงหน้าร้อนปี 2018 และแม้ว่าเขาเคยพา เลสเตอร์ ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษ ทว่าทุกครั้งที่ต้องลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลทีมเก่า ปีกชาวแอลจีเรีย ยังคงถูกส่งเสียงโห่จนถึงทุกวันนี้

 

อเล็กซิส ซานเชซ | อาร์เซน่อล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คงรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่ตัดสินใจคว้า ริยาด มาห์เรซ มาร่วมทีมแทนที่จะเป็น อเล็กซิส ซานเชซ ซึ่งพวกเขาเคยมีโอกาส ผลงานของอดีตแข้ง บาร์เซโลน่า ดรอปลงอย่างน่าจะใจหาย นับตั้งแต่ถูกแลกตัวกับ เฮนริค มคิทาร์ยาน จาก อาร์เซน่อล ไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาอาจทำผลงานได้ดีกว่าหากย้ายไปเล่นกับ “เรือใบสีฟ้า”

วันสุดท้ายของตลาดซื้อขายหน้าร้อนปี 2017 ถือเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายสำหรับ อาร์เซน่อล ซึ่งได้รับข้อเสนอ 60 ล้านปอนด์ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ซานเชซ หนึ่งปีก่อนที่แข้งชาวชิลี จะหมดสัญญากับสโมสร ชัดเจนว่าเขาต้องการไปเล่นที่เมืองแมนเชสเตอร์ เช่นเดียวกับที่เพื่อนร่วมทีมชาติชิลี เผยว่า ซานเซส กำลังจะย้ายทีม หลังตกเป็นข่าวกับ “เดอะ บลูส์”

ทว่า อาร์เซน่อล ตัดสินใจยกเลิกการเจรจาทั้งหมดทันที แม้การพูดคุยกำลังดำเนินไปถึงขั้นตอนสุดท้าย หลังจากที่พวกเขาไม่สามารถปิดดีลคว้า โธมัส เลอมาร์ สตาร์ของ โมนาโก ณ เวลานั้น ซึ่งกำลังมุ่นมั่นกับการค้าแข้งที่ฝรั่งเศส และยังไม่มีแผนเกี่ยวกับการย้ายทีม นั่นเองทำให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จำเป็นต้องหันไปมองหากองหน้ารายใหม่ และฝันของ ซานเชซ กับการย้ายไปเล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ก็ค่อยๆ จางหายไป

The City Football Group เคยคิดที่จะฟ้อง “ปืนใหญ่” กรณีไม่ยอมปล่อยตัว อเล็กซิส ซานเชซ ให้กับพวกเขา ก่อนท้ายที่สุดแข้งรายดังกล่าวย้ายไปอยู่กับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และการปล่อยดาวเตะทีมชาติชิลี ออกจากทีม ในช่วงที่เจ้าตัวกำลังถูกโจมตีจากแฟนบอล พร้อมกับพา มคิทาร์ยาน เข้ามาแทนที่ ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ได้รับความดีความชอบไม่น้อย

 

หลุยส์ ซัวเรซ | ลิเวอร์พูล

“เมื่อปีที่แล้วผมเคยมีโอกาสย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่ และผมยังเข้าใจว่าหากเราไม่สามารถไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ผมจะได้รับอนุญาตให้ย้ายทีมทันที” หลุยส์ ซัวเรซ เผยเมื่อปี 2013

“ฤดูกาลที่แล้วผมทุ่มเททุกอย่างไปหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เราจบท็อปโฟร์ ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการคือให้ ลิเวอร์พูล ทำตามข้อตกลงของเรา นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับสโมสรที่ตกลงทำบางสิ่ง ทั้งคำพูดและในสัญญา ซึ่งตอนนี้พวกเขาไม่ให้เกียรติมัน”

ย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2013 หลุยส์ ซัวเรซ ตกเป็นข่าวอย่างหนักเกี่ยวกับการย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ หลังซีซั่นก่อนหน้า “หงส์แดง” ไม่สามารถจบตำแหน่งท็อปโฟร์ได้สำเร็จ ซึ่งเวลานั้น อาร์เซน่อล คือตัวเต็งที่มีโอกาสคว้าดาวยิงชาวอุรุกวัย ไปเสริมทัพ ทว่าด้วยข้อเสนอ 40 ล้านปอนด์ + 1 ปอนด์ สร้างความไม่พอใจให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นอย่างมาก ก่อนท้ายที่สุด “เดอะ กันเนอร์ส” ล้มเลิกความพยายามที่จะคว้าตัว ซัวเรซ และหันไปเซ็นสัญญากับ เมซุต โอซิล

แม้ถูก ลิเวอร์พูล ผิดคำสัญญาไม่อนุญาตให้เขาย้ายทีมตามที่เคยตกลงกันไว้ อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่าซีซั่น 2013/2014 คือฤดูกาลที่ดีที่สุดของ ซัวเรซ กับยอดทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ หลังระเบิดฟอร์มสุดยอดยิง 31 ประตู จากการลงเล่น 33 นัด ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับพาทีมจบตำแหน่งรองแชมป์ลีก ถือเป็นการปิดฉากช่วงเวลาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล อย่างสวยงาม ก่อนย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในซีซั่นถัดมา

 

จาดอน ซานโช่ | โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

เป็นเวลาเกือบปีกว่าที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถปิดดีลคว้า จาดอน ซานโช่ มาร่วมทีมได้สำเร็จ หลังผ่านเรื่องราวมากมากมายและข่าวคราวที่น่ากังวลสำหรับแฟนบอล “ปีศาจแดง” เกี่ยวความพยายามในการเซ็นสัญญากับอดีตแข้งซุปเปอร์สตาร์ บุนเดสลีกา เยอรมัน

เพราะแทนที่จะยกระดับเป็นทีมลุ้นแชมป์ตั้งแต่เมื่อซีซั่นที่แล้ว ด้วยการดึง ซานโช่ เข้ามาเสริมทัพ “เรด เดวิลส์” กลับพยายามต่อรองเจรจากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จนทำให้พวกเขาไม่สามารถปิดดีลแข้งทีมชาติอังกฤษ ได้สำเร็จก่อนตลาดซื้อขายนักเตะปิดลง มีรายงานว่า เอ็ด วู้ดเวิร์ด พยายามเจรากับ “เสือเหลือง” เพื่อให้พวกเขาได้ ซานโช่ ด้วยค่าตัวซึ่งถูกลงจากจำนวนเงินที่สโมสรเยอรมัน ต้องการ และนั่นทำให้ ซานโช่ ต้องอยู่กับทีมเดิมต่อในซีซั่นที่ผ่านมา

“ปีที่แล้วเราได้สัญญากับ จาดอน ว่าเขาสามารถย้ายทีมได้ทันทีด้วยเงื่อนไขบางอย่าง” ไมเคิล ซอร์ค ผู้อำนวยการ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อ บางทีเป็นไปได้ว่าการที่พวกเขาไม่มีคู่แข่งทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่รีบร้อนที่จะปิดดีลคว้า ซานโช่ หรือยังไม่อยากได้เจ้าตัวมาร่วมทีมแบบจริงจังมากพอในตอนนั้น

ท้ายที่สุด จาดอน ซานโช่ อยู่ต่อกับสโมสร จนกระทั่ง ดอร์ทมุนด์ ยอมลดค่าตัวตามที่ ยูไนเต็ด ต้องการ เช่นเดียวกันกับ ซอร์ค ที่ได้ทำตามสัญญาซึ่งเคยให้ไว้กับปีกชาวอังกฤษ ด้วยการปล่อยมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 73 ล้านปอนด์ ในซีซั่นนี้

 

รอย คีน | น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

“ผมรู้สึกแย่เพราะผมตกลงที่ย้ายไปอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส” รอย คีน พูดถึงการย้ายทีมของเขาจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อปี 1993 และการที่คุณทำให้คนขี้โมโหและเจ้าอารมณ์รู้สึกแย่ได้ นั่นแปลว่าคุณทำสิ่งที่เลวร้ายมากๆ

เวลานั้น คีโน่ กำลังจะได้ย้ายไปร่วมงานกับ เคนนี่ ดัลกลิช ที่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตามที่เขาต้องการ แต่ยังไม่มีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการเกิดขึ้น ซึ่งนั่นทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ใช้ความเจ้าเลห์ตัดหน้าคู่แข่งคว้าเจ้าตัวมาลงเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ปัญหาคือ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไม่สามารถปิดดีลกับ รอย คีน ได้ทันเวลาเลิกงานของวันศุกร์ ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาไม่มีเจ้าหน้าที่ที่จะพิมพ์เอกสารให้กับ คีน เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ มีเพียงแค่การจับมือกันระหว่างนักเตะและกุนซืออย่าง ดัลกลิช เท่านั้น และทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะมาจัดการให้เสร็จสิ้นภายในวันจันทร์

แต่ทุกอย่างไม่เป็นแบบที่คิด หลัง เฟอร์กี้ ได้ติดต่อไปยัง คีน ทันทีที่รู้ข่าวเกี่ยวการพูดคุยกับ “กุหลาบไฟ” ในวันอาทิตย์ และวันต่อไปเขาตัดหน้าไปรับ คีน ที่สนามบิน หลังกลับมาจากการพักผ่อนที่บ้านเกิดช่วงวันหยุด ก่อนพยายามโน้มนาวใจให้ย้ายมาอยู่กับทีม และมันประสบความสำเร็จ ท้ายที่สุดเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ คีน ไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติบนเกาะอังกฤษ เวลานั้น 3.7 ล้านปอนด์

 

ลูก้า โมดริช | ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ดาเนียล เลวี เคยพร้อมที่จะสนับสนุนอนาคตเส้นทางการค้าแข้งอันสดใสของดาวเตะชาวโครเอเชีย สมัยกำลังโน้มนาวใจให้มาเล่นในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน อย่างไรก็ตามเมื่อ เชลซี เริ่มสนใจ ลูก้า โมดริช เจ้าของทีม “ไก่เดือยทอง” ปิดโอกาศสำหรับการย้ายทีมทันที

“ถ้าสโมสรใหญ่ติดต่อเข้ามาพร้อมข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม เราจะพิจารณาและตกลงด้วยแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง” ลูก้า โมดริช เผยบทสนทนาระหว่างเขากับประธานสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ “ตอนนี้ เลวี ไม่อยากคุยกับผม และบอกว่าไม่มีทางที่ผมจะออกจาก สเปอร์ส เขาขู่ผม เขาบอกว่าถ้าผมไม่ยอมรับจุดยืนของสโมสร พวกเขาจะให้ผมนั่งเป็นตัวสำรองหรือไม่ก็บนอัฒจันทร์”

ลูก้า โมดริช ต้องรอนานกว่า 12 เดือน ก่อนที่ เรอัล มาดริด จะมาทุ่มเงิน 30 ล้านปอนด์ พาเข้าออกไปจากกรุงลอนดอน เมื่อปี 2012 เช่นเดียวกับ แฮรรี่ เคน ที่เขาเซ็นสัญญา 6 ปี กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และเช่นเดียวกันกับ เคน ที่ โมดริช ไม่สามารถต่อรองอะไร ดาเนียล เลวี ได้เลย

 

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : เรื่องเคนจิ๊บจ๊อย : 10 เหตุการณ์แข้งหายหน้าด้วยเหตุผลสุดป่วน