ฝันร้ายยังไม่จบ : เนรัซซูรี่ กับอนาคตที่มืดมนของ ‘ซานเชซ’ 

 

แม้จะย้ายมาค้าแข้งใน เซเรีย อา กับ อินเตอร์ มิลาน แบบยืมตัวในฤดูกาลนี้ แต่ว่า อเล็กซิส ซานเชซ ก็ดูลำบากไม่ต่างจากสมัยที่เล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เท่าไหร่

 

ปีกชาวชิลี หายหน้าจากทีมไปตั้งแต่เดือนตุลาคม หลังได้รับบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าซ้ายฉีกจากเกมทีมชาติ จนต้องเข้ารับผ่าตัด และใช้เวลาถึง 3 เดือนกว่าจะหายกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองอีกครั้ง

 

แต่ท่ามความสนใจในตัว โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าเบอร์สำรองของเชลซี และ คู่หอกกองหน้าฟอร์มแรงของงูใหญ่อย่าง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กับ โรเมลู ลูกากู ยิ่งทำให้โอกาสแจ้งเกิดอีกครั้งของหอกเลือดชิลีมีน้อยกว่าเดิมไปทุกที 

 

ดังนั้น สิ่งใดเป็นปัจจัยที่ทำให้ แข้งวัย 31 ปี ที่เพิ่งย้ายกลับค้าแข้งลีกสูงสุดแดนอิตาลีอีกครั้ง ส่อแววล้มเหลวไม่เป็นท่าในฤดูกาลนี้กัน?

 

คนดวงกุด 

 

 

อดีตแข้งอาร์เซน่อล บอกลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อย้ายมาร่วมทีมเนรัซซูรี่แบบยืมตัวในเดือนสิงหาคมปีก่อน เพื่อเรียกฟอร์มเก่งและกลับไปเป็นกองหน้าสุดอันตรายคนเดิมเหมือนสมัยเล่นกับ อาร์เซน่อล ให้ได้อีกครั้ง 

 

“มันขึ้นอยู่กับเราในการช่วยให้เขาหาฟอร์มเก่งที่ทำหายไปเล็กน้อยให้เจอ” อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือจอมเฮี้ยบของอินเตอร์ กล่าวในเดือนกันยายน

 

“อเล็กซิส เป็นนักฟุตบอลที่มีลักษณะพิเศษ เขาเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่ง และในเวลาต่อมา เขาจะได้เห็นเขาในสนาม”

 

แฟนบอลงูใหญ่ รับรู้ดีว่า แข้งทีมชาติชิลี ฟอร์มตกต่ำมานานแค่ไหนในพรีเมียร์ลีก แต่ผลงานของเขาในสมัยเล่นให้ อูดิเนเซ่ ก่อนจะย้ายไป บาร์เซโลน่า เมื่อหลายปีก่อน ได้แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของซานเชซ เป็นอย่างดี และมีไม่น้อยที่ตื่นเต้นกับการกลับมาเล่นในอิตาลีของเขาอีกครั้ง

 

ทุกอย่างเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม เมื่อแข้งวัย 31 ปี ทำประตูแรกในนัดประเดิมสนามที่พบกับ ซามพ์โดเรีย แต่ทว่าดันถูกไล่ออกในเวลาต่อมาไม่นาน หลังจากนั้นอีก 3 วัน เขาก็ประสานงานกับ เลาตาโร่ หอกหรุ่นน้องในทีมได้ดีพอตัว ณ วันที่บุกไปเยือนทีมเก่าของเขาที่ คัมป์ นู ก่อนจะบาดเจ็บยาวๆในเกมทีมชาติต่อจากนั้น

 

https://www.youtube.com/watch?v=Sadaz4b4nRs

 

เหตุการณ์เหล่านี้พิสูจน์ว่า ซานเชซ ต้องประสบพบเจอกับความโชคร้ายบ่อยครั้งนับตั้งแต่ย้ายมาสวมเครื่องแบบงูใหญ่ เพราะเมื่อไหร่ที่ทำผลงานได้ดี เขาก็จะถอยหลังกลับไปตั้งหลักใหม่อีกหลายก้าว

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย แฟนบอลอินเตอร์ก็คาดหวังสิ่งดีๆจาก แข้งวัย 30 ปีได้อยู่เหมือนกัน หลังโชว์ฟอร์มใช้ได้ในศึกโคปปา อิตาเลีย ที่ถล่ม กายารี่ 4-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

 

แม้ตัวเขาจะถูก คอนเต้ ต่อว่าเรื่องความฟิตที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ในเกมที่ทีมเสมอกับ อตาลันต้า จนลงสนามช่วยทีมไม่ได้ เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มกราคม แต่ความสามารถของเขากับลูกบอลก็พอทดแทนจุดนั้นได้อยู่ อย่างที่ได้เห็นไปในบอลถ้วยแดนรองเท้าบู้ต

 

สื่ออิตาลีก็เห็นพ้องต้องกันว่า ‘เครื่องยนต์ของเขาอาจยังพร้อม แต่ฝีเท้าดูเข้าที่เข้าทางแล้ว และเมื่อกลับมา 100 เปอร์เซนต์ เมื่อไหร่ เขาจะสร้างความบันเทิงได้อย่างแน่นอน’

 

 

คู่หูแดนหน้าที่ผูกขาด

 

 

อาการบาดเจ็บ เป็นเหตุผลง่ายๆที่บอกว่าทำไมการย้ายมาอินเตอร์ของ ซานเชซ ถึงล้มเหลว รวมไปถึง ฟอร์มการเล่นที่เฉิดฉายของ โรเมลู ลูกากู อดีตเพื่อนร่วมทีมในปีศาจแดง และ หอกดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ อย่าง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

 

ทั้งคู่ประสานงานในแดนหน้ากันได้เข้าขารู้ใจทั้งในและนอกสนาม พร้อมกับกลายเป็นแข้งขวัญใจแฟนบอลงูใหญ่อย่างรวดเร็ว ด้วยการทำประตูรวมกันกว่า 33 ประตูในทุกรายการ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 60 เปอร์เซนต์ของประตูทั้งหมดที่ทีมได้ในฤดูกาลนี้เลย

 

นั่นทำให้โอกาสในการลงสนามของ ซานเชซ น้อยลงอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย หรือได้รับบาดเจ็บเหมือนก่อนหน้านี้ก็ตาม 

 

ถึงแม้ว่าเราจะเห็นเขากลับมาลงสนามบ้างในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีเกมไหนเลยที่เขาได้ลงเล่นแบบเต็ม 90 นาที ทั้งบอลถ้วยกับ กายารี่ (เป็นตัวจริง ลงเล่น 69 นาที) และ บอลลีกนัดล่าสุดที่เสมอ เลชเช่ 1-1 (ตัวสำรอง, ลงเล่น 8 นาที)

 

อีกทั้ง คอนเต้ ต้องไม่อยากเสี่ยงให้ กองหน้าคู่ขวัญของเขา ถูกเปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออกบ่อยๆในช่วงที่กำลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแบบนี้เท่าไหร่ หากไม่มีความเป็นจำเป็นจริงๆ 

 

 

อาร์เซน่อล รียูเนี่ยน?

 

 

ในขณะเดียวกัน สื่อต่างๆได้รายงานกว่า อินเตอร์ ใกล้ตกลงรายละเอียดคว้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าชาวฝรั่งเศส มาได้ในเร็วๆนี้ หลังไม่รับโอกาสมากนักในเชลซี ที่มี แฟรงค์ แลมพาร์ด กุมบังเหียนอยู่ 

 

และแม้ว่าการย้ายทีมครังนี้อาจทำให้ เวลาลงสนามของ แข้งทีมชาติชิลี ลดลงกว่าเดิม ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ แต่มองอีกมุมหนึ่ง มันก็อาจช่วยให้เขาลงเล่นในถิ่น ซาน ซีโร่ มากกว่าเดิมเช่นกัน

 

ทั้ง ชูริด์ และ ซานเชซ เคยเล่นด้วยกันมาก่อนในสมัยที่ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล และเป็นตัวเลือกหลักในแดนหน้าของ อาร์เซน เวนเกอร์ ในระหว่างปี 2014-2018 ซึ่งทั้งคู่คว้าดาวซัลโวของทีมด้วยกันในช่วง 3 ฤดูกาลที่เล่นด้วยกัน พร้อมกับช่วยกันคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ 2 สมัย (2015, 2017)

 

หากการรียูเนี่ยนเกิดขึ้นจริงๆ พวกเขาคงหวังไว้ไม่น้อยว่าจะสามารถดึงเคมีที่เคยใช้ด้วยกันในทีมปืนใหญ่ เอาออกโชว์ให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นใน เซเรียอา   

 

อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ ทั้งคู่ คงไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆของกุนซือเป็นแน่แท้ และจะต้องกลายเป็นตัวสำรองต่อไป ถ้าหาก ลูกากู และ เลาตาโร่ 2 หอกตัวหลักไม่บาดเจ็บไปเสียกัน

 

ไปๆมาๆ ความข้องใจเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของ ซานเชซ และ ความฟิตของเขา กลับกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ อินเตอร์ หันไปคว้า หัวหอกจากสิงห์บลู มาร่วมทีมมากกว่าหวังให้พวกเขาช่วยกันประสานงานในแดนหน้าเหมือนตอนที่ เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม

 

อีกทั้งทั้งนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อ ชิรูด์ มากกว่า เพราะโอกาสลงสนามในเกมที่เหลือจะยิ่งทำให้เขาติดทัพ เลอ เบลอส์ ไปเล่นศึกยูโรในซัมเมอร์นี้ด้วย