พระเจ้าองค์เดียวของมิลาน :เมื่อ ซลาตัน ยังคงท็อปฟอร์มในวัย 39 ปี

 

 

เรามักจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า นักฟุตบอลอาชีพมักจะท็อปฟอร์มที่สุดในช่วงอายุ 22-29 ปี และบ่อยครั้งที่มันก็มักจะเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอ 

 

 

แต่ในลีก กัลโช่ เซเรีย อา เวลานี้ หลังจากผ่านพ้นมาได้ 9 นัดแรกของฤดูกาล บอกได้เลยว่าเวลานี้ การที่เราได้เห็น “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ยักษ์หลับแห่งแดนรองเท้าบูต กลับมาผงาดเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง นั้น พวกเขาไม่ได้มาเพราะโชคช่วยอย่างแท้จริง 

 

 

ซึ่งคีย์แมนสำคัญคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแข้งวัยเก๋าที่ฟอร์มจรัสแสงสุดๆในเวลานี้อย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่หวนคืนสู่ทีมเป็นคำรบ 2 

 

 

ไม่ต้องไปพูดถึงผลงานในอดีตว่า ซลาตัน นั้นเคยยิ่งใหญ่แค่ไหนใน ซาน ซีโร่ เอาปัจจุบันเพียวๆ ในนาทีนี้เลยคือดาวยิงสวีดิช ซัดไปแล้วถึง 10 ประตู ในลีก ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวแบบคนเดียวโดดๆ ทั้งทีเขานั้นได้ลงสนามไปเพียง 6 เกม เนื่องจากมีช่วงนึงที่ต้องถูกกักตัว หลังติดเชื้อโควิด -19 จนเจ้าตัวถึงออกมาบอกว่า “โควิดกล้าดียังไงที่มาติดตัวเขา”  

 

 

“ผมก็เหมือน เบนจามิน บัตตัน (ตัวละครในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง The Curious Case of Benjamin Button ที่มีอายุสวนทางกับคนปกติ) นั่นแหละ ผมแก่มาตั้งแต่เกิดและตายในสภาพที่เป็นคนอายุน้อย” นั่นคือคำที่ ซลาตัน เคยกล่าวเอาไว้ และเขาก็ทำได้จริงอย่างที่ว่า 

 

 

 

เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว การกลับมา อิตาลี หนนี้ของ  ดาวยิงวัย 39 ปี สร้างความประหลาดใจให้กับ เหล่าแฟนบอลและเหล่านักวิจารณ์กันไม่น้อย เพราะเมื่อพิจารณาถึงอายุของเขาหลายคนได้แต่ ปรามาศพร้อมตั้งคำถามว่าด้วยวัยขนาดนี้เขาจะทำยังไงที่จะฉุดให้ เอซี มิลาน ภายใต้การคุมทัพของ สตฟาโน่ ปิโอลี่ ที่เวลานั้นฟอร์มย่ำแย่สุดๆ กลับขึ้นมาจากปากเหวได้บ้าง 

 

 

แต่ภายในเวลา 1 ปี ซลาตัน ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า อายุนั้นเป็นเพียงตัวเลขจริงๆสำหรับเขา เพราะถึงเวลานี้สิริรวมในตลอดช่วงที่ผ่านมา เขายิงประตูไปแล้ว  20 ประตู จากการลงสนามเพียง 24 นัด และเป็นดั่งหัวหน้าแกงค์ที่พาแข้ง มิลาน สร้างผลงานยอดเยี่ยมมาจนถึงขณะนี้ 

 

 

ในเกมบิ๊กแมตช์ล่าสุดที่ทัพ “ปีศาจแดงดำ” บุกไปเอาชนะ นาโปลี ถึง ซานเปาโล 3-1 ดาวยิงสวีดิช แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขามีดียังไงหลังจากที่เขายิงประตูแรกของเกม ด้วยการโหม่งบอลเอาชนะ คาลิดู คูลิบาลี่ ที่ว่ากันว่าเป็นปราการหลังอันดับ 1 ของลีกไปได้แบบง่ายดาย ก่อนจะมาซัดได้อีกลูกจากการหาที่ว่างในกรอบเขตโทษได้ดีสุดๆ จนทำให้เวลานี้ทัพ “รอซโซ่เนรี่” ยังไร้พ่าย พร้อมนำเป็นจ่าฝูงกัลโช่ อย่างสง่าผ่าเผย 

 

 

ผลงานจากเกมดังกล่าว ส่งผลให้ ซลาตัน สร้างสถิติให้ตัวเองอีกครั้ง เมื่อกลายเป็นแข้งอายุมากที่สุดที่ยิงได้อย่างน้อย 10 ลูกในช่วง 8 นัดแรกของฤดูกาล ในกัลโช่ เซเรีย อา แถมยังกลายเป็นคนที่ 4 ที่ทำประตูได้ครบทุกนัดในการลงเล่น 6 เกมแรกของซีซั่นด้วย หลังเจ้าของสถิติเดิมอย่าง ซิลวิโอ ปิโอล่า เคยทำไว้ตอนเล่นกับ ลาซิโอ ในฤดูกาล 1942-43  ด้วยวัย 29 ปี ซึ่งน้อยกว่าดาวยิงสวีดิช ถึง 10 ปีเลยทีเดียว

 

 

ในวัยของ ซลาตัน เช่นนี้ คงต้องบอกว่า สิ่งสำคัญที่มากว่าการแสดงความมุ่งมั่น ,ทุ่มเท และมีระเบียบวินัย เพื่อเค้นศักยภาพทุกอณูออกมาจากตัวเองให้ได้ในช่วงท้ายอาชีพค้าแข้ง  บอกเลยว่าการปรับตัวให้เข้ากับทีม และรู้ว่าควรเล่นยังไง นั่นคือจุดที่ควรโฟกัสมากที่สุด 

 

 

อิบราฮิโมวิช แทบจะไม่วิ่งไล่บอลเลยด้วยซ้ำ เพราะเขารู้ดีว่าด้วยวัยเช่นนี้ ประโยชน์ของเขา นั้นมาจากประสิทธิภาพในเรื่องของลูกกลางอากาศ และการจับบอลสัมผัสแรก รวมไปถึงการอยู่ถูกที่ถูกเวลาในกรอบเขตโทษซะมากกว่า 

 

 

“ผมซ้อมอย่างหนัก ผมเชื่อในพลังของตัวเอง เล่นตามเกมของตัวเอง และพยายามสนุกกับมันก็เท่านั้น เมื่อแก่ตัวลง ผมกลับได้ความชาญฉลาดและประสบการณ์ที่มากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ผมไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เหมือนตัวเองเมื่อ 5-10 ปีที่ผ่านมาได้แล้ว แต่เกมของผมกลับพัฒนาขึ้น ผมรู้สึกได้ว่ามันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ” 

 

 

แม้เส้นทางใน กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลนี้จะยังอีกยาวไกล แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าหาก ซลาตัน ยังคงเล่นได้ท็อปฟอร์มเช่นนี้ เอซี มิลาน จะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่จะได้ท้าชิงบัลลังก์แชมป์ของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน 

 

 

บางทีแชมป์ 9 สมัยซ้อนของ ยูเวนตุส อาจยุติลงจากนักฟุตบอลคนเดียวในโลกที่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นทั้ง ราชา และ พระเจ้า 

 

 

พร้อมจารึกในประวัติศาสตร์ลูกหนังอีกครั้งว่าแข้งอายุ 40 ก็ยังเก่งได้ (โว้ย) ! 

 

 

                                  DaboyG