พรีวิว ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก : ลิเวอร์พูล vs เรอัล มาดริด

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

 

พรีวิว ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (รอบชิงชนะเลิศ) : ลิเวอร์พูล vs เรอัล มาดริด

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลา 02.00 .

ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1

ราคาต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.5

สนาม : สต๊าด เดอ ฟรองซ์

 

ความพร้อมของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : หงส์แดงมีผลงาน 5 นัดหลังสุดคือชนะ 3 และเสมอ 2 โดยเกมที่ผ่านมาพวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปได้ 3-1 ซึ่งในนัดนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ดิว็อค โอริกี้ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ในรายของ โจ โกเมซ ยังต้องรอเช็คสภาพความฟิตอีกครั้ง โดยในแดนกลาง คาดว่าทั้ง ติอาโก้ อัลคันทาร่า และ ฟาบินโญ่ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาน่าจะฟิตพอออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ส่วนสามประสานในแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , หลุยส์ ดิอาซ และ ซาดิโอ มาเน่ จะผนึกกำลังกันล่าตาข่ายคู่แข่ง

เรอัล มาดริด : ราชันชุดขาวคว้าชัยได้เพียงเกมเดียวจาก 4 เกมหลังสุด โดยนัดที่ผ่านมาพวกเขาเปิดบ้านเสมอกับ เรอัล เบติส ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ซึ่งในเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่ของทีม จะขาด มิเกล กูเตียร์เรซ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ในรายของ ดาวิด อลาบา และ แกเร็ธ เบล ยังต้องรอเช็คสภาพความฟิตอีกครั้ง โดยในแดนกลาง คาเซมิโร่ , ลูก้า โมดริช และ โทนี่ โครส จะเล่นร่วมกันเหมือนเดิม พร้อมวาง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ , วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า ไว้เป็นสามประสานในแดนหน้า

 

สถิติที่เคยพบกันมา 5 ครั้งหลังสุด : เรอัล มาดริด ชนะ 4 ครั้ง , เสมอกัน 1 ครั้ง

 

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (GK) , เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ , อิบราฮิม่า โกนาเต้ , เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , ฟาบินโญ่ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ติอาโก้ อัลคันทาร่า , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , หลุยส์ ดิอาซ , ซาดิโอ มาเน่

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ธิโบต์ กูร์กตัวส์ (GK) , ดานี่ การ์บาฆาล , เอแดร์ มิลิเตา , นาโช่ , แฟร์กล็องด์ เมนดี้ , คาเซมิโร่ , ลูก้า โมดริช , โทนี่ โครส , เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ , วินิซิอุส จูเนียร์ , คาริม เบนเซม่า

 

วิเคราะห์ : ตามหน้าเสื่อ ลิเวอร์พูล อาจดูเหนือกว่านิดหน่อย แต่งานนี้เชื่อว่า มาดริด จะไม่ปราชัยใน 90 นาที เหตุผลข้อแรกคือราชันชุดขาวมีเวลาให้รักษาสภาพความสดของทีมค่อนข้างนาน เนื่องจากคว้าแชมป์ลีกได้เร็ว เหตุผลข้อสองคือเรื่องขุมกำลังของหงส์แดง เพราะไม่รู้ว่า ติอาโก้ และ ฟาบินโญ่ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาจะฟิตแค่ไหน ทั้งยังขาดตัวสร้างความแตกต่างในแดนหน้าอย่าง โอริกี้ ด้วย และเหตุผลข้อสามคือด้วยความเป็นรอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ ลีก ทำให้ทั้งสองฝ่ายน่าจะเล่นกันแบบระมัดระวังมากกว่าปกติ อีกทั้งนัดชิงบอลถ้วยสองรายการก่อนหน้านี้ ทีมของคล็อปป์ก็ต้องไปตัดสินในช่วงดวลจุดโทษทั้งสองรายการ ฉะนั้น ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าท้ายที่สุดใครจะได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์ ศึกนี้มองว่าโลส บลังโก้ดีเกินกว่าที่จะโดนจัดการในเวลาปกติ

 

ผลที่คาด : เสมอ 1-1

 

บทความที่คุณอาจสนใจ : โคตรคัมแบ็ค : 8 เกมโกงตายของราชันรอบน็อคเอ้าท์เวที UCL

มาดริด ราชัน UCL